ช่วงนี้เข้าหน้าฝน มีหน่อไม้แทงหน่อออกมาให้ทานสดๆ จำนวนมาก คุณยายเลยอยากจะทำอาหารปักษ์ใต้อย่างหนึ่งให้ทานกันนั่นก็คือ "ต้มเค็มหน่อไม้สด" คุณยายบอกเป็นภาษาใต้ เพราะมีรสชาติเค็มเพราะใส่กะปิ(เคย) และยังมีหน่อไม้ไผ่ตงอีกด้วย ภาษากลางน่าจะเรียกว่า "แกงเลียงกะทิ" เพราะใส่ผักหลายชนิดและมีกะทิเป็นส่วนประกอบ

นอกจากนี้ ที่บ้านผมช่วงนี้มีต้นอ่อนทานตะวันอยู่เต็มไปหมด เพราะสามารถปลูกทานได้เอง ผมเลยเอามาใส่ในแกงเลียงกะทิสดใส่มากเสียจนมองไม่เห็นแกงเลยละครับ

ขอเชิญเพื่อนๆ ตามคุณยายไปเข้าครัวกันได้เลยครับ

 ไปดูส่วนประกอบที่คุณยายใช้ทำอาหาร กันก่อนนะครับ

1. หน่อไม้ไผ่ตงสัก 1/2 กก. นำมาปอกเปลือกและฝานบางๆ แล้วนำไปต้มให้สุุก 

 2. สะตอ 3 ฝัก นำมาแกะเมล็ดออกจากฝัก แล้วผ่าครึ่งสะตอทุกเมล็ด

 3. ชะอม 1 กำ (15บ.) นำมาหั่นให้เป้นท่อนเล็กๆ พองาม 

 4. ถั่วฝักยาว 1/2 กก.

 5. มะเขือยาว 1 กก.

 6. พริกขี้หนู ไม่ต้องทุบ เพราะจะเอามาใส่โรยหน้า ในขั้นตอนสุดท้าย แกงจะได้ดูสวยๆ

หมายเหตุ คุณยายบอกว่าวันนี้ส่วนประกอบของผักขาดไป 2 อย่างคือ ข้าวโพดอ่อน(1แพ็ค) และ

เม็ดมะม่วงหิมพานต์สดหรือเม็ดมะม่วงฯ ตามท้องตลาดก็ได้ครับ (แต่คุณยายชอบแบบสดๆ ครับ)

 7. กุ้งสด 2 ขีด (นับได้ 10 ตัว)

เอาล่ะ !! ก่อนอื่นเริ่มทำเครื่องปรุงกันก่อนนะครับ ..

 8. พริกไทยดำ 1 ขยุ้มมือคุณยาย กี่เม็ดก็นับกันเองนะครับ

 9. นำหอมแดง 3 หัวใหญ่ๆ มาแกะกลีบแล้วตำพร้อมกับพริกไทยดำ ให้พอละเอียด จากนั้นก็ใส่...

 10. กะปิ(ทำอาหาร) อีก 2 ขยุ้มมือ (ไม่ได้ชั่งนน. ให้ดูกะประมาณจากรูปละกันนะครับ)

 เมื่อพริกไทยดำ หอมแดง และกะปิได้ถูกตำให้เข้ากันแล้ว ก็นำกุ้งสดมาใส่ แล้วก็ ...

 ตำ.. ตำ.. ตำ.. พอให้ละเอียดแบบหยาบๆ เสร็จแล้วพักไว้สักครู่ ต้องไปทำที่ ...

 11. มะพร้าวขูด 1/2 กก. โดยนำน้ำมาใส่ แล้วแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ

ส่วนที่หนึ่ง ทำเป็นหัวกะทิสัก 300 มล. 

 ส่วนที่สอง ทำเป็นหางกะทิใช้ประมาณ 500-600 มล. โดยบีบหางกะทิใส่ลงไปใน ...

