เมื่อวานนี้(6 กค.58) ผมได้มีโอกาสไปทำธุระย่าน อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากถนนเส้นหนึ่งของ

อ.หนองแค จ.สระบุรี ซึ่งกำลังเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศว่าถนนมีการทรุดตัวลงลึก 3 เมตรและยาว 200 เมตร

ดูแล้วน่าหวาดเสียวมาก เหมือนกับโลกเราจะแตกเลยทีเดียว ดังรูป 

ถนนเส้นนี้เป็นถนนสายหนองแค-หนองเสือ ฝั่งซ้าย กม.ที่ 16-17 เรียบคลองระพีพัฒน์

ต.หมู่ที่ 8 ต.หนองโรง อ.หนองแค จ.สระบุรี  ทรุดลึกลงไป 3 เมตร เป็นทางยาว กว่า 200 เมตร

รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรได้ (ชมข่าวนี้ของสำนักข่าวเนชั่น คลิกที่นี่)

เรื่่องถนนทรุดนี้ ผมเคยได้ไปเห็นมาแล้ว ในจังหวัดปทุมธานี เมื่อ 2 ปีที่แล้ว

และได้เคยเขียนให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันมาแล้ว (อ่านเรื่องเก่า คลิกที่นี่) แต่ครั้งนั้นถนนทรุดแค่ประมาณ 1 เมตร

แต่ที่อ.หนองแค จ.สระบุรี ทรุดถึง 3 เมตร ผมจึงได้วางแผนขับรถไปดูหลังจากทำธุระเสร็จ

ผมใช้เส้นทางเรียบคลองรพีพัฒน์ช่วงประตูน้ำพระอินทร์ จ.อยุธยา ซึ่งจะต้องวิ่งจาก ถ.พหลโยธินแล้วเข้าตรงจุดนี้

ที่นี่ผมเคยพาเพื่อนๆไปเยี่ยมชมการสู้น้ำในย่านนี้มาแล้ว (อ่านเรื่องเก่า คลิกที่นี่)

จากจุดนี้เดินทางไปถึง อ.หนองแค จ.สระบุรี ประมาณ 30 กม.กว่าๆ 

 จากปากทางผ่านคลอง 1 คลอง 2 ไปเรื่อยๆ ซึ่งเป้าหมายของเรื่องนี้จะอยู่คลอง 13 ใน อ.หนองแค จ.สระบุรี

ถนนเรียบคลองรพีพัฒน์ช่วงคลอง 1 ถึงคลอง 10 จะมีถนน 2 ฝั่ง

โดยฝั่งหนึ่งจะเป็นถนนของ จ.ปทุมธานี (ผ่าน อ.คลองหลวงและ อ.หนองเสือ) 

อีกฝั่งหนึ่งจะเป็นของ อ.วังน้อย จ.อยุธยา ซึ่งผมขอใช้ถนนฝั่ง จ.อยุธยา

ปรากฎว่าถนนเส้นนี้ รถราต่างๆ ใช้น้อยมาก เหตุที่น้อยเพราะว่า ....

 สภาพถนนเป็นดังในภาพอยู่หลายจุดมาก(ด้านขวาเป็นคลองรพีพัฒน์) ก็เลยพอจะเดาได้ว่า

ทำไม? ไม่ค่อยมีคนใช้ถนนเส้นนี้เลย ถ้าไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดูแล

ถนนนี้ก็อาจจะยุบตัวเป็นข่าวดังไปกับเขาด้วยก็ได้ หน่วยงานที่รับผิดชอบ ช่วยเข้ามาดูแลให้ด้วยครับ 

 เมื่อถึงคลอง 10 ผมจำเป็นต้องเลี้ยวเข้าฝั่ง จ.ปทุมธานี จะเห็นได้ว่าทางฝั่งซ้ายของถนนเป็นคลองรพีพัฒน์

แต่ถนนใน จ.ปทุมฯ ตั้งแต่คลอง 1 ถึงคลอง 13 มีการใช้เสาเข็มตอกริมคลอง จึงทำให้ถนนไม่ยุบตัว 

เอาละ..ขับรถเข้ามาใกล้ถึงคลอง 13 ช่วง อ.หนองแค จ.สระบุรี แล้วนะครับ 

เมื่อเข้ามาถึงคลอง 13 ช่วงรอยต่อระหว่างอ.หนองเสือ จ.ปทุมฯ และอ.หนองแค จ.สระบุรี ก็จอดรถไปถามแม่ค้า

ว่าถนนที่เป็นข่าวอยู่ตรงไหน แม่ค้าบอกว่าอยู่ไม่ไกล ห่างจากตรงนี้ประมาณ 1 กิโลเมตรกว่า 

แม่ค้าบอกให้ข้ามสะพานแล้วเลี้ยวซ้าย แล้วขับตรงไปก็จะเจอเอง

(เป้าหมายของเราอยู่ประมาณตรงลูกศรครับ)

