*/
<< | เมษายน 2015 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | |||
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
เพื่อนๆ เคยมีปัญหาเกี่ยวกับการเก็บรักษา ผัก เนื้อสัตว์ อาหาร และเครื่องดื่ม เวลาไปปิคนิคหรือท่องเที่ยวทั้งก่อนไปและเวลาซื้อของสดกลับบ้าน กันบ้างไหมครับ ?? ส่วนผมมักมีปัญหาประจำ ก็เลยพยายามหาวิธีการ ที่จะทำให้ของมีความสดและเก็บได้นานขึ้น
Entry นี้ ผมจึงขอแนะนำการทำ"ตู้เย็นเคลื่อนที่" มาให้เพื่อนๆ ได้รู้จัก และได้ลองไปทำกัน "ตู้เย็นเคลื่อนที่" เป็นกล่องโฟมที่มีขวดน้ำแข็งใส่เอาไว้ เพื่อให้ของที่ต้องการแช่มีความเย็นและอายุการเก็บรักษายาวนานขึ้น นอกจากนี้ Entry นี้ผมได้ยกตัวอย่างการนำ"ตู้เย็นเคลื่อนที่" ไปใช้จริง มาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันอีกด้วยครับ
"กล่องโฟม" มักเป็นภาชนะที่ใช้ใส่ของเวลาไปปิคนิคหรือท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ กล่องโฟมมีหลายขนาด บ้านเพื่อนๆ มีกล่องโฟมขนาดไหนบ้างครับ ส่วนบ้านผมมีกล่องโฟม หลายขนาดมากครับ (มี 6 ขนาด) ทุกขนาดสามารถนำมาทำ "ตู้เย็นเคลื่อนที่" ได้หมดครับ
เมื่อก่อน ผมก็มักจะใช้ "น้ำแข็ง" ขนาดใหญ่หลายๆ ก้อน(ใส่ขันน้ำแช่ในช่อง Freeze) แช่ของเหมือนกัน แต่ปัญหาก็คือ เมื่อแช่ไปสักพัก "น้ำแข็งจะละลาย" ทำให้มีน้ำอยู่ก้นกล่อง บางครั้งทำให้ของเน่าเสียหาย
ในบางครั้งผมก็ใช้แท่งเจล แบบในภาพด้านบนแช่ของเหมือนกัน (แท่งนึงก็แพงเป็นหลักร้อยบาททีเดียว) แต่วันนี้ ผมจะมาแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักการทำ "ตู้เย็นเคลื่อนที่" แบบประหยัดเพื่อแช่ของกัน
ขั้นที่ 1 เลือก "ขวดน้ำพลาสติก" ที่ใช้แล้ว ขนาดใดก็ได้
ขั้นที่ 2 นำขวดเปล่า ไปใส่น้ำประปาให้เต็มขวด
หมายเหตุ เนื่องจากเนื้อวัสดุที่ใช้ทำขวดพลาสติกของแต่ละบริษัทแตกต่างกันไป ซึ่งผมมักใช้ขวดของบริษัทเครื่องดื่มยี่ห้อหนึ่ง เพราะเนื้อพลาสติกของเขาหนากว่าบริษัทอื่น
ขั้นที่ 3 นำขวดพลาสติกที่ใส่น้ำไปแช่ในช่อง Freeze ของตู้เย็น แช่จนน้ำในขวดเป็นน้ำแข็ง ซึ่งผมขอเรียกว่า "ขวดน้ำแข็ง"
ในช่อง Freeze ของตู้เย็นบ้านผม มี"ขวดน้ำแข็ง"อยู่เต็มไปหมดเลย (มี 10 กว่าขวด)
ขั้นที่ 4 เมื่อต้องการจะใช้งาน ให้นำขวดน้ำแข็งมาใส่ในกล่องโฟม กล่องขนาดใหญ่ก็ใส่จำนวนมากหน่อย
กล่องโฟมขนาดเล็กลงมา ก็ใส่ขวดน้ำแข็งให้น้อยลงมา
กล่องแบบนี้ใส่สัก 2 ขวดก็น่าจะพอดีกับการใช้งาน
ขั้นที่ 5 ใส่ของที่ต้องการแล้วปิดฝา แค่นี้ก็ได้"ตู้เย็นเคลื่อนที่" พร้อมเดินทางไปกับเพื่อนๆ แล้วครับ ****************************************************
ตัวอย่างต่อไปนี้เป็น"ตู้เย็นเคลื่อนที่" ที่ผมได้ประยุกต์ใช้งานจริงมาปีกว่าแล้ว ลองไปชมกันนะครับ
เนื่องจากในแต่ละครั้งที่ออกบูธขายของ ผมมีผักที่เตรียมไว้จำหน่ายก็คือ "ต้นอ่อนทานตะวัน" ซึ่งเป็นผักที่อ่อนแอ ต้องดูแลให้ดูใหม่และสดชื่นอยู่เสมอก่อนไปถึงมือลูกค้า
แต่ก่อนเอาไปขายก็แพ็คใส่ถุง เก็บไว้ที่บ้านก่อน 1 วัน
มีถังใส่ต้นอ่อนทานตะวันแบบนี้ (มีน้ำแข็งด้านล่าง) ก็คงไม่มีปัญหาต่อการเก็บสักเท่าใด แต่เวลาไปขาย คงไม่สามารถยกถังใหญ่ใบนี้ไปได้อย่างแน่นอน ดังนั้น "ตู้เย็นเคลื่อนที่" พร้อมขวดน้ำแข็ง จึงเป็นทางออกของการนำผักไปจำหน่าย
ตอนเช้าๆ ก่อนนำต้นอ่อนทานตะวันไปขาย ต้องเอาขวดน้ำแข็งใส่กล่องโฟมก่อน
แต่เพื่อไม่ให้ขวดน้ำแข็งสัมผัสกับต้นอ่อนทานตะวันโดยตรง (ผักอาจช้ำ เพราะความเย็นของขวดน้ำแข็งได้) ผมจึงหาถุงที่ใส่ดินปลูกต้นไม้(ทำความสะอาดและตากแดดให้แห้งก่อน) มาวางก่อนจะเรียงผักใส่กล่องโฟม หมายเหตุ นอกจากถุงที่ใส่ดินแล้ว อาจจะใช้หนังสือพิมพ์ห่อขวดน้ำแข็งไว้ก็ได้ครับ
จากนั้นก็วางเรียงต้นอ่อนทานตะวันใส่"ตู้เย็นเคลื่อนที่"จนเต็มกล่อง พร้อมนำไปขายหน้าร้านแล้วครับ
"ตู้เย็นเคลื่อนที่"พร้อมต้นอ่อนทานตะวัน เดินทางมาถึงหน้าร้าน เตรียมเอาออกมาจำหน่าย รับรองเลยครับว่า...ต้นอ่อนทานตะวันสดๆ ที่เตรียมมา ก็ยังสดใหม่ ดูน่าทานอยู่ตลอดเวลาครับ
*********************************************************************
วันนี้ผมได้แนะนำเพื่อนๆ ได้รู้จัก"ตู้เย็นเคลื่อนที่" ซึ่งเป็นอุปกรณ์ถนอมอาหารแบบง่ายๆ โดยใช้ขวดน้ำพลาสติก จนน้ำเป็นน้ำแข็ง ซึ่งผมเรียกว่า "ขวดน้ำแข็ง" จากนั้นก็นำขวดน้ำแข็งมาใส่ในกล่องโฟม เพื่อทำให้ผัก เนื้อสัตว์ อาหาร หรือเครื่องดื่ม มีความเย็น และทำให้การเก็บรักษาของที่แช่มีอายุยาวนานขึ้น
นอกจากนี้ผมยังได้ยกตัวอย่าง การนำต้นอ่อนทานตะวัน ไปใส่ใน "ตู้เย็นเคลื่อนที่" แล้วทำให้ผักมีความสดใหม่ ดูน่าทานอยู่ตลอดเวลา ใครเห็นก็อยากทานผักสดๆ กัน
เพื่อนๆ ลองทำ "ตู้เย็นเคลื่อนที่" แล้วประยุกต์ใส่ของแช่เก็บไว้กันบ้างนะครับ แถมช่วงนี้อากาศร้อนฝุดๆ ลองนำ"ขวดน้ำแข็ง" มาประยุกต์เพื่อทำให้คลายร้อนกันดูครับ -1234- ************************************************************************** หมายเหตุ มีสินค้าประเภทผักจากประเทศจีนส่งมาประเทศไทยก็ใช้วิธีที่ผมแนะนำ
(ภาพจาก www.thairath.co.th/) |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |