วันนี้(4กพ.58) ผมมีโอกาสได้ไปงานวันนักประดิษฐ์ที่เมืองทองธานี งานนี้จัดระหว่างวันที่ 2-5 กพ.58 เวลา 9.00-18.00 น.เหลืองานวันที่ 5 กพ.58 อีกแค่วันเดียว เขียน entry นี้เสร็จ งานก็จบพอดี (งานจัดน้อยวันมาก และจัดไม่ตรงเสาร์-อาทิตย์ด้วย)

 งาน “วันนักประดิษฐ์” จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ หรือ วช. ภายใต้แนวคิด “ความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจ" (Creativity & Inspiration) เน้นการสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน

ในงานนอกจากจะมีผลงานนักประดิษฐ์ไทย ทั้งเด็กระดับมัธยมศึกษา อุดมศึกษา หน่วยงานห้างร้านทั้งภาครัฐและเอกชนแล้ว ยังมีผลงานจากนักประดิษฐ์ต่างประเทศอีก 14 ประเทศมาร่วมจัดแสดงด้วย

ในงานมีผลงานอะไรที่น่าสนใจ ขอให้เพื่อนๆ ลองติดตามชมกันได้เลยครับ

 ด้านหน้าทางเข้างานวันนักประดิษฐ์ 2558 ผมมาตอน 10 โมงเช้านิดๆ คนยังไม่มากนัก

ด้านหน้าทางเข้ามีนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว(ด้านหน้า) และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี(ด้านหลัง) ซึ่งในนิทรรศการจะยกย่องในหลวง ซึ่งพระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ชอบประดิษฐ์คิดค้นของใหม่ๆ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาให้คนไทย

ซึ่งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ของทุกปี ถือเป็น“ วันนักประดิษฐ์” เพื่อให้คนไทยได้ร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว "พระบิดาแห่งการประดิษฐ์ไทย” และ “พระบิดาแห่งการประดิษฐ์โลก” ที่ได้ทรงคิดค้น “กังหันน้ำชัยพัฒนา” และทรงได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายสิทธิบัตรการประดิษฐ์ เมื่อวันที่ 2 ก.พ.36 ที่นับเป็นวันประวัติศาสตร์ของการจดทะเบียนและออกสิทธิบัตรให้พระมหากษัตริย์พระองค์แรกของโลกที่ทรงคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ที่เป็นประโยชน์แก่ประเทศ

 ในส่วนนี้จะเป็นนิทรรศการของสมเด็จพระเทพฯ  

 เข้าไปในงาน มีเวทีกลาง บนเวทีจะมีกิจกรรมการเสวนาอย่างต่อเนื่องกับนักประดิษฐ์มากมายที่เข้าร่วมในงานนี้

ผมดีใจมากที่ในงานมีเด็กๆ ทั้งเด็กเล็กจนถึงเด็กโตและคนทุกเพศทุกวัย สนใจเข้ามาร่วมชมงาน

ยิ่งเราปลูกฝังให้คนในชาติเราทุกเพศทุกวัยมีความคิดสร้างสรรค์มากเท่าไร ประเทศชาติก็ยิ่งเจริญมากเท่านั้น

 ในงานจะมีโซนนิทรรศการอยู่หลายจุด ตรงนี้จะเป็นนิทรรศการรางวัลสภาวิจัยแห่งชาติ

 อีก 1 โซนจะเป็น นิทรรศการผลงานประดิษฐ์คิดค้นนานาชาติ ประกอบด้วย ...

อังกฤษ อียิปต์ อิรัก เกาหลีใต้ ไต้หวัน อิหร่าน มาเก๊า จีน ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย โรมาเนีย ฮ่องกง และญี่ปุ่น

ผมได้แค่มองไม่ได้เข้าไป เพราะไม่เห็นมีคนยืนประจำบูธสักเท่าไร มานั่งตรงนี้เลยไม่รู้จะถามใคร

เดินชมโซนที่เป็นนักประดิษฐ์ของคนไทย ที่ได้รับรางวัลจากต่างชาติดีกว่า <ชิ้นงานมีมาก แต่เอาบางส่วนมาให้ชมกันครับ>