ดังนั้นเมื่อผมขับข้ามสะพาน จึงบันทึกภาพถนนข้ามคลองรพีพัฒน์ตรงช่วงนี้และมองไป

จะเห็นได้ว่า ทั้ง 2 ฝั่งริมคลอง ไม่มีการตอกเสาเข็มใดๆ ริมคลองเหมือนกับฝั่งจ.ปทุมธานี

ผมจึงคาดได้ว่า นี่ก็อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ถนนริมคลองใน จ.สระบุรีสามารถทรุดได้อย่างง่ายดาย  

 เมื่อข้ามสะพานมา เจอกับป้ายบอกถนนทรุด รถยนต์ตั้ง 4 ล้อ รถบรรทุกขึ้นไปห้ามผ่าน ให้ใช้ทางเบี่ยง

(ส่วนผมไม่ได้ขับรถผ่านไปถึงตัว อ.หนองแค ขอแค่เข้าไปชมดินที่ทรุด แล้วจะเลี้ยวรถกลับครับ)

 ต้องผ่านวิทยาลัยการอาชีพหนองแค จุดที่ถนนทรุดอยู่ห่างจากวิทยาลัยฯ ~500 เมตร

 เมื่อไปถึงจุดที่ถนนยุบ มีแผงกั้นไกลจากจุดเกิดเหตุสัก 100 เมตร ผมก็จอดรถไว้แล้วค่อยเดินเข้ามาดู

ได้เห็นสภาพถนนที่มีรถแบ็คโฮล์ล กำลังตักหินอยู่ และมีคนจำนวนมาก (น่าจะเป็นนักข่าวแน่ๆ เลย)

สภาพวันนี้(6กค.58) ถนนกำลังถูกปรับแต่งจากสภาพที่เห็นจากข่าวว่าถนนยุบ 3 เมตร

เวลานี้ไม่มีให้เห็นแล้ว แต่พอจะเห็นร่องรอยของถนนที่ทรุดตัวบางจุดอยู่บ้าง

 เส้นสีเหลืองกลางถนน ตอนนี้เอียงขึ้นไปตามการยุบตัวของถนน

 นักข่าวหลายสำนัก กำลังบันทึกภาพกันอยู่ ผมขอเดินเลาะๆ ผ่านหน้านักข่าวคนนี้ไปหน่อยนะครับ

 รถแบ็กโฮล์ลกำลังขุดหน้าถนนในส่วนที่เป็นยางมะตอยออก โดยรถเขาจะตักไปไว้ข้างๆ ถนนทั้ง 2 ข้าง

 ได้เห็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับการซ่อมแซมในครั้งนี้ได้มาเดินดูสภาพกันรวมทั้งมีทหาร 4-5 นายดูแลความสงบด้วย

เดินไปเดินมาก็ไปเห็นนักข่าวสัมภาษณ์ผู้บริหารของกรมทางหลวงชนบทตั้งหลายสำนัก

เลยขอลิงก์ข่าวของเนชั่น ได้สัมภาษณ์ ผอ.สนง.ทางหลวงชนบทที่ 2 (คลิกชมที่นี่)

นักข่าวมืออาชีพก็สัมภาษณ์กันไป ส่วนผมนักข่าวพลเมืองขอเดินรอบๆ พื้นที่ละกัน

เห็นรอยแตกแยกอยู่กลางถนน เลยถามพี่ทหารว่ามาเกิดขึ้นได้อย่างไร?

พี่ทหารบอกว่า ดินยังไม่หยุดการยุบตัว ตอนนี้ดินข้างล่างพื้นนี้ยังไม่หยุดการสไลด์

เมื่อวานนี้ตรงนี้ยังไม่มีรอยแยกอยู่เลย แต่วันนี้เกิดรอยแยกซะแล้ว

 ผมก็กังวลเหมือนกันว่า ถ้ามีการซ่อม และทำถนนชั่วคราวเสร็จ เพื่อให้รถเล็กวิ่ง

ถ้าถนนเกิดการทรุดแบบนี้กระทันหัน แล้วมีคนบาดเจ็บและชีวิตขึ้นมา แล้วใครจะรับผิดชอบ?

เดินมาเกือบ 200 เมตรก็ถึงปลายอีกด้านหนึ่งของถนนที่ยุบตัว ด้านนี้จะมีป้ายของกรมทางหลวงชนบทกั้นอยู่

มองไปทางคลองรพีพัฒน์ ซึ่งอยู่ทางขวามือ ก็จะเห็นถนนอีกฝั่งหนึ่ง และก็เห็น ...

