23 พฤศจิกายน 2564 ซ้อมได้ติดต่อกันสองวันแล้วโดยไม่มีอาการปวดหลังเท่าไรนัก เหลืออย่างเดียวคือรองช้ำ แม้จะสวมรองเท้าใหม่แล้ว แต่ก็ยังมีอาการอยู่หน่อย ๆ เช้านี้ก็เลยลองดูใหม่ด้วยการตื่นตั้งแต่ตีสี่ ขับรถออกไปที่สวนสมเด็จศรีนครินทร์ ไปถึงเกือบตีห้า คิดวางแผนว่าจะวิ่งไปเรื่อย ๆ โดยไม่หยุดสักสามชั่วโมง ไม่สนใจเพซหรือความเร็ว แต่พยายามวิ่งให้ได้ระยะเวลา ถ้าสมมุติว่าวิ่งได้ ไม่มีอาการบาดเจ็บเกิดขึ้น สามชั่วโมงผ่านไปด้วยดี อีกสี่ชั่วโมงที่เหลือก็ค่อย ๆ เดินบ้างวิ่งบ้าง ยังไงก็จบฟูลมาราธอนภายใน 7 ชั่วโมงแน่นอน คำนวนดูแล้ว ยังเหลือเวลาอีกอาทิตย์กว่า ๆ ขอแค่ไม่ปวดหลัง ผมเชื่อมั่นว่า ต้องจบแน่นอน ตรังมาราธอนบ้านเกิดนั้นเป็นความตั้งใจแน่วแน่ว่าจะต้องลงสนามให้ได้ เพราะโควิดทำให้งานเขาเลื่อนแล้วเลื่อนอีก จนมาลงตัวเองในวันที่4 เดือนหน้า และบังเอิญเป็นช่วงที่ผมดันมาเจ็บหลังเอาพอดี
ยืดเหยียดอยู่พักใหญ่ และก็ลองเดินไปรอบบึงน้ำกว้างใหญ่จนครบรอบ ระยะ 1.75 กิโลเมตร เหงื่อซึม จากนั้นก็ลงมือวิ่งเหยาะ ๆ พยายามไมสนใจความเร็ว จะเป็นเพซ 9 หรือ 10ก็ไม่เป็นไร วิ่งในเพซ 10 ถ้าไม่หยุด เพื่อนนักวิ่งคนหนึ่งยืนยันว่า จบมาราธอนภายใน7 ชั่วโมงตามกำหนดร้อยเปอร์เซ็นต์
ชั่วโมงแรกผ่านไปโดยไม่รู้สึกเจ็บหลัง ฝ่าเท้าบริเวณรองช้ำ ก็แทบจะไม่รู้สึกปวด ขึ้นสู่ชั่วโมงที่สอง แวะซื้อน้ำที่ร้านชำข้างประตูขวดหนึ่ง ดื่มหมดไปเกือบครึ่งแล้วก็วางฝากไว้กับต้นหูกวางข้างประตู ยามอายุรางห้าสิบปลาย ๆ หันมามองแล้วพยักหน้าเหมือนจะบอกเป็นนัย ๆ ว่า ไม่เป็นไรวางไว้เถอะ ก่อนหน้านี้หลายเดือนที่ผ่านมา มีข่าวว่าพวกโจรสวะไปวางยาในขวดน้ำดื่มของนักวิ่งแถวศาลากลางนนท์ พอนักวิ่งมึน ๆ ก้าวเดินไม่ตรงทาง เซไปเซมา เขาก็จะเข้ามาทำทีเป็นช่วยเหลือแล้วก็ใช้ทีเผลอปลดนาฬิกาวิ่งออกไปจากข้อมือทันที ทำสำเร็จมาได้กี่รายไม่รู้ แต่รายสุดท้ายนั้นไม่สำเร็จ เป็นนักวิ่งหนุ่มแข็งแรง พอรู้ตัวว่านาฬิกากำลังจะถูกปลดออกไปข้อมือก็ต่อสู้ขัดขืน และส่งเอะอะโวยวาย ต่อยเป้าตาจนโจรกระจอกล้มคว่ำ มีนักวิ่งคนอื่น ๆ กรูเข้ามาจับตัวไว้ ก่อนจะส่งใหตำรวจ เป็นข่าวโด่งดังไปทั่ว ออกรายการโทรทัศน์ด้วย ผมวิ่งอยู่แถวนั้นบ่อย ๆ ก็นึกหวาดเสียวอยู่เหมือนกัน ชอบวางขวดน้ำไว้ตามโคนต้นไม้ ตั้งแต่มีข่าวนักวิ่งโดนมอมยา ผมก็จะเอาไปฝากไว้ที่ร้านขายน้ำของภรรยาพี่ประสงค์ทุกหน หล่อนว่า โจรคงไม่มาแล้ว ข่าวดังออกอย่างนั้น ผมก็ไม่ว่าอะไร แต่นึก ๆ แล้วหวาดเสียว เกิดโดนวางยาเข้าสักหน นาฬิกาหายนั้นไม่ค่อยกลัวเท่าไร แต่กลัวกินยาเข้าไปแล้วเกิดตายขึ้นมาจะทำอย่างไร
