ช่วงฤดูกาลนี้เป็นช่วงฤดูกาลของเห็ดพื้นเมืองของภาคเหนือชนิดหนึ่ง

ซึ่งจะออกมากในช่วงต้นฤดูฝน

ชาวบ้านเรียกเห็ดถอบค่ะ

เห็ดถอบนี้จะออกมากตามในป่าตึง หรือป่าที่มีต้นใบตองตึง(พลวง)ขึ้นอยู่

แต่ภาพประกอบนี้ท่าทางจะเป็นป่าเต็งรังนะคะ

ตามที่คุณ BlueHill สะกิดมา(ด้วยความขอบพระคุณค่ะ)

 และเห็ดจะออกอยู่ตามพื้นดินมีลักษณะเป็นเม็ดกลม ๆ เล็กๆ

เหมือนก้อนหินรูปกลมๆ มนๆ อยู่ใต้ผิวดิน

ชาวบ้านนิยมใช้วิธีเดินขึ้นดอยไปเก็บเห็ดค่ะ

ส่วนใหญ่จะใช้มอเตอร์ไซต์เดินทางไปถึงตีนดอย

แล้วเดินเท้าขึ้นไปโดยมีเสบียงอาหารพกพาไปด้วย

และจะกลับลงมาในตอนบ่าย ๆ เย็น ๆ หรือเมื่อได้เห็ดตามต้องการ

จะสังเกตได้ว่าผิวดินปริ นูน ขึ้น ก็จะใช้ตะขอเหล็กขูด ๆ เขี่่ยดู

เห็ดมักจะออกเป็นกลุ่มกระจายบนพื้นดินค่ะ

 อุปกรณ์คือตะขอเหล็กสำหรับขูดผิวดินหาเห็ด

น้ำดื่ม อาหาร และที่สำคัญยาทากันยุงค่ะในป่ายุงเยอะมาก

นี่เป็นอุปกรณ์ของน้องครูในที่ทำงานค่ะ

วันหยุดน้องจะชอบไปหาเห็ดหรือหน่อไม้

ซึ่งช่วงต้นฤดูกาลเห็ดชนิดนี้จะอ่อนและมีราคาแพงมาก

สามารถสร้างรายได้ให้ชาวบ้านได้อย่างเป็นกอบเป็นกำเชียวล่ะค่ะ

ปีนี้เห็ดราคาดีมากค่ะต้นฤดูจะอยู่ที่ลิตรละ ๒๘๐ - ๓๕๐ บาท

หรือประมาณกิโลละ ๔๕๐ - ๔๘๐ บาท เชียวค่ะ(เป็นลิตรข้าวสารลิตรใหญ่ค่ะ)

ปัจจุบันเมื่อเห็ดมีมากขึ้นราคาจะตกเหลือลิตรละ ๕๐ - ๘๐ บาท

และกิโลละร้อยกว่าบาทแต่เห็ดปลายฤดูก็จะผสมไปด้วยเห็ดแก่ ๆ อ่อนสลับกันไป

เห็ดถอบถุงนี้เป็นฝีมือของเธอที่ไปหามาเองค่ะ

หมู่บ้านของน้องอยู่ติดภูเขาฉันขอยืมภาพสวย ๆ เหล่านี้มาจากเฟสของน้องค่ะ

เห็ดถอบเป็นชื่อพื้นถิ่นเหนือค่ะ

แต่ชาวภาคกลางหรือภาคอื่นๆจะเรียกว่าเห็ดเผาะ

วันนี้ฉันได้ของฝากเป็นเห็ดถอบถุงใหญ่จากเพื่อนร่วมงาน

 (คนละคนกับเจ้าของภาพนะคะ)