ชิ้นนี้เป็นเตาประหยัดพลังงาน 

 กังหนันสร้างพลังงานไฟฟ้าจาก ม.มหิดล

หม้อนึ่งข้าวเหนียวไฟฟ้า

ตู้ซักผ้าที่ควบคุมโดย RFID Card  

 เครื่องตัดก้นหอยและแยกเนื้อหอยออกจากเปลือก จากเทคนิคสุราษฏร์ธานี

ที่เลี้ยงกบ รูปร่างแปลกดี 

 นอกจากสิ่งประดิษฐ์แล้ว เครื่องสำอางจากสมุนไพรก็ได้รับรางวัลจากต่างประศมากมาย

 โซนนี้เป็นโซนเครือข่ายการวิจัยและนวัตกรรม

โซนนี้มีชิ้นงาน อาทิ เครื่องผลิตไบโอดีเซลขนาด 2 ลิตร 

 ไม้เท้าคนพิการหรือขาหัก และมีเก้าอี้นั่งในชิ้นงานเดียวกัน

 ชิ้นงานนี้ได้รับรางวัลระดับเหรียญทองเลยนะครับ เป็น"เตียงผู้ป่วยอัมพาต"ที่มีการพัฒนาเข้าสู่รุ่นที่ 3 แล้ว

 เครื่องล้างเมล็ดพันธุ์พืช เหมาะสำหรับฟักทอง แตงกวา <ต้องเป็นเมล็ดที่มีเส้นผ่าศก.ไม่เกิน2ซม.>

 ในงานยังมีบูธของนศ.ระดับมหาวิทยาลัย หลากหลายสถาบัน

 และยังมีบูธของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา น้องๆ เหล่านี้มาจากทั่วประเทศ

ในภาพน้องเขากำลังสาธิตเครื่องกระเทาะเมล็ดกระเจี๊ยบ

 เครื่องฉีกทุเรียน

 เครื่องเจาะเมล็ดมะยม

(พอดีมีตากล้องเข้ามาถ่ายภาพพอดี ต้องบอกไว้ก่อน เดี๋ยวจะคิดว่ากล้องเป็นส่วนหนึ่งของชิ้นงาน)

 เครื่องฝานผักต่างๆ ให้เป็นแว่นๆ ร้านอาหารน่าเอาไปใช้ดูนะครับ

 เครื่องหยอดขนมครก

เครื่องคั้นกะทิ โดยใช้มอเตอร์พัดลมเก่าๆ มาประยุกต์ในการประดิษฐ์ชิ้นงานนี้ 

 เครื่องเฉือนกล้วยอัตโนมัติ 

 เครื่องคัดแยกขนาดมะนาว โดยใช้แรงเหวี่ยง

ไม่น่าเชื่อว่าฝาชีที่ครอบอาหารก็เข้ามามีส่วนร่วมในงานประดิษฐ์นี้

 เครื่องที่ทำถ้วยจากใบกล้วย เห็นแล้วไม่อยากให้แม่ค้าใช้โฟมใส่อาหารเลยละครับ

กล้องจุลทรรศน์แบบประหยัด ต่อไปโรงเรียนไม่ต้องซื้อกล้องจุลทรรศน์แพงๆ อีกแล้ว 

เครื่องเฉือนเนื้อเยื่อพืช เพื่อเอาไปใช้ในงาน การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพิช

เห็นน้องเขาใช้แผ่นซีดี มาประยุกต์แล้วต้องขอปรบมือในความคิดนี้จริงๆ  

 เครื่องตีนุ่น

 เครื่องรีดผักตบชวาแห้ง พวกกลุ่มแม่บ้าน OTOP น่าเอาไปใช้ในงานจักสาน

นี่ก็เป็นชิ้นงานชนะเลิศ เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังงานน้ำขึ้น-น้ำลง ของวิทยาลัยการอาชีพพระสมุทรเจดีย์

ไม่น่าเชื่อว่าน้ำขึ้น-น้ำลงจะสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้

 หุ่นยนต์ฉีดพ่นยาฆ่าแมลง โดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นตัวขับเคลื่อน

ต่อไปไม่ต้องใช้คนแล้ว เพราะคนยิ่งฉีดยาฆ่าแมลงสุขภาพก็ยิ่งทรุดโทรมมากขึ้นเรื่อยๆ

โรงเรียนนายเรืออากาศก็มา สิ่งประดิษฐ์ของเขาคือ ..สายอากาศแอร์ฟอร์ซแอนเทนนา

สำหรับเชื่อมต่อเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบไร้สาย (Air Force Antenna for Wireless Computer Network Connection) 

เครื่องกายภาพผู้ป่วยได้เดินออกกำลังกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น

ส้วมเคลื่อนที่จากสุโขทัย เพราะที่นั่นน้ำท่วมบ่อย น้องๆ เขาก็เลยคิดส้วมเคลื่อนที่ซะเลย 

เครื่องเจาะมะพร้าว 

 เครื่องขึ้นรูปกาบมะพร้าวให้เป็นรูปดังภาพ วัสดุนี้จะใช้แทนโฟมช่วงลอยกระทง 

 ที่ปอกเลือกหอยนางรม เป็นโครงงานเพื่อสังคมของ บ.วิทยุการบินเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านจ.สตูล

เครื่องเพาะถั่วงอก โดยใช้หินเม็ดเล็กๆ ทับไว้ด้านบน ไม่น่าเชื่อว่ารดน้ำครั้งเดียวก็ได้ทานถั่วงอกได้แล้ว 

นอกจากสิ่งประดิษฐ์ก็ยังมีสัตว์อีกคือ ปลาหมอไทยยักษ์ ตัวใหญ่มากขนาด 4ตัว1กก. เลยทีเดียวครับ

ครกที่มีฝาชีปิดด้านข้าง ไอเดียแปลกดี คนคิดคงเห็นว่าส่วนผสมต่างๆ ในครกชอบกระเด็นออกมา

คราวนี้ถ้าเพื่อนๆ จะตำครกแล้วมีอุปกรณ์ชิ้นนี้ รับรองของที่ตำไม่กระเด็นออกมาแน่ 

คอมพิวเตอร์ที่ประกอบอยู่ในยางรถยนต์ 

 เครื่องอัดก้อนปลูกพืช จากเมืองแพร่

ที่กวาดขยะแบบไม้กวาดหมุนได้ เห็นแล้วก็ตลกดีครับใช้ไม้กวาดถึง 6 อันเลยทีเดียว ถนนจะสะอาดไหมครับเนี่ย? 

 ชิ้นงานนี้กองทัพเรือส่ง เสื้อเกราะกันกระสุนลอยน้ำ มาให้ชมกัน น้ำหนักของเสื้อเกราะ ~4 กิโลกว่าครับ 

น้องๆ กลุ่มนี้สนใจกล้องส่องทางไกลของพี่ๆทหาร หรือ..เจ้าหนุ่มน้อยคนนี้กำลังส่องสาวอยู่?? 

 หุ่นยนต์ที่หยิบของภายในบ้าน แต่ต้องตั้งโปรแกรมกันก่อน ถึงจะหยิบของให้เราได้ <น่านำประยุกต์ไปใช้กับผู้ป่วย>

 โซนสุดท้ายคือ นิทรรศการการพัฒนาหุ่นยนต์สร้างบ้าน เขากำลังสาธิตการหยิบยกของต่างๆ 

มีหุ่นยนต์จากหลากหลายสถาบันการศึกษา เห็นแล้วก็น่าทึ่งจริงๆ ที่เด็กๆ สมัยนี้คิดสร้างสรรค์ชิ้นงานกันได้ขนาดนี้ 

ก่อนออกจากงาน ได้เห็นถ้วยวางอยู่เต็มไปหมดเลยเดินเข้าไปอ่านที่ข้างถ้วย 

อ้อ..ผู้จัดงาน เขาเตรียมไว้มอบให้กับผู้ที่ได้รับรางวัลในแต่ละประเภทกัน 

************************************************************************

วันนี้ผมได้พาเพื่อนๆ มาเดินเที่ยวชมงานวันนักประดิษฐ์ 2558 มีชิ้นงานมากมายที่คนไทยได้คิดค้นกันขึ้นมา

ทุกชิ้นงานได้ผ่านการคิดจากคนไทย บางชิ้นงานก็ได้รับรางวัล บางชิ้นงานก็ไม่ได้รับรางวัล

แต่การไม่ได้รับรางวัลใช่ว่าสิ่งประดิษฐ์นั้นไม่น่าสนใจ แต่น่าจะเป็นจุดที่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจ

ในการคิดสร้างสรรค์ชิ้นงานที่ดีขึ้นต่อไป

ขอปรบมือให้กับนักประดิษฐ์ทุกท่านที่ช่วยสร้างสรรค์ชิ้นงานการประดิษฐ์

เพื่อทำให้สังคม และเศรษฐกิจประเทศไทยเจริญรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้นไป

-555-