พวกโจรนี่แฝงอยู่ทุกวงการ มาได้ไม่เว้นแม้แต่วงการนักวิ่ง หลอกขายบิบบ้าง หลอกขายห้องพักบ้าง หลอกขายรองเท้า ผมก็เจอเข้ากับตัวเอง อยากได้รองเท้ายี่ห้อำยกี้ ราคาถูก ในที่สุดก็ได้รองเท้าห่วยมาจากจีน ส่งกลิ่นยางเหม็นหึ่งตั้งแต่ยังไม่แกะกล่อง ตั้งแต่นั้นมา อะไรก็ตามที่เป็นอุปกรณ์วิ่งก็จะไม่ซื้อตามเพจขายของอีก อยากได้ของดีองแท้ ไม่ว่าจะเป็นรองเท้าถุงเท้านาฬิกา หมวก เสื้อ กางเกง หรือแว่นกันแดด ก็เดินเข้าห้างเลยจะดีกว่า ได้ของแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ชั่วโมงที่สองผมก็ยังวิ่งได้เรื่อย ๆ ไม่เหนื่อย ไม่เจ็บ รู้สึกผ่อนคลายสบายใจขึ้นมาก คิดไปถึงอนาคตข้างหน้า สมมุติว่าวันแข่ง ผมวิ่งโดยไม่หยุดสามชั่วโมงได้ระยะทางประมาณ 21หรือ22 กิโลเมตร เหลือเวลาอีก4 ชั่วโมง สำหรับครึ่งทางที่เหลือ ก็อาจสามารถวิ่ง ๆ เดิน ๆ จบมาราธอนได้สบาย ๆ คิดแล้วก็รู้สึกมั่นอกมั่นใจขึ้นกว่าเดิม
วิ่งจนครบสองชั่วโมง ผมแวะดื่มน้ำจนหมดขวด ก่อนจะมุ่งไปที่ร้านค้าข้างบึงอีกครั้ง ป้าเจ้าของร้านอายุราว70กว่า เป็นหญิงเจ้าเนื้อ นั่งเอ้เต้ประจำอยู่ที่โต๊ะหินอ่อน ใครอยากได้เครื่องดื่มอะไรก็เปิดตู้เย็นหยิบเอาเอง เสร็จแล้วก็เดินมาจ่ายเงินที่ป้า ตรงข้ามร้านป้ามีรถเข็นายลูกชิ้นและใส้กรอกปิ้ง มียำลูกชิ้นด้วย กล่องละสามสิบบาท ผมเห็นแล้วรู้สึกเปร้ยวปาก เคยสั่งกินแล้วครั้งหนึ่ง ลูกชิ้นแข็ง ๆ เต็มไปด้วยแป้งล้วน ๆ พอเอามาราดน้ำยำ มีรสเปรี้ยวรสเผ็ดปนน้ำปลาก็อร่อยขึ้นมาทันที แต่เท่าที่สังเกตไม่ค่อยมีนักวิ่งมาอุดหนุนเท่าไรนัก อย่างว่านักกีฬาจะไม่กินของแบบนี้ เลือกเฟ้นแต่ของดีมีประโยชน์ โค้กไม่กิน เป๊บซี่ไม่ดื่ม เกลือแร่ไม่เอา ดื่มแต่น้ำเปล่ากันแทบทุกคน ผมเองก็พยายามทำแบบนั้น แต่เวลาวิ่งหนัก ๆ ไม่เคยพลาดที่จะยกกระป๋องโค้กขึ้นดื่มอัก ๆ จนรู้สึกชื่นใจ เคยไปวิ่งที่เชียงใหม่ รายการดังของโปรหนำ ระหว่างทางอยากกินโค้กใจจะขาด คิดว่าถ้ามีใครขายกระป๋องละร้อยก็จะซื้อ แต่เมื่อวิ่งอยู่ในป่าในเขา ก็ไม่มีใครเอามาย วิ่งจบเอาตอนตีหนึ่ง รับเหรียญรับเสื้อเรียบร้อยก็เดินไปหาโค้กที่เซเว่นอีเลฟเว่น ดื่มจนหมดกระป๋อง รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก แต่เวลาซ้อมผมก็เลี่ยงที่จะดื่มน้ำอัดลม พยายามอดทนเอาไว้เสมอ ดื่มแต่น้ำเปล่า อย่างดีก็หาซื้อสปอนเซ่อร์มาวางไว้สักขวด ป้าคนขายมักจะพูดกับผมว่าสิบบาท รับเหรียญสิบโยนใส่ตะกร้าแล้วหันหน้าไปมองทางอื่นเหมือนไม่ใยดี
