Entry นี้เป็นเรื่องที่อยู่ในวันเดียวกับ ที่ผมได้ไปสำรวจภัยแล้งย่านคลองรพีพัฒน์ตั้งแต่คลองหนึ่งจนถึงคลองสิบสาม (อ่านเรื่องเก่า คลิกที่นี่) 

ถนนหลายเส้นที่ผมเดินทาง ได้พบเห็นถนนยุบ เป็นหลุมเป็นบ่อเป็นระยะๆ แต่จุดที่ผมเห็น และคิดว่าได้รับความเสียหายมากที่สุด น่าจะอยู่ที่ถนนเลียบคลองสิบสาม ประมาณกิโลเมตรที่ 19.5 (วัดจากปากทาง ถ.รังสิต-นครนายกเข้ามา)

ถนนตรงนี้เสียหายเป็นระยะทาง 100 กว่าเมตร และยุบแบบเหมือนธรณีสูบกันเลยทีเดียว และที่สำคัญมีบ้านเรือนของประชาชนอยู่ติดถนนที่ยุบอีกด้วย

ขอเชิญเพื่อนๆ ไปชมถนนยุบและได้รับเสียหายมากจริงๆ กันได้เลยครับ

ผมขับรถมาจากคลองสิบสองเพื่อมาสำรวจน้ำคลองสิบสาม แต่เมื่อเจอป้ายในภาพ ซึ่งเขียนบอกว่า

ปิดการจราจรเนื่องจากถนนทรุด ทำให้ผมอยากเขาไปดูว่าทรุดลงไปมากน้อยเพียงใด

ก็เลยถามชาวบ้านแถวนี้ว่า ต้องเข้าไปอีกไกลไหม? ชาวบ้านบอกว่า "ประมาณ 1 กิโลเมตรกว่าๆ จากตรงนี้"

โอเค ! ไม่ไกลมากนัก อยู่ในวิสัยที่จะขับรถเข้าไปดูความเสียหายของถนนได้

ขับรถมาได้กิโลกว่าๆ ก็ต้องจอด ขับรถต่อไปไม่ได้แล้ว เพราะถนนข้างหน้าเสียหายมาก 

จอดรถเสร็จ เห็นเลข กม.ที่ 19.5 ข้างกำแพง เลยบันทึกไว้เป็นหลักฐานว่าอยู่พิกัดตรงไหน

 มองไปตรงถนนที่ได้รับความเสียหาย ด้านหน้ามีกรวยสีส้ม และแท่งแบริเออร์กั้นไว้ไม่ให้รถวิ่งต่อ

 เดินเข้ามาอยู่ด้านหลังแท่งแบริเออร์ ก็ได้เห็นสภาพถนนที่ยุบตัวมีอยู่ 2 ตำแหน่ง คือ

จุดแรก อยู่ตรงที่เพื่อนๆ เห็นในภาพ และอีกจุดหนึ่งอยู่ตรงกรวยสีส้มที่อยู่ไกลๆ โน้นละครับ

ถนนจุดแรกที่ได้รับเสียหาย น่าจะมีระยะทางที่ได้รับความเสียหายประมาณ 100 เมตร

ค่อยๆ เดินเข้าไปสำรวจกันนะครับ แต่ต้องค่อยๆ เดิน

เพราะกลัวรอยแยกจะแตกกว้างขึ้น เดี๋ยวจะดูดตัวผมเข้าไปในพื้นดินข้างล่างนะซิครับ

 เดินเข้าไปอีกนิด ทางขวามือ จะเห็นรอยแยกของถนนและดินข้างถนน จะเห็นได้ว่า

ถนนทรุดตัวลงไปเกือบ 1 เมตรเลยทีเดียว

มาดูทางซ้ายมือบ้าง ตรงกำแพงจะเห็นคราบของเส้นที่แสดงระดับพื้นที่เดิมก่อนถนนยุบ

มองดูระดับการยุบน่าจะมากกว่า 1 เมตรครับ และตรงกลางถนนก็แตกแยกเป็นริ้วๆ ดังภาพ

ขอเดินไปข้างหน้าอีกสัก 10 เมตร 

 เดินมาเรื่อยๆ อยู่ตรงกลางถนน ก็ขอภาวนาให้ถนนอย่ายุบตัวดูดผมไปอยู่ข้างล่างโลกนะครับ