รถบรรทุกขนาดใหญ่วิ่งกันไปมาตลอดเวลาเลย

ซึ่งก่อนหน้านี้ ถนนที่ทรุดนี้ก็ถูกพวกรถบรรทุกใช้เส้นทางนี้ วิ่งกันแบบไม่ยั้งเช่นเดียวกัน

น้ำหนักรถแต่ละคันที่บรรรทุกของ ไม่ใช่น้อยเลย นี่ก็คงอาจจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ถนนทรุดตัวลง

เมื่อถนนทรุดตัวลง ก็จะพาดินสไลด์ไหลลงคลอง ผมขอพาเพื่อนๆ ไปดูที่ดินสไลด์ลงในคลองนะครับ

จากภาพจะเห็นได้ว่า เนื่องจากน้ำในคลองก็น้อยลง จนไม่มีแรงดันดินที่อยู่ด้านบนถนน จึงทำให้ดิน

มีการเคลื่อนตัวสไลด์ลงมาจากช่วงถนนลงสู่คลอง จึงเห็นรอยแตกแยกของดินริมตลิ่งอีกด้วย

 ตอนนี้ผมได้ปีนขึ้นจากริมคลองขึ้นมาเจอนักข่าวก็ยังสัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้องกันอยู่

และตรงนี้ก็น่าจะเป็นระดับของถนนที่ยุบตัวต่ำสุดตามในภาพข่าว แต่รถแบ็กโฮล์ลได้กลบไปแล้ว

จึงไม่ได้เห็นภาพเหมือนในข่าวที่ถนนยุบตัว 3 เมตร น่าเสียดายจริงๆ

จะกลับบ้านแล้ว ขอเดินอ้อมนักข่าว เพื่อเดินลงไปที่ ....

 ทุ่งนาที่อยู่ติดกับสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งนายช่างของกรมทางฯ บอกผมว่าน้ำที่อยู่ข่างล่างนาแปลงนี้

มีการไหลเพื่อลงไปในคลอง (ตามแรงโน้มถ่วงของโลก ที่น้ำจะไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ)

จึงพานำดินที่อยู่ข้างล่างถนนไปด้วย จึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ถนนยุบตัว

ไม่น่าเชื่อเลยนะครับว่า น้ำในนาแห่งนี้ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาด้วย

 ยืนอยู่บนคันนาแล้วมองขึ้นไปบนถนน โอ้โห !!! สูงท่วมหัวเลย

เหตุที่เขาทำให้สูงเพราะ อยากให้คันดินนี้กันน้ำได้ ในกรณีถ้าเกิดมีน้ำจำนวนมาก

จะได้กั้นน้ำไม่ให้ชาวบ้านเสียหาย แต่ก็เป็นดาบ 2 คม ถ้าทำคั้นดินให้สูงแล้วเกิดการยุบตัว

ก็จะเกิดความเสียหาย ดังเช่นถนนเส้นนี้แหละครับ 

 เดินเลาะคันนามาเรื่อยๆ ก็ไปเจอกับรังนกกระจาบที่หล่นอยู่ตรงพื้น มีเศษหินที่รถแบ็คโฮล์ลขุดทับอยู่

เพราะถ้าอยู่ที่ถนนแห่งนี้ รังนกกระจาบนี้ก็จะถูกหินทับจนไม่มีค่าเลย

ผมเลยยกขึ้นมาทำความสะอาด และขอนำกลับมาห้อยบนต้นไม้ที่บ้านผมละกัน

น่าสงสาร...เจ้านกกระจาบก็พลอยได้รับกรรมในเหตุการณ์ถนนทรุดตัวครั้งนี้ ไปกับเขาด้วย

*****************************************************************

วันนี้ ผมได้พาเพื่อนๆ ได้มาชมสถานที่ที่ดินริมคลองรพีพัฒน์ช่วง อ.หนองแค จ.สระบุรี ได้ทรุดตัวลงกว่า 3 เมตรและยาวถึง 200 เมตร เนื่องจากน้ำในคลองรพีพัมน์ลดระดับลงอย่างมาก จึงทำให้ดินที่อยู่ข้างล่างมีการสไลด์ตัวลงคลอง

ซึ่งผู้รับผิดชอบในการแก้ไขคือกรมทางหลวงชนบท กำลังทำการซ่อมแซมเป็นวันที่ 2 ผมจึงไม่ได้เห็นภาพที่ดินทรุดตัวลง 3 เมตร ก็ได้เห็นแต่เพียงร่องรอยของการทรุดตัวบางจุดเท่านั้น

ช่วงนี้การยุบตัวของถนนที่อยู่ริมคลองในจังหวัดต่างๆ เช่น จ.สระบุรี จ.ปทุมธานี จ.อยุธยา และอื่นๆ  เพื่อนๆ คงได้ยินข่าวเช่นนี้บ่อยมากขึ้น เพราะสภาพอากาศที่ร้อน และฝนก็ไม่ตกต้องตามฤดูกาล จึงไม่มีน้ำไหลเข้าลำคลองต่างๆ จึงทำให้แรงดันน้ำในคลองที่เคยดันดินไว้ ก็ไม่สามารถดันดินไว้ได้ จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ถนนยุบตัวกันทั่วไปหมดเลย

เพื่อนๆ เคยมีประสบการณ์ ได้เห็นหรือได้ยินการทรุดตัวของดิน ที่อื่นๆ กันบ้างไหมครับ ?? 

-1111-