ชั่วโมงที่สามผมวิ่งช้าลงกว่าเดิม สับเท้าวนไปเรื่อย ๆ รอบสระครั้งหนึ่งก็ได้รถยะทาง 1.75 กิโลเมตร สามรอบก็ได้ 5 กิโลเศษ หกรอบก็สิบกิโลกว่า ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง และเป็นไปตามแผน ผมวิ่งสามชั่วโมงเต็ม กดดูนาฬิกาพบว่าวิ่งได้ 20 กิโลเมตร ยังไม่รู้สึกล้าเท่าไร ก็ลองวิ่งต่อไปอีกหนึ่งกิโลเพื่อให้ได้ 21 ถือว่าจบฮาร์ฟมาราธอนไปหนึ่งครั้ง หยุดเดินเล่น และยืดเหยียดอีกสิบกว่านาที ใจก็ชื้นมาเป็นกอง เวลาที่เหลือถ้าสามารถซ้อม 3 ชั่วโมงได้อีกสักครั้งสองครั้ง ค่อนข้างแน่ใจว่า ยังไงงานวิ่งที่ตรัง ลงสนามได้แน่ แต่ก็ยังหวั่นใจว่า พรุ่งนี้หลังจากหลับไปหนึ่งตื่น ตอนเช้าอาการปวดหลังจะกำเริบอีกหรือไม่ ถ้าไม่ก็แสดงว่า อุปสรรคเรื่องสังขารไม่เอื้ออำนวยนั้นได้ถูกทำลายลงไปเรียบร้อย
9.00 น. ผมยังยืนอยู่ในสวนสาธารณะ พยักหน้าทักทายกับคนนั้นคนนี้ ส่วนใหญ่เป็นนักวิ่งที่คุ้นหน้าคุ้นตากัน แม้ว่าจะไม่รู้จักหรือพูดคุยกันอย่างสนิทสนม แต่จากการที่มาซ้อมกันทุกเช้าหรือทุกเย็น ก็จะเห็นคนหน้าเดิม ๆ วิ่งกันอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง วิ่งกันอย่างเอาจริงเอาจัง บางคนซ้อมยี่สิบกิโล บางคนซ้อมสามสิบ บางคนก็ซ้อมไปเรื่อย ๆ เหนื่อยก็พัก ระหว่างยืนสูดอากาศบริสุทธิ์อยู่ในสวน ผมนึกถึงพี่เอี้ยง เธอไม่ค่อยไปซ้อมที่อื่นนอกจากที่สวนหน้าศาลากลางนนท์ พี่เอี้ยงมาสนามตั้งแต่ตีสี่ และวิ่งไปเรื่อย ๆจนถึงสามทุ่ม สวนสาธาณะปิดประตูรั้ว พี่เอี้ยงถึงจะเดินกลับบ้านที่ซอยเรวดี เคยถามว่า วิ่งไปกี่กิโลแล้วครับ พี่เอี้ยงบอกว่า วันนี้จะให้ครบร้อยกิโลถึงจะหยุดพัก ร้อยกิโลนั้นต้องวิ่งกันตั้งแต่เช้ามืดจนค่ำ เดือนหนึ่งพี่เอี้ยงมักจะซ้อมยาวประมาณนี้อยู่หลายครั้ง เวลาพี่เอี้ยงชวนลองรันทีไร ผมก็จะรู้สึกขนหัวลุก ไม่สบาย เป็นไข้ขึ้นมาทันที บอกเธอเสมอว่า ไม่ไหวครับ สักสามสิบนั้นพอทน แต่ร้อยกิโลนี่ จะทำให้เป็นภาระต่อพี่เอี้ยงเปล่า ๆ คิดถึงพี่เอี้ยงแล้วก็พยายามหันมองหานักวิ่งแบบเธอที่มาตั้งแต่เช้ามืดและวิ่งไปเรื่อย ๆ จนค่ำในสวนแห่งนี้ แต่ก็ดูเหมือนจะไม่มี
รู้สึกสบายตัวและเหงื่อแห้งดีแล้ว ผมเดินกลับไปที่รถ เปลี่ยนเสื้อ เปลี่ยนรองเท้า แล้วก็ขึ้นกลับไปทำงานที่บ้านต่อ...
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | มีนาคม 2022 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | ||
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 |