 เดินไปอีกเล็กน้อย ทางขวามือไปเห็นบ้านของชาวบ้านหลังหนึ่งที่สร้างอยู่ติดกับถนนที่ยุบตัว

เห็นแล้วก็ได้แต่เอาช่วยว่าอย่าให้ถนนทรุดเพิ่มจนไปถึงตัวบ้านหลังนี้เลย

เดินมาถึงปลายทางของถนนช่วงแรกที่ยุบ แล้วมองกลับไปในเส้นทางที่ผมเดินบนถนนเมื่อสักครู่นี้

รู้สึกตื่นเต้นพอสมควร ที่เดินผ่านจุดนี้มาได้ แต่เมื่อมานึกถึงชาวบ้านที่อยู่ตรงนี้

พวกเขาคงอยู่กันอย่างใจระทึกตลอดเวลา ตราบใดที่ถนนยังมีการยุบตัวอย่างต่อเนื่องเช่นนี้

เอาละ..กลับหลังหันเพื่อเดินไปบริเวณที่ถนนยุบจุดที่ 2 กันต่อไป

 จุดที่ 2 ห่างจากจุดแรกไม่เกิน 10 เมตร มองไปแล้วก็เห็นถนนยุบ ดูคล้ายกับถนนช่วงแรกที่เดินผ่านมาแล้ว

แต่ระยะทางที่ถนนเสียหายดูเหมือนจะสั้นกว่าจุดแรก น่าจะมีระยะทางสัก 50-60 เมตร

 ค่อยๆ เดินเข้าไปทีละนิดๆ ก็จะเห็นสภาพถนนที่แตกแยกเหมือนกับช่วงแรก

โดยทางซ้ายมือจะเห็นเส้นแนวระดับถนนก่อนการยุบตัว มองดูแล้วจุดที่ยุบตัวมากที่สุดน่าจะประมาณ 1-1.5 ม.

ส่วนทางขวามือมีร้านค้าอยู่ 1 ร้านนี้อยู่ชิดกับถนนที่ทรุดนี้จริงๆ เห็นแล้วดูน่าหวาดเสียวจัง

 สภาพเส้นจราจรที่เบ้ไปเบ้มา เพราะถนนเกิดการยุบตัว

ผมยืนอยู่บนถนนชักเสียว ขอเดินขึ้นไปคุยกับชาวบ้านหน้าร้านค้าบ้างดีกว่า

 มีคุณลุงอยู่ท่านหนึ่งบอกว่า บ้านเขาเลยจากจุดนี้ไปสัก 2-300 เมตร เดินมาดูความเสียหายอยู่เรื่อยๆ

เพราะกลัวบ้านตัวเองจะได้รับเสียหายไปด้วย คุณลุงก็พูดถึงว่าการยุบเกิดขึ้นมาได้ 2 วันแล้ว

โดยถนนช่วงที่ผมเดินผ่านมาเกิดขึ้นก่อนตอนประมาณตีสี่

ส่วนแถวหน้าร้านนี้เกิดขึ้นตอนช่วงบ่ายสี่โมงของวันเดียวกัน

การยุบค่อยๆ ยุบ ไม่มีเสียงดังเลย เนื่องจากการยุบจะค่อยๆ ยุบไปทีละนิด จนเป็นสภาพอย่างที่เห็นนี่ละครับ

ยืนอยู่หน้าร้าน มองไปทางขวามือ ก็จะเห็นกรวยสีส้มตั้งอยู่ และเห็นมีช่องที่สามารถเดินออกไปนอกกำแพงได้

 เดี๋ยวผมจะเดินไปตรงช่องที่ออกไปด้านนอกกำแพงนะครับ

ก่อนจะออกไปดูด้านนอกกำแพง ขอบันทึกภาพของถนนที่ยุบ เพื่อให้เห็นสภาพโดยรวมของจุดที่ 2

 เดินออกมานอกกำแพง จะเห็นสภาพดินที่มีการยุบตัวเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะดินที่ติดกับกำแพง

จะเห็นแนวระดับที่ดินเคยอยู่เดิม มองกะด้วยสายตา น่าจะยุบตัวลงไป 50 ซม.

