*/
<< | มิถุนายน 2015 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 |
ปกติเวลาเราพูดถึงพื้นที่ของการปลูกทุเรียนก็ต้องนึกถึงทางภาคตะวันออก เช่น ระยอง จันทบุรี ตราด เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ทางภาคใต้ตั้งแต่จ.ชุมพรลงไป และอีกพื้นที่หนึ่งก็น่าจะเป็น จ.นนทบุรี
แต่วันนี้ผมจะขอพาเพื่อนๆ มารู้จักพื้นที่ปลูกทุเรียนอีก 1 จังหวัดที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เลย นั่นก็คือ จ.ปทุมธานี อ่านไม่ผิดหรอกครับว่า จ.ปทุมธานีก็เป็นจังหวัดหนึ่งที่สามารถปลูกทุเรียนได้
สวนทุเรียนใน จ.ปทุมธานีที่ผมจะพาไปชมกันในวันนี้อยู่ที่อำเภอหนองเสือ เจ้าของสวนชื่อคุณสุพจน์ ตันพิชัย ได้ปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทองจำนวน 50 ไร่ โดยได้ปลูกมาแล้ว 12 ปี และเพิ่งจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ 5-6 ปีมานี่เอง
เจ้าของสวนบอกว่า ต้นเดือนมิย.แบบนี้กำลังอยู่ในช่วงปลายฤดูเก็บเกี่ยวแล้ว เพราะฤดูเก็บเกี่ยวของสวนทุเรียนเมืองปทุมฯ จะเก็บเกี่ยวปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนมิถุนายน แต่ผมก็ยังโชคดีที่พอยังมีทุเรียนปลายฤดูได้ชิมทุเรียนเมืองปทุมฯ กับเขาเหมือนกัน เลยซื้อกลับบ้านไป 4 ลูก ได้ทานแล้ว บอกได้เลยว่ารสชาติหอมหวานอร่อยมากครับ
เอาล่ะ...ขอเชิญเพื่อนๆ ไปเยี่ยมชมสวนทุเรียนเมืองปทุมฯ กันได้เลยครับ
สวนทุเรียนเมืองปทุมฯ นี้ สวนอยู่ที่ช่วงคลอง 9 ต.บึงสามกา อ.หนองเสือ <สวนทุเรียนห่างจากที่ว่าการอำเภอหนองเสือ ~10 กม.>
ได้เห็นลำน้ำในคลอง 9 ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่เจ้าของสวนทุเรียนใช้ในการรดน้ำ
มาถึงด้านหน้าสวนทุเรียน คนงานบอกว่า เจ้าของสวนไม่อยู่ ออกไปธุระข้างนอก เดี๋ยวก็กลับมา ผมก็เลยขอคนงานเดินชมสวนทุเรียน เขาก็อนุญาติ เปิดประตูบ้านต้อนรับให้ผมเข้าไปด้านในได้
เข้ามาแล้ว ก็เห็นบ้านของเจ้าของสวนเป็นบ้านชั้นเดียว ทาสีชมพูซะหวานแหววเชียว ตรงจุดนี้จะเป็นจุดที่เป็นหัวใจในระบบน้ำของสวน เพราะเป็นจุดที่ดูดน้ำจากคลอง 9 เข้ามาในสวน ได้เห็นเครื่องสูบน้ำพญานาคขนาดใหญ่มากๆ 1 เครื่องและขนาดย่อมๆ อีก 1 เครื่อง
เดินมาทางซ้ายของภาพที่แล้ว ก็จะเป็นถนนให้รถวิ่งรอบสวน ทางขวามือจะเป็นสวนทุเรียนครับ
มองเข้าไปจะเห็นสวนทุเรียน ที่ใช้การปลูกแบบยกร่อง มีคูน้ำล้อมรอบสวนทุเรียน
ในร่องสวนทุเรียนบางจุด ก็จะปลูกผลไม้อื่นๆ แซมอยู่บ้าง เช่น มะพร้าวน้ำหอม
บางร่องก็มีมะละกอแซม
บางร่องก็มีกล้วยแซม
เดินเข้าไปในสวนทุเรียนแห่งนี้ สัก 10 ร่องสวน ปรากฎว่า ได้เห็น ...
