แฟนบีจี รับไม่ได้ ผู้ตัดสิน นิวัฒน์ อินสะอาด ทำแฟนป่วนสนาม

                การแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ลีค คัพ เดินทางมาถึงรอบรองชนะเลิศกันแล้ว ซึ่งปี 2012 มีเพียง 4 ทีมที่เข้ารอบได้แก่ บางกอกกล๊าส เอฟ ซี พบ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ ราชบุรี มิตรผล พบ ทีโอที ซึ่งทำการแข่งขันกันในค่ำวันนี้ (26 กันยายน 2555)

          ที่สนามลีโอสเตเดี้ยม มีแฟนบอลเข้าชมประมาณ 6,000 กว่าคน เริ่มแข่งในเวลา 1 ทุ่มตรง

            การแข่งขันเป็นไปอย่างดุเดือดและสุดมันส์ เมื่อทางบุรีรัมย์ นำไปก่อน 2-0 บางกอกกล๊าสเร่งเครื่อง มาตีไข่แตกได้ในนาทีที่ 75 และต่อมาก็สามารถตีเสมอได้ในนาทีที่ 89 มีทดเวลาบาดเจ็บกันอีก 5 นาที

            เกมน่าจะจบลงด้วยดีอย่าง แฮปปี้เอนดิ้ง ด้วยการเสมอ แม้ว่า อีกนัดที่จะไปเยือนบุรีรัมย์ ทีมบีจีจะลำบากเพราะเป็นรองตามกฎประตูทีมเยือน  แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อนาทีที่ 93  วาเลรี่ เฮียก เสียบสกัด เอกชัย สำเร นักเตะบุรีรัมย์ในเขตโทษโดนบอลเต็มเปา ทว่า ผู้ตัดสิน นิวัฒน์  อินสะอาด ตัดสินให้เป็นลูกจุดโทษ ด้วยการตัดสินนี้ สร้างความไม่พอใจให้กับแฟนบอลบีจีอย่างมาก เนื่องจากค้านสายตาเป็นอย่างยิ่ง เพราะนักเตะบีจี คือ เฮียก ไม่ได้สกัดตัวผู้เล่นของบุรีรัมย์ แต่เล่นบอลและเห็นได้ชัดเจน ผู้เล่นของบีจีต่างเข้าไปประท้วงแต่ก็ไม่เป็นผล ผู้ตัดสิน นิวัฒน์ อินสะอาด ยังไม่กลับคำตัดสิน ให้เป็นจุดโทษต่อไป และทำให้บีจีต้องเสียประตูอย่างไม่สมควร บุรีรัมย์นำไป 3-2

          ช่วงที่นักเตะบีจี ประท้วงจะกินเวลาไปราว 2 นาที แต่กรรมการยังปล่อยให้เล่นต่อไปอีก 10 นาที รวมทดเวลา 15 นาที จึงเป่าจบเกม

            ช่วงเวลานี้เอง กรรมการผู้ตัดสินทั้งหลายแหล่ เริ่มสำเนียกแล้วว่า ตัวเองไม่ปลอดภัย เพราะแฟนบีจี ต่างก็ฟิวส์ขาด ขว้างปาสิ่งของอันไม่พึงประสงค์ลงสนามอย่างต่อเนื่อง ทั้งแก้วน้ำ และถุงขยะ ซึ่งน่าจะเป็นพวกของกินที่กินเหลือ แหม ถ้าจะให้กรรมการไว้รับประทาน น่าจะยื่นให้ดี ๆ ก็ได้นะครับ

            แม้ว่าจะมีการแข่งขันอีก 1 นัดคือ ต้องไปเยือนถิ่นไร่มันสำปะหลังในเดือนตุลาคม แต่บีจีเสียเปรียบ หากจะต้องยิงถึง 2-0  ถึงจะเข้ารอบ ในความรู้สึกของแฟนบีจี ถือเป็นการปล้นชัยชนะกันอย่างเห็นได้ชัด

            การตัดสินแบบนี้ ในลูกที่ก้ำกึ่ง หรือไม่ชัดเจน  หรือไม่แน่ใจ กรรมการควรทำอย่างไร จะมีทางออกสำหรับการตัดสินไปแล้วหรือไม่ กรรมการมั่นใจได้อย่างไรว่าสิ่งที่ตัวเองตัดสินลงไปนั้น “ควร” หรือ “ถูก” แล้ว

            ด้วยการตัดสินในครั้งนี้ ทำให้แฟนบอลบีจี ล้อมทางออก ไม่ให้กรรมการออกไปจากสนามได้ง่าย ๆ และทำให้บรรยากาศในสนามกลายเป็นความเคียดแค้น นี่เป็นสิ่งที่ “ไม่ควร” อย่างยิ่ง สำหรับการตัดสิน หากมีการฟาล์วแบบชัดเจน คนส่วนใหญ่เห็นพ้อง หรือนักเตะไม่ประท้วง ก็น่าจะยอมรับได้

            คำถามที่คาใจผมอย่างหนึ่งคือ ทำไมนัดสำคัญแบบนี้ ไม่เอากรรมการต่างชาติ ดี ๆ มาตัดสิน

            เมื่อกลับมาดูประวัติของ นิวัฒน์  เกิดเมื่อ เกิดเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 1975 อายุ 37 ปี ในปี 2011 กรรมการท่านนี้ ได้ตัดสินเพียงนัดเดียว ซึ่งถือว่าน้อยที่สุดในบรรดากรรมการทั้งหมด คือ ตัดสินให้กับนัด โอสถสภา M150 พบกับ ศรีราชา ซูซูกิ เอฟซี สำหรับ TPL

          แต่ในปีนี้ นิวัฒน์ อินสะอาด ได้ตัดสินในเกม TPL มากขึ้น ทว่า มีข้อกังขามากมาย โดยเฉพาะนัดของ วัวชน พบกับ บีบีซียู ที่วัวชนได้ประตูนำ 3-1 แต่กลับคำตัดสินเป็น 2-1  

            นอกจากนี้ในฟุตบอล FA Cup รอบคัดเลือกที่มีปัญหาคือ  เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการแข่งขันนอกรอบที่สนามหนองจอก ระหว่างคู่ของ สมุทรปราการ เจอกับ โรส เอเชีย ทั้งสองทีมต่างก็เล่นอยู่ลีกดิวิชั่น 2

เกมการแข่งขัน ดำเนินมาถึง น. 74 ได้เกิดเรื่องวุ่นวาย เมื่อ สมุทรปราการ ได้ทำการเปลี่ยนตัวผู้เล่น โดยเอาหมายเลข 21 ณภัทร ภู่ประเสริฐ ลงแทน อาดู ซึ่งในรายชื่อ ณภัทร มีชื่อใน 25 คนที่ส่งมา แต่ไม่ได้มีชื่อเป็นตัวสำรอง เท่ากับลงเล่นไม่ได้ ทำให้ ทีมโรสเอเชีย ได้ทำหนังสือประท้วงตามข่าวที่เสนอไปแล้ว

ในตอนนั้น นิวัฒน์ อินสะอาด ทำหน้าที่เป็นผู้กำกับเส้น

นิวัฒน์ อินสะอาด แต่งงานแล้ว มีลูกสาว 2 คน

ผลการแข่งขันในครั้งนี้ นักข่าวหลายสังกัด ต่างก็มีความเห็นแย้งกับกรรมการเกือบทั้งสิ้น ในการตัดสินให้ลูกโทษดังกล่าว ส่งผลให้ความเชื่อถือในวงการฟุตบอล ลดน้อยลงไป

• แฟนบอลผู้ดีอย่าง BGFC ก็กลายเป็นพวกอันธพาล
• ทีมบุรีรัมย์ก็ถูกมองว่าเป็นพวกขี้โกง
• กรรมการก็ถูกด่า ถูกปาข้าวของลงใส่ ถูกมองว่ารับสินบน และไม่มีมาตรฐาน
• ผู้จัดการแข่งขัน ก็ถูกมองว่า ไม่ลงทุนในการหากรรมการที่เป็นกลางและมีมาตรฐานมากกว่านี้

เห็นไหมครับ แค่การตัดสินผิดพลาดของกรรมการเพียงนิดเดียวเท่านั้น ไม่มีใครฝ่ายไหนได้ดีเลยแม้แต่น้อย นี่แหละครับ กรรมการจึงสำคัญที่สุด ถ้ากรรมการไม่ดี ทุกอย่างก็จะเลวร้ายกันไปในพริบตา

ผมไม่เถียงว่า กรรมการจะมีจุดยืนเป็นของตัวเอง แต่กรรมการมีแค่ 2 ตา จะอ้างว่า มองไม่ทัน ไม่เห็นก็ไม่ได้ เพราะมีกรรมการอีก 2 คนเป็นผู้กับกำเส้น มีกรรมการคนที่ 4 อีกคนหนึ่ง

การแข่งขันฟุตบอลไม่ใช่ ก๊อท ทาเล้น ที่จะต้องให้ผู้ชมโหวตให้คะแนน แต่ให้กรรมการคนเดียวในสนามตัดสิน ซึ้งแน่นอนว่า กรรมการตัดสินออกมาเป็นอย่างไรทุกคนก็ต้องยอมรับ แต่มันมีจุดพลิกนิดเดียวที่ คนดูจะ “รับไม่ได้จริง ๆ “ กับคำตัดสินนั้น มันสุดที่จะทนจริง ๆ ครับ ใคร ๆ ก็ควบคุมอารมย์ของแฟนบอลไม่อยู่

การตัดสินผิดพลาดนับเป็นโศกนาฎกรรมอย่างร้ายแรงของวงการกีฬา ที่มีคนดูเป็นผู้ตัดสินอยู่รอบสนาม และเป็นผู้พิพากษาอย่างทันทีทันใดหลังจบเกม มันก็ไม่ต่างจากทิ้งระเบิดเวลาเอาไว้ให้คนตีกันนั่นเอง

เวปอ้างอิง

1. ที่สุดแห่งเชิ้ตดำ เลกแรกไทยลีค 2011
2. แบนโค้ชปากน้ำยันผลเดิมโรสเอเชียร่วง
3. ดราม่าฟุตบอลไทยตอน เชิ้ตดำอีกหนึ่งผู้ถ่วงความเจริญของฟุตบอลไทย?
4. เซาะกราวได้จุดโทษท้ายเกมส์บุกพิฆาตกระต่ายแก้วเดือดท้ายเกมส์2-3
5. NEWS : "บีจี" โดนปล้นชัย เปิดรังพ่าย "ปราสาทสายฟ้า 2-3