 ส่วนดินริมคลองก็มีรอยแยกเต็มไปหมด แสดงว่าดินกำลังเกิดการสไลด์ เตรียมที่ไหลไปอยู่ในคลอง 

และถ้ามีการไหลของดินไปอยู่ในคลองจริงๆ จะทำให้ดินที่อยู่ด้านล่างกำแพงสไลด์ตาม

ถนนที่ยุบตัวอยู่แล้ว ก็จะยุบตัวมากขึ้นไปอีก

โอ้ !! ช่างน่าเห็นใจชาวบ้านที่อยู่ตรงนี้จริงๆ เลยครับ

 เดินขึ้นไปซื้อน้ำและขนมในร้านค้า เลยได้คุยกับเจ้าของร้าน (น้องผู้หญิงเสื้อขาว)

น้องเขาบอกว่า เพิ่งทำร้านเสร็จได้ไม่นาน เพราะร้านเก่าอยู่ต่ำกว่าถนนมาก

เลยสร้างร้านใหม่ ที่อยู่ระดับเดียวกับถนน จะได้บริการลูกค้าได้ง่ายขึ้น

แต่ก็มาเจอเหตุการณ์ถนนยุบตัวหน้าร้าน ซึ่งก็กังวลอยู่มากเรื่องนี้ อยากให้ผู้รับผิดชอบมาซ่อมถนนนี้เร็วๆ

เพราะตอนนี้ลำบากมากในการเดินทางไม่ว่าจะเป็น ส่งลูกไปโรงเรียน หรือไปซื้อของมาขาย ฯ 

 น้องเขาก็ชี้ถึงผลกระทบจากถนนที่ยุบก็มี ...

1. รอยต่อระหว่างร้าน(ขวา)และพืนที่ติดกับถนน(ซ้าย) มีรอยแยกมากขึ้น <ของเดิมอยู่ชิดกัน>

 2. มีรอยร้าวแยกตรงหน้าร้าน มีอยู่หลายเส้นที่ร้าวอยู่เหมือนกัน

น้องเขากลัวว่าพื้นหน้าร้าน อาจจะเกิดการยุบตัว และอาจจะดึงตัวร้านตามไปด้วยก็ได้

ระหว่างคุยกันก็มีรถมอเตอร์ไซค์ที่จำเป็นต้องใช้เส้นทางนี้ในการสัญจรไปมา 

เห็นคนขี่มอเตอร์ไซค์ ผ่านจุดตรงนี้่แล้วก็หวาดเสียวแทนครับ

 คุณลุงบอกว่า ได้บอกแม่พระธรณีแล้วว่าอย่าเพิ่งทำให้ยุบตอนนี้ ขอใช้เส้นทางไปส่งผักหน่อย

เพราะถ้าไม่ผ่านตรงจุดนี้ จะต้องขี่รถอ้อมไปอีกหลายสิบกิโลเมตรมาก

ระหว่างคุยกันก็มีคนงานของกรมทางหลวงชนบทแบกแท่งพลาสติกมาใช้ปิดกั้นถนนเพิ่มเติมจากที่มีอยู่แล้ว 

ก่อนจากพื้นที่ตรงนี้ ผมก็ให้กำลังใจน้องเจ้าของร้าน

ในการสู้กับปัญหาถนนยุบตัวที่อยู่ตรงหน้าร้านขายของแห่งนี้ครับ

 ระหว่างทาง เพื่อเดินกลับไปขึ้นรถ ก็เห็นศาลพระภูมิ ที่อยู่ติดกับถนนที่ยุบตัว

ก็ยกมือไหว้ ขอพรจากศาลฯ ให้ถนนเส้นนี้หยุดการยุบตัว 

และขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบมาซ่อมแซมถนนตรงนี้ในเร็ววันด้วยครับ

***********************************************************************

 วันนี้ผมได้พาเพื่อนๆ มาสำรวจถนนเลียบคลองสิบสาม ช่วงกม.19.5

การยุบตัวของถนนเป็นระยะทาง 100 กว่าเมตรเลยทีเดียว

การยุบตัวเกิดจากดินที่อยู่ด้านล่างถนนเกิดการสไลด์ไปที่ริมคลอง

เพราะน้ำในคลองมีระดับต่ำมาก จึงไม่มีแรงดันดินที่อยู่ริมตลิ่ง 

จุดนี้เป็นจุดที่ผมคิดว่าได้รับความเสียหายมากที่สุดในการสำรวจน้ำและถนนของการเดินทางในวันนี้

ขอให้เพื่อนๆ เป็นกำลังใจให้กับชาวบ้าน ที่จะต้องต่อสู้กับภัยแล้งในปีนี้ ให้ผ่านไปด้วยดี

และขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง อย่างเร่งด่วนด้วยนะครับ

-678-