คนงาน 2 คนบรรทุกทุเรียนที่เก็บเกี่ยวใส่เรือท้องแบน(ชาวบ้านเรียกว่า"เรือส้ม") จำนวน 2 ลำ คนงานบอกว่าทุเรียนเหล่านี้มาจากด้านหลังของสวน ด้านหน้าสวนไม่มีให้เก็บแล้ว
ผมก็เลยเดินกลับมาพร้อมกับคนงาน โดยเขาบรรทุกทุเรียนใส่เรือเข้ามาเก็บไว้ที่บ้านของเจ้าของสวน
เรือลำแรกมาจอดเทียบไว้ตรงนี้ เตรียมเอาขึ้นมากองไว้ด้านบนของลานบ้าน
และช่วงนั้นเจ้าของสวน(คุณสุพจน์ ตันพิชัย) ก็กลับเข้ามาพอดี ก็เลยได้คุยกันเกี่ยวกับสวนทุเรียนแห่งนี้ คุณสุพจน์เล่าว่า เมื่อ 12 ปีที่แล้วพื้นที่ตรงนี้เคยเป็นสวนส้มมาก่อน แต่ต่อมาผลผลิตออกมาไม่ดี ทำให้เขาลองเปลี่ยนมาปลูกทุเรียนดู โดยเอากิ่งมาจากทางเมืองนนท์และทางภาคตะวันออก สวนทุเรียนมีจำนวน 50 ไร่ ปลูกแต่พันธุ์หมอนทองอย่างเดียว โดยปลูกมาได้ 12 ปีแล้ว แต่ผลผลิตเพิ่งจะออกมาให้เก็บเกี่ยวเมื่อ 5-6 ปีมานี่เอง
ช่วงนี้เป็นช่วงปลายฤดูแล้ว ตอนนี้เหลืออยู่น้อยเต็มที เพราะเก็บเกี่ยวมาตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนแล้ว โดยจะมีพ่อค้าจากตลาดรังสิต และสระบุรีมารับถึงสวนเลยไม่ต้องไปส่งที่ตลาด นอกจากนี้ยังมีคนในพื้นที่ โดยเฉพาะพนักงานทั้งภาครัฐและเอกชน ในย่านนี้ก็เข้ามาซื้อถึงที่ เรียกว่ามีทุเรียนออกมาเท่าไรก็ไม่พอขาย จึงทำให้คุณสุพจน์ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องการตลาดเลย
ระหว่างคุยไป คนงานก็เอาทุเรียนที่อยู่ในเรือ
โยนขึ้นมากองไว้ที่พื้น บนลานปูนหน้าบ้าน
โดยมีคุณสุพจน์คอยยืนดูอยู่ใกล้ๆ ผมก็เลยขอแบ่งซื้อสักกลับบ้านสัก 3 ลูก
ระหว่างคนงานโยนทุเรียนขึ้นมาจากเรือ คนงานก็ช่วยเลือกทุเรียนลูกสวยๆ ให้ผมไปด้วย
ได้ลูกสวยๆ แล้ว คุณสุพจน์ก็เอาทุเรียนที่ได้จากคนงานมาดมกลิ่น และใช้ไม้หุ้มพลาสติกมาเคาะ แล้วฟังเสียงทุเรียน และบอกว่าลูกนี้เอาไปไว้ที่บ้านอีก 2-3 วันค่อยเอาออกมาทานก็จะสุกพอดี
ส่วนอีกหนึ่งลูกคุณสุพจน์ก็ใช้ไม้เคาะและมีดคมๆ กรีดที่ทุเรียนเล็กน้อย ก็บอกว่าลูกนี้ทานได้พรุ่งนี้ครับ คุณภรรยาก็เลยได้ความรู้จากคุณสุพจน์ในการเลือกทุเรียนอีก 1 วิชา
ระหว่างนั้นคนงานก็ยังโยนทุเรียนขึ้นมาจากเรือไปเรื่อยๆ ไม่น่าเชื่อว่า เรือลำเล็กๆ จะบรรทุกทุเรียนได้มากขนาดนี้เลยหรือนี่? คนงานได้แบ่งทุเรียนเป็น 3 กอง โดยลูกสวยๆ จะไว้ในตะกร้าด้านขวา ลูกปกติจะกองไว้ตรงกลาง และลูกขนาดเล็กแยกไว้อีกกองหนึ่ง
ได้ทุเรียนหมอนทอง 3 ลูกแล้ว น้ำหนัก 8 กก.(กิโลละ 100 บ.) ก็ 800 บ.ครับ (จะเอาไปฝากเพื่อนบ้าน 2 ลูก) <ราคาต่อกิโลกรัมเท่ากับราคาในท้องตลาดครับ>
ระหว่างนั้นก็มีลูกค้าเข้ามาเรื่อยๆ กลุ่มแรกนี่เป็นข้าราชการในท้องที่บอกว่า จะนำทุเรียนไปถวายในวัง
คุณสุพจน์ก็เลยติดสติกเกอร์ที่ขั้วของทุเรียนทุกใบให้
ผมก็เลยขอถ่ายภาพสติกเกอร์ที่ติดอยู่ตรงขั้ว ซึ่งเขียนว่า"ทุเรียนหมอนทอง สวนสุพจน์ คลอง 9"