หน่อไม้สดที่ถูกต้มและนอนเล่นอยู่ในหม้อมาตั้งนานแล้ว

ตอนนี้เริ่มเปิดไฟ เตรียมปรุงอาหารกันได้เลยครับ

แต่ก่อนอื่นคุณยายใส่ 12. เกลือ 1/2 ช้อนโต๊ะ และ 13. น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ

 จากนั้น คุณยายก็นำเครื่องปรุงที่ได้ตำ อยู่ในครกเอามาใส่ในหม้อ

โดยตักน้ำกะทิใส่ลงไปในครก แล้วค่อยๆ ตักจนหมด

 จากนั้นก็ใส่ สะตอ ลงไป คุณยายบอกว่าถ้ามีเม็ดมะม่วงหิมพานต์ก็ให้ใส่ในขั้นตอนนี้ครับ

 คุณยายดูว่า กะทิยังไม่มันพอ เลยเติมน้ำหางกะทิลงไปอีกสัก 200 มล.

 เมื่อกะทิเดือดแล้ว ก็ใส่ถั่วฝักยาวลงไป

 ตามด้วยมะเขือยาว คุณยายบอกว่า ถ้ามีข้าวโพดอ่อน ก็สามารถใส่ในขั้นตอนนี้ครับ

จากนั้นคุณยายก็ลองชิมน้ำซุปดู รสชาติยังขาดเค็มและหวานอีกเล็กน้อย

เลยใส่เกลือลงไปเพิ่มประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ

 และน้ำตาลเพิ่มอีก 1 ช้อนโต๊ะ

 เมื่อน้ำซุปเดือด คุณยายก็ใส่ชะอมลงไป

เมื่อทุกอย่างใกล้สุก ก็ใส่ "พริกขี้หนู" ที่ไม่ต้องบุบลงไปเพื่อทำให้แกงสวยงาม

 และสุดท้ายก็ใส่ "หัวกะทิ" ลงไป

 แล้วก็คน..คน..คน..ให้ทั่วสักพัก แล้วปิดไฟ

 เตรียมตักทานกันได้แล้วครับเพื่อนๆ แต่ก่อนอื่น คุณยายขอตักเป็นชามแรก ไว้สำหรับ...

ตักบาตรพระ ตอนเช้าพรุ่งนี้ก่อนนะครับ 

ส่วนผม ต้องขอนำต้นอ่อนทานตะวันที่ปลูกไว้มาใส่เพิ่มในแกงมื้อนี้ก่อนดีกว่า

(อยากเพาะต้นอ่อนทานตะวัน คลิกที่นี่) 

ผมได้ตักแกงใส่ไว้ในชาม แต่เนื่องจากที่บ้านมีต้นอ่อนทานตะวันเยอะมาก เลยขอใส่ให้เต็มชามไปเลย

เพื่อนๆ เห็น "แกงเลียงกะทิ" หรือ "ต้มเค็มหน่อไม้สด" ในชามของผมบ้างไหมครับ??

***************************************************************************

วันนี้ผมได้พาเพื่อนๆ มารู้จักอาหารปักษ์ใต้ จากฝีมือคุณยายอีกอย่างหนึ่งก็คือ  

"ต้มเค็มหน่อไม้สด" หรือ "แกงเลียงกะทิ"

ซึ่งเป็นแกงที่สามารถใส่ผักลงไปหลายๆ อย่าง แต่สิ่งที่แตกต่างจากแกงเลียงภาคกลางคือ มีการใส่"กะทิ"ลงไปด้วย

นอกจากนี้ ผมยังใส่ "ต้นอ่อนทานตะวัน" ซึ่งตอนนี้ผมปลูกไว้เป็นผักประจำบ้านไปแล้ว เลยใส่ซะเต็มชามเลย

ขอเชิญเพื่อนๆ ล้อมวงเข้ามาทาน "ต้มเค็มหน่อไม้สด" หรือ "แกงเลียงกะทิ" ฝีมือคุณยายกันได้เลยครับ

-888-

*****************************************************************************

หมายเหตุ - อ่านรวมเรื่อง "อาหาร" โดย คนปทุมรักสุขภาพและครอบครัว   คลิกที่นี่