*/
<< | เมษายน 2013 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 |
คล้ายวันเกิดพรุ่งนี้ ทำอะไรดี ๆ
วันเวลาผ่านไปเร็วเกินว่าจะหยุดคิดว่าเวลานี้เท่าไหร่แล้ว แต่รู้ว่า เวลาเดินไปเรื่อย ๆ เดินไปเดินมาตั้งแต่เกิดจนถึงวันนี้ก็ครบ 42 ปีแล้ว พรุ่งนี้ 27 เมษายน ก็จะย่างเข้าสู่อีกปีหนึ่งของชีวิต เวลา 42 ปี เท่ากับ 504 เดือน เวลา 42 เดือน เท่ากับ 15,120 วัน เวลา 15,120 วัน เท่ากับ 362,880 ชั่วโมง เป็นเวลาในช่วงเด็กที่ต้องมีคนเลี้ยงดู 5 ปี หรือ 60 เดือนหรือ 1800 วัน เป็นเวลาเรียนตั้งแต่อนุบาลหนึ่งเมื่อตอน 6 ขวบ จนถึง ปวส อายุ 20 ปี รวมแล้ว 15 ปี หรือ180 เดือน เป็นเวลาเริ่มทำมาหากินตั้งแต่อายุ 20 ปี ถึง ปัจจุบัน รวมเวลาทำงาน 22 ปี ไม่รวมเวลาที่แม่อุ้มท้องอีก 9 เดือน เราใช้เวลาไปตลอดเวลา คล้ายวันเกิดปีนี้ ในวันพรุ่งนี้ ตั้งใจเอาไว้ว่า ขณะที่กลับจากที่ทำงานที่ปราจีนบุรี แวะข้างทาง ซื้อหน่อไม้หวานไว้ ซื้อผักชะอม 2 กำ ซื้อมะละกอสุก พรุ่งนี้ ผมจะต้องตื่นแต่เช้า มาหุงหาอาหาร พรุ่งนี้ผมตั้งใจว่าจะทำกับข้าวเอง เพื่อไปถวายพระที่วัดเขียนเขต น่าจะเป็นเมนูง่าย ๆ ได้แก่ ไข่ชะอมทอด ที่ผมถนัด ผัดคะน้าที่แม่ปลูกไว้หน้าบ้าน หุงข้าวหอมมะลิแดงที่เอามาจากโคราช มีมะละกอเป็นผลไม้ แค่นี้น่าจะพอแล้ว สำหรับอาหารที่จะเตรียมถวายพระ หลังจากนั้นพรุ่งนี้ จะต้องเข้าไปในเมือง (กทม) เพื่อบริจาคเลือดในเวลาประมาณ 9 โมง และ 10 โมง มีนัดกับเพื่อนญี่ปุ่น บ่าย ๆ ก็กลับมาเจอเพื่อนอีกกลุ่ม ความจริง ความดี หรือการทำบุญ ทำได้ทุกเมื่อ ทำเมื่อไหร่ก็ได้ ทำได้ทุกวัน ทุกเวลาที่มีโอกาส แต่การมีวันดี ๆ วันคล้ายวันเกิด มันก็ดีเหมือนกัน ที่เตือนให้คนได้รู้จักแหล่งกำเนิดของตน รู้จักหันมาทำสิ่งดี ๆ เพราะบางคนที่ไม่ค่อยจะสะดุดกับแก่นของชีวิต มักจะลืมเสมอว่าเรามีต้นกำเนิดมาจากที่ใด วันคล้ายวันเกิดจึงคงจะสะกิดใจได้บ้าง แต่บางคนที่มีโอกาสได้ทำอยู่แล้วก็ยิ่งเพิ่มบุญกุศลกันให้เจริญก้าวหน้ากันไปยิ่ง ๆ ขึ้นไป ปีนี้แม่อายุ 82 แล้ว ยังพอไหว แต่คงมีบ้างที่บ่นเจ็บโน่นเจ็บนี่นิดหน่อย แม่เป็นคนขยัน ไม่เคยอยู่เฉย ตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยเห็นแม่หยุดนอนเล่นอยู่บ้านสักวัน แม่ไม่ได้เข้าโรงเรียน แม่อ่านหนังสือไม่ออก แต่แม่เก่ง แม่คิดเลขเป็น ค้าขายได้ บ่อยครั้งที่ยามเด็ก ๆ ต้องถูกปล่อยให้อยู่กับพ่อ หรืออยู่กับแม่ หรือแม้กระทั่งนอนคนเดียวในยามค่ำคืนเมื่อตอนอายุ 5-6 ขวบ เพราะไม่ว่าพ่อหรือแม่จะเปลี่ยนกันไปทำงานนอกบ้าน หรือทำไร่ในที่ไกล ๆ ต้องค้างคืนเป็นเดือน ๆ หรือจนกว่าฤดูกาลเก็บเกี่ยวจะมาถึง ส่วนพี่ ๆ โต ๆ กันแล้วก็ออกบ้านไปตามประสา ผมเป็นลูกคนเล็ก ต้องอยู่กับบ้าน มีบางวัน อยู่กับแม่ แต่แม่ต้องไปตลาดเช้า แม่จะเก็บผักหาของไว้ขายทุกวัน แม่จะตื่นกลางดึกราวตี 1 ตี 2 แล้วหาบของเดินลัดโรงเรียนไปขึ้นรถเมล์ที่ถนนใหญ่ เพื่อไปขายของในเมืองที่ห่างออกไปราว 10 กว่ากิโล คืนหนึ่ง ผมตื่นมาไม่เจอแม่ ทั้งบ้านไม่มีใครอยู่เลย ผมจำได้ว่าตอนนั้นน่าจะ 5 ขวบ ผมวิ่งออกจากบ้าน ลัดโรงเรียนไปราว 500 เมตร ไปหาแม่ที่ถนน แล้วก็ร้องเรียก แต่ไม่เจออะไร มืดก็มืด แล้วก็วิ่งกลับมาที่บ้าน ร้องไห้ตลอดทาง กลับมานอน และต้องอยู่คนเดียวให้ได้ ผมจำได้ตั้งแต่นั้นมา ชีวิตของเรา ถูกสอนให้ต่อสู้ และเรียนรู้การเอาตัวรอดตั้งแต่ยังเล็ก ผมก็ยังแปลกใจว่าทุกวันนี้ สังคมบอกครอบครัวให้อยู่กันพร้อมหน้า จะมีความสุข ลูก ๆ จะได้เป็นคนดี ผมก็มานั่งนึกอยู่เหมือนกันว่า ชีวิตยามเด็กผมก็ต้องอดทนต่อสู้มาโดยตลอด เราก็เติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ มันแตกต่างกันกับสังคมปัจจุบันที่เปราะบางเกินไป พ่อแม่ก็ไม่เห็นต้องอยู่กับผมตลอดเวลา ปีหนึ่งจะมีสักกี่วันที่เราอยู่พร้อมหน้า แต่นั้นไม่ใช่สิ่งที่เราต้องเรียกร้อง อยู่ที่ไหนเราก็มีความสุขได้ คำว่าครอบครัวอบอุ่น ไม่ได้หมายถึงว่า อยู่พร้อมหน้าเสมอไป แต่หมายถึงครอบครัวที่ไม่มีปัญหา เชื่อใจ เข้าใจ และเป็นกำลังใจให้กัน ถ้าอยู่กันพร้อมหน้าแล้วไม่ได้ก่อประโยชน์อะไรมากมาย ก็เสียดายเหมือนกัน บางทีบางคนเราอยู่บ้านเดียวกันแต่กลับทะเลาะกัน ไม่พูดคุยกันก็มี เหตุผลนี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ผมตัดสินใจเลือกทำงานไกลบ้านได้ เพราะตอนเป็นเด็ก พ่อแม่ผมก็ทำงานไกลบ้าน และลูก ๆ ก็แกร่งขึ้นจากการได้ช่วยเหลือตัวเอง ครบรอบวันเกิดปีนี้ ปกติก็เหมือน ๆ เดิมทุกปี วันเกิดไม่หวือหวา ไม่มีงานเลี้ยง หรือแล้วแต่โอกาส ใครจะเลี้ยงกัน เพราะปกติเราก็หาเรื่องกินกันประจำอยู่แล้ว ในปีนี้ก็เลยอยากทำกิจกรรมอื่น ๆ ให้เป็นประโยชน์บ้าง (ปกติก็ทำอยู่เสมอ) แต่ก็ยังมีอีกหลาย ๆ อย่างที่ยังไม่ได้ทำ เช่นโครงการสร้างโรงอาหารให้โรงเรียนบ้านดงกู่ แม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน งบประมาณ 120,000 บาย ทีแรกรับปากว่าจะไปมอบเงินให้ในวันเกิดนี้ แต่ก็น่าจะไม่ทันแล้ว วันเวลาจะพรากเราไปเรื่อย ๆ บางทีเราเสียเวลากับการมีชีวิตแบบไร้สาระมากเกินไป ในช่วงเวลา 42 ปีที่ผ่านมา ถ้าเฉลี่ยแล้วผมนอนวันละ 6 ชั่วโมง รวมแล้วผมใช้เวลานอน 10 ปีครึ่งหรือ 3,780 วัน ผมใช้เวลาเรียนวันละ 7 ชั่วโมง ที่ผ่านมาผมจะใช้เวลาเรียน 1575 วัน ผมใช้เวลาทำงาน 3.600 วัน ในช่วงที่ผ่านมา แล้วเวลาที่เหลืออยู่ ผมทำอะไรไป ซึ่งรวมแล้วมันมี 15,120 วัน เวลาเป็นของมีค่าจริง ๆ จนกว่าเราจะเห็นค่าของมัน ถึงจะรู้ว่า เสี้ยววินาทีเดียวก็มีค่ามากมาย
ชีวิตของเรา เราก็ต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจ ร่างกายเป็นของที่เสื่อมลงไปเรื่อย ๆ แต่ก่อนเรามีแต่ความบริสุทธิ์