ระหว่างคุณสุพจน์กำลังยุ่งอยู่กับลูกค้ากลุ่มแรก ผมบังเอิญได้ไปพบป้ายไวนิลแผ่นหนึ่ง ทำให้ทราบว่าคุณสุพจน์ ได้ออกสื่อต่างๆ มาแล้วมากมาย ทั้งรายการโทรทัศน์และวารสารด้านการเกษตรตั้งหลายเล่ม
สักพักคนงานคนหนึ่งบอกผมว่าลูกนี้สุกคาต้น ถ้าเอากลับบ้านจะทานได้เลย ผมเลยบอกคุณสุพจน์ว่าขอซื้อเพิ่มอีก 1 ลูก จะเอาไปฝากคุณยายให้ทานวันนี้เลย น้ำหนักของลูกนี้ 2 กก.คิดเป็นเงินก็ 200 บ.ครับ
รวมเงินในการซื้อทุเรียนหมอนทอง ของสวนคุณสุพจน์ในวันนี้ 4 ใบก็คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 1,000 บ.ครับ
เมื่อลูกค้ากลุ่มแรกกลับไปแล้ว ผ่านไปไม่เกิน 5 นาทีก็มีลูกค้าอีกท่านหนึ่งเข้ามา เป็นข้าราชการในพื้นที่ เข้ามาสั่งทุเรียน 20 ลูก จะเอาไปฝากเพื่อนๆ และคนรู้จัก
และไม่เกิน 5 นาที ก็มีลูกค้ากลุ่มที่ 3 เข้ามาอีก 6 คน ก็เป็นข้าราชการในพื้นที่อีกแล้ว ต่างก็เลือกทุเรียนของสวนสุพจน์อย่างสนุกสนาน เพราะเจ้าของสวนและลูกค้าก็รู้จักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
มาเกือบชั่วโมงกว่าแล้ว ผมก็เลยขอตัวคุณสุพจน์กลับ ถ้ามีโอกาสจะกลับมาเยี่ยมสวนในฤดูกาลหน้า ก่อนกลับก็เลยบันทึกภาพทุเรียนที่ขึ้นมาจากเรือลำแรก รอลูกค้าคนใหม่เข้ามาเลือกซื้อกันต่อไป
ก่อนขับรถออกจากบ้านคุณสุพจน์ ก็เห็นคนงานยกลังที่ใส่ทุเรียนหลายใบ ไปไว้หลังรถลูกค้า เห็นแล้วก็น่าชื่นใจที่สวนทุเรียนแห่งนี้ มีผลผลิตและได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
เมื่อกลับมาถึงบ้าน คุณยายก็เลยปอกทุเรียนลูกที่สุกคาต้น แกะออกมาทานกัน ดูแล้วน่าทานไหมครับ?? ขอเชิญเพื่อนๆ เข้ามารับทุเรียนหมอนทอง จาก อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ทานกันได้เลยครับ
********************************************************************** วันนี้ผมได้พาเพื่อนๆ ไปเยี่ยมชมสวนทุเรียนพันธุ์หมอนทองที่คลอง 9 ต.บึงสามกา อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ซึ่งเกษตรกรที่ปลูกชื่อคุณสุพจน์ ตันพิชัย ได้บุกเบิกการปลูกทุเรียนแทนสวนส้มเมื่อ 12 ปีที่แล้ว ต้องพยายามฟูมฟักดูแลต้นทุเรียนมาจนกระทั่งเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เมื่อ 5-6 ปีมานี่เอง นับว่าเป็นเกษตรกรที่มีความอดทน อุตสาหะมากในการที่นำผลไม้ที่ไม่ได้เป็นผลไม้ท้องถิ่น ได้นำมาปลูกจนกระทั่ง มีผลผลิตออกมาได้เหมือนกับสวนทุเรียนที่อยู่ในพื้นที่อื่นๆ ของประเทศไทย
ผมขอชื่นชมและปรบมือให้กับเกษตรกรท่านนี้ ให้เป็นตัวอย่างกับเกษตรกรท่านอื่นๆ ในการคิดที่จะปลูกพืชผักหรือผลไม้ ที่มีความแตกต่างจากผู้อื่น ถึงแม้จะใช้เวลาตั้งหลายปี จึงจะมีวันนี้ได้ ซึ่งเกษตรกรท่านนี้ก็ได้พิสูจน์แล้วว่า "ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จย่อมอยู่ที่นั่น"
เพื่อนๆ ถ้ามีโอกาสมาเที่ยว จ.ปทุมธานี อย่าลืมแวะมาเยี่ยมชมและชิมทุเรียนเมืองปทุมฯ กันบ้างนะครับ -1234- |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |