เมื่อวานนี้(2มค.58) ผมได้มีโอกาสไปไหว้พระที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งครอบครัวผมมักไปไหว้พระที่จังหวัดนี้กันเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงปีใหม่ของทุกปี ซึ่งปีนี้ก็ตั้งใจว่าจะไปไหว้พระที่วัดมงคลบพิตรและวัดอื่นๆ อีกสัก 1-2 วัด แล้วค่อยกลับบ้านเมืองปทุมฯ 

ปีนี้ก็เช่นเดียวกัน ผมได้ไปไหว้พระที่วัดมงคลบพิตร แต่ก่อนจะเดินทางไปวัดอื่นกันต่อ ก็ชวนเด็กๆ ไปเดินเที่ยววัดพระศรีสรรเพชญ ซึ่งผมและเด็กๆ ยังไม่เคยเข้าไปเยี่ยมชมวัดนี้เลย

เมื่อเข้าไปแล้ว ก็รู้สึกสลดใจกับภาพซากปรักหักพังของเจดีย์ต่างๆ ที่อยู่ในวัดนี้ นี่ถ้าวัดนี้ยังงดงามเหมือนเดิม คงเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกแน่นอน เพราะความยิ่งใหญ่ตระการตา แม้เป็นซากปรักหักพังของสิ่งก่อสร้างที่อยู่ในวัดนี้ตอนนี้ก็ตาม

ระหว่างการเยี่ยมชมรอบๆ วัด ผมกลับได้พบ สิ่งหนึ่งซึ่งดูแปลกตาไปก็คือมีการ "เรียงอิฐ" โดยใช้เศษอิฐ เศษปูนเรียงซ้อนเป็นชั้นๆ ให้สูงขึ้นไปหลายๆ ก้อน ครั้งแรกที่เห็นก็ไม่คิดอะไรมาก คิดว่าเป็นความบังเอิญ แต่หลังจากเดินไปเห็นจำนวนมากขึ้น เลยคิดว่า เรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นความบังเอิญแล้ว เลยขอนำเรื่องนี้มาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน 

ขอเชิญเพื่อนๆ ติดตามชมการ "เรียงอิฐ" ในวัดพระศรีสรรเพชญ จ.พระนครศรีอยุธยา กันได้เลยครับ

 เช้าวันที่ 2 มค.58 ผมและครอบครัวได้ไปไหว้พระและเยี่ยมชมวัดมงคลบพิตรกันก่อน

 ประตูทางเดินเข้าออกคนแน่นไปหมด แต่ผมก็อยากจะเดินเขาไปด้านใน (ถึงแม้จะมาไหว้พระที่นี่บ่อยๆ ก็ตาม)

เลยได้ภาพเก่าที่ติดไว้ที่ผนังในวัด มาให้ชมกัน 1 ภาพ 

เป็นภาพพระมงคลบพิตร ตอนที่พบครั้งแรก ดูทรุดโทรมมากนะครับ แต่ก็มีการบูรณะใหญ่ในปีพ.ศ.2499

ขอเชิญเพื่อนๆ อ่านประวัติหลวงพ่อมงคลบพิตรกันให้ละเอียดมากขึ้นนะครับ

เดินออกมาด้านหน้าวัด ซึ่งทางซ้ายมือ จะเป็นวัดพระศรีสรรเพชญ ผมเลยชวนเด็กๆ เข้าไปเยี่ยมชมวัดนี้กัน  

ก่อนเข้าไป ต้องอ่านประวัติของวัดพระศรีสรรเพชญกันก่อนนะครับ อ่านแล้วก็ต้องทึ่งกับความสำคัญของวัดนี้จริงๆ  

เดินเข้ามาด้านในกำแพงวัด ได้พบนักท่องเที่ยวจำนวนมากกำลังเดินและถ่ายภาพกัน

วัดนี้ ผมได้แต่เคยเห็นภาพซากปรักหักพังของเจดีย์ต่างๆ วันนี้โชคดีมากที่ได้มาเห็นกับตาตนเอง

วัดนี้จะมีจุดที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวมักมาชมกันก็คือ เจดีย์ใหญ่ 3 องค์ 

 ใกล้ๆ กับภาพที่แล้ว ก็มีการสร้างโมเดลจำลองของวัดแห่งนี้ ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน

ซึ่งผมพยายามจินตนาการถึงภาพในอดีต ที่วัดนี้มีความยิ่งใหญ่ ความอลังการ์ และมีความงดงามมากจริงๆ 

 ซากเจดีย์บางส่วนของวัดพระศรีสรรเพชญ ยังมีการซ่อมแซมกันอยู่

เดินไปพบนักท่องเที่ยวฝรั่ง นั่งทำท่าแปลกๆ บนก้อนหิน เลยบันทึกภาพมาให้ชมกัน 

ใกล้ๆ กันมีป้ายเตือนให้นักท่องเที่ยวห้ามปืนป่ายโบราณสถาน

ส่วนภาพที่แล้ว เพื่อนๆ คิดว่านักท่องเที่ยวฝรั่ง เข้าข่ายผิดหรือยังครับ?

 เดินไปเห็นรูปภาพของพระศรีสรรเพชญ เป็นพระพุทธรูปยืนองค์ใหญ่

ซึ่งปัจจุบันไม่มีแล้ว เพราะถูกพม่าเผาเอาทองไป

เดินไปพบป้ายที่มีภาษาไทย ภาษาจีน และภาษาอังกฤษ เขียนว่า ...

"การรื้ออิฐออกจากตัวโบราณสถานเพื่อก่อเรียงตามความเชื่อ มีความผิดตามกฎหมาย"

เห็นป้ายนี้ครั้งแรก ผมก็แปลกใจอยู่ว่า เขียนป้ายนี้กันทำไม? ก็ไม่เห็นมีใครมาเรียงอิฐกันตรงนี้เลย 

 แต่เดินไปอีกสักพัก เริ่มเห็นการเรียงอิฐ "กองแรก"ที่มีการเรียงอิฐขึ้นไป 6 ก้อน

แต่มองรอบๆ ก็เห็นมีแต่อิฐกองนี้กองเดียว ก็เลยคิดว่าน่าจะบังเอิญ ที่มีอิฐเรียงแบบนี้ 

 เดินมาด้านหลังของเจดีย์ 3 องค์ ที่มีความเด่นเป็นสง่าในวัด เขาเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เดินขึ้นบันไดไปชมเจดีย์

เพราะระหว่างเจดีย์ 3 องค์นี้จะมีมณฑปคั่นอยู่ แต่ตอนนี้มณฑปไม่มีแล้ว เป็นเพียงพื้นที่โล่งๆ 

ผมก็เลยชวนเด็กๆ ขึ้นไปชมกับเขาบ้าง แต่ภาพที่ผมพบด้านบนก็คือ ...

 มีการเรียงอิฐอีกหลายจุด สูงๆ ต่ำๆ แตกต่างกันไป ขอเชิญเพื่อนๆ ชมภาพการเรียงอิฐบนมณฑปนี้กันนะคัรบ

ก่อนจะเดินลงจากพื้นที่มณฑป ก็พบป้ายไม่ให้เรียงอิฐ พร้อมกับอิฐที่เรียงวางอยู่ใกล้ๆ กัน

แสดงว่าคนที่เรียงอิฐตรงจุดนี้ คงไม่สะทกสะท้านกับตัวหนังสือที่เขียนอยู่บนป้ายแน่ๆ เลย

เดินลงมาแล้ว ก็เดินชมซากสิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่อยู่รอบๆ วัด มีทั้งยอดเจดีย์

 ซากพระพทธรูป ที่มองแล้วไม่น่าจะเป็นองค์พระเลย คงถูกไฟไหม้เสียหายตั้งแต่ครั้งเสียกรุงศรีฯ

อ้าว..ใกล้ๆ องค์พระพุทธรูป ก็มีการเรียงอิฐกันอีกแล้ว (แต่เห็นมีแค่ 1 กอง)  

เดินชมความยิ่งใหญ่ของวัดพระศรีสรรเพชญกันต่อ 

และก็พบการ"เรียงอิฐ" อีก 1 กองอีกแล้ว 

เดินรอบๆ วัดแล้ว ก่อนออก เลยขอบันทึกภาพต้นพุทราซึ่งขึ้นอยู่เต็มไปหมด

ซึ่งน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาตร์ของการเสียกรุงศรีฯ 

ถ้าเพื่อนๆ ใครพอจะทราบถึงตำนานต้นพุทรา ช่วยบอกกันมาด้วยนะครับ 

ก่อนจะเดินทางออกตรงประตูที่เข้ามา ก็ยังเห็นก้อนอิฐที่เรียงไว้อีก 2 กอง

****************************************************************************

หลังจากกลับจากวัดพระศรีสรรเพชญมาถึงบ้านแล้ว ผมก็เลยลองค้นหาจากข่าวเก่าๆ ที่เคยเขียนไว้เกี่ยวกับเรื่องนี้ (อ่านข่าวเรื่องนี้ 1 2 และมีคลิปรายการข่าว คลิกที่นี่ ) 

ก็เลยทำให้ทราบว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เริ่มเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อตอนปลายปี 2556 ว่า ช่วงนั้นมีกรุ๊ปทัวร์นักเที่ยวชาวจีน ไต้หวัน และฮ่องกง ได้มีความเชื่อว่า ถ้าเรียงก้อนอิฐเก่าแก่ภายในโบราณสถานแล้วชีวิตจะยืนยาว การงานจะมั่นคงดีขึ้น ยิ่งเรียงสูงยิ่งเจริญรุ่งเรือง