น้องบอกว่าแม่สั่งเพื่อนจากบ้านนอกที่ไปหาเห็ด

ให้เก็บเห็ดถอบอ่อน ๆ มาให้ค่ะจำนวนมากพอประมาณนะคะ

ได้เห็ดมาแล้วเราเอามาแช่น้ำก่อนนะคะ

เพราะว่าเป็นเห็ดที่เกิดขึ้นในผิวดิน

จะมีดินติดมาเยอะมาก เราต้องเอาแช่น้ำ

แล้วก็หาตะกร้าที่เป็นตะแกรงตาถี่ ๆ มาค่ะ

แล้วก็ใช้มือถูเห็ดกับตะกร้าให้เศษหินเศษดินหลุดออกจนหมด

จะทำใหดินหลุดออกไปง่ายกว่าที่เราจะขัดด้วยมือนะคะ

แล้วเราก็ซาวเห็ดขึ้นมาใส่หม้อต้ม ในขณะเดียวกันเมื่อเราตั้งเห็ดรอให้เดือด

เราก็จะล้างมะเขืออ่อน มะเขือกรอบ มะเขือพวง และถั่วฝักยาวให้สะอาด

แล้วนำมาต้มรวมกันค่ะแยกจากเห็ดนะคะ

เพราะว่าเห็ดถอบนั้นเวลาต้มน้ำของเห็ดจะมีสีดำ ๆ

และเห็ดจะสุกช้ากว่า สักพักเดียวพอน้ำเดือด

กลิ่นหอมฉุยของเห็ดถอบใหม่ ๆ ต้มสุกก็จะขจรขจายออกมา

เราสงเอาเห็ดขึ้นจากน้ำต้มพักไว้ให้เย็นก่อนค่ะ

แล้วเราก็ไปทำอย่างอื่นค่ะ เจียวกระเทียมกับพริกทอดเตรียมไว้

ในขณะเดียวกันก็ย่างหรือเผาน้ำพริก หนุ่มหรือพริกดอกใหญ่

แล้วก็หอมแดงค่ะกระเทียมด้วยก็ได้นะคะ

แล้วแต่ใครจะชอบย่างจนสุกหอม

 เราก็มาพักไว้ถ้ามันยังร้อนอยู่

ตอนนี้มะเขือกับถั่วฝักยาวที่เราต้มก็จะสุกเรียบร้อยนะคะ

 ตักใส่กะละมังพักไว้ให้เย็นแล้วก็ซอยให้เป็นชิ้นเล็กๆ

ชิ้นละประมาณครึ่งเซ็นต์นะคะ ปล่อยให้เป็นชิ้นเล็กๆ ซอยรวมกันพักไว้ก่อนค่ะ

แล้วเราก็เอาเห็ดถอบต้มที่พอจะเย็นลงแล้วมาซอยเป็นชิ้นเล็กๆ

ให้มีความบางนิดหน่อยพอได้เคี้ยวกรุบ ๆ นะคะ

เห็ดถอบสามารถใช้ปรุงได้หลายเมนูมาก ๆ เลยนะคะ

ต้มใส่ใบมะขามอ่อนทุบตะไคร้โรยเกลือซักหยิบมือ ให้รสเปรี้ยวนำเค็มตาม

ซดร้อน ๆ อร่อยอย่าบอกใครค่ะ (เมนูนี้คู่กับน้ำพริกกะปิจะยิ่งอร่อยขึ้น)

บางคนชอบผักใส่ใบโหระพาหมูสามชั้นและพริกดอกใหญ่

บางเมนูก็ใส่แกงอ่อม แกงเผ็ด หรือต้มใส่เกลือจิ้มน้ำพริกข่าป่น ๆ

หรือจะเป็นน้ำพริกตาแดง น้ำพริกอื่น ๆ ตามอัธยาศัยค่ะ

แล้วเราหันมาแกะพริกหนุ่มหรือว่าพริกดอกใหญ่เผานะคะ

แกะกระเทียมเผาหอมแดงเผาตามเข้าไปด้วยกัน

ค่ะเติมเกลือเข้าไปนิดนึงนะคะ

สูตรของคนเหนือก็ต้องใส่ปลาร้านิดหน่อยนะคะ

ให้มันมีหอมกลิ่นปลาร้าค่ะ แล้วก็ตำให้พอหยาบหยาบก็แล้วกันค่ะ

เมื่อทั้งหมดเข้ากันดีแล้วเอาถั่วฝักยาวลงไปตามก่อนค่ะเพราะถั่วฝักยาว จะเหนียว

ตำถั่วฝักยาวเสร็จแล้วเราก็เอาทั้งหมดตามลงไปเลยค่ะ

แล้วเราจะเติมน้ำปลานิดนึงนะคะแล้วแต่ชอบ

ขั้นตอนต่อไปมีอยู่ 2 อย่าง คือตักใส่จานโรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว ต้นหอมผักชี

แล้วรับประทานได้เลย หรือการนำไปผัด

ที่คนเหนือเรียวว่า “จ่าว” บางตำราจะย่างหมูให้สุกแล้วก็นำมาซอย ๆ

แล้วก็ผัดหรือบางตำราก็จะใส่หมูสับลงผัด

โดยการผัดจะเจียวกระเทียมก่อนนะคะ

 เสร็จแล้วเราก็นำหมูสับลงไปผัดพอสุกนะคะ

แล้วก็เอาเครื่องที่ตำเรียบร้อยแล้วลงไปผัด

ชิมรสตามชอบใจนะคะ แล้วเติมน้ำปลานิดนึงก็ได้จะได้หอมหอม

ตักใส่จานค่ะ โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียวกรอบ ๆ

และพริกทอดโรยด้วยต้นหอมผักชีหรือใบสะระแหน่

 กินข้าวนึ่งอุ่น ๆ ร้อน ๆ อร่อยนะคะ

มาค่ะมากินด้วยกัน...ค่ะสวัสดีพี่น้องโอเคทุกท่านค่ะ

ฝากรูปดอกไม้สวย ๆ ในป่าเมืองลำปางไว้ด้วยนะคะ

ขอบคุณภาพจากคุณครูปิ่นนภานะคะ