โดยปกติแล้วชาวจีนสนใจเที่ยวโบราณสถานน้อย เพราะในประเทศจีนก็มีแหล่งท่องเที่ยวโบราณสถานจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะไปเที่ยวแหล่งบันเทิงมากกว่า เช่น พัทยา ภูเก็ต ทางบริษัทในประเทศจีนหลายบริษัทจึงจับมือกับบริษัททัวร์ในเมืองไทยทำโปรโมททัวร์แบบใหม่เป็นพิเศษ เรียกว่าทัวร์เรียงอิฐในโบราณสถานที่เป็นวัดในเขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อลูกทัวร์ได้มาท่องเที่ยวและเรียงอิฐในโบราณสถานแล้วจะมีอายุยืน ทำให้ลูกค้าจีนสนใจให้ความนิยม (ข่าวอ้างอิง คลิกที่นี่)

ทางผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่ามีนักท่องเที่ยวเรียงก้อนอิฐรอบโบราณสถานแล้ว และได้เข้าไปตรวจสอบ เท่าที่เห็นไม่ได้สร้างความเสียหายแก่โบราณสถานแต่อย่างใด เพราะเศษอิฐที่นำมาเรียงทั้งหมดก็เป็นเศษอิฐที่ล่วงหล่นอยู่ในโบราณสถานไม่ได้ขนมาจากที่อื่น ไม่มีการก่อฉาบ หรือทำการติดกาวยึดแต่อย่างใด

“ขณะนี้ตัวโบราณสถานอยู่ระหว่างการบูรณะหลังน้ำท่วม ประมาณเดือนเมษายนที่จะถึงนี้(เมย.2557) คาดว่าจะบูรณะเสร็จ และจะไม่มีเศษก้อนอิฐให้นักท่องเที่ยวได้นำมาเก็บเรียงอีก” (ข่าวอ้างอิง คลิกที่นี่)

*****************************************************************************

การเรียงอิฐของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่วัดพระศรีสรรเพชญ เป็นความเชื่อที่เชื่อว่า ถ้าเรียงก้อนอิฐเก่าแก่ภายในโบราณสถานแล้วชีวิตจะยืนยาว การงานจะมั่นคงดีขึ้น ยิ่งเรียงสูงยิ่งเจริญรุ่งเรือง

แต่การเรียงอิฐ ของนักท่องเที่ยวเมื่อปลายปี 2556 นั้นได้ทำให้เจ้าหน้าที่ของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา มีการเขียนป้ายถึงการนำอิฐมาเรียงแล้วมีความผิดทางกฎหมาย แต่ผมก็ไม่เห็นมีเจ้าหน้าที่มาจับคนที่เรียงอิฐ และออกข่าวทางสื่อให้รับทราบกันบ้างเลย 

อีกประเด็นหนึ่งก็คือ การที่ผู้บริหารของทางอุทยานประวัติศาสตร์ฯ กล่าวว่าจะไม่มีเศษก้อนหินให้นักท่องเที่ยวอีกต่อไปตั้งแต่ช่วง เมย.57 แต่วันนี้ (2มค.58) ผมก็ยังเห็นเศษก้อนหินก็ยังมีอยู่จำนวนมาก ไม่หมดไปเหมือนที่พูดไว้ในข่าว เลยทำให้นักท่องเที่ยวสามารถนำเศษอิฐมาเรียงกันเต็มวัดไปหมด 

ถ้ายังมีการเรียงอิฐกันในโบราณสถานแบบนี้กันอยู่ และไม่มีการลงโทษให้เห็นกันบ้าง ผมคิดว่า ต่อไปคงจะมีนักท่องเที่ยวอีกจำนวนมาก มาเรียงอิฐกันเต็มไปหมดในวัดทั่วประเทศไทย เพราะเขาเห็นว่า ทำแล้วไม่เห็นมีการลงโทษใดๆ เลย

แล้วถ้ายังปล่อยให้เป็นแบบนี้อยู่อีก การจะจัดการลงโทษ หรือเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมนักท่องเที่ยวไม่ให้มาเรียงอิฐ ต่อไปคงจะทำได้ลำบากมากขึ้น และอาจจะส่งผลถึงรายได้จากการท่องเที่ยวก็เป็นได้

เพื่อนๆ คิดว่า ควรลงโทษ หรือไม่ลงโทษกับคนที่ "เรียงอิฐ" ในโบราณสถาน

และถ้ามีการลงโทษ ควรลงโทษอย่างไรดีครับ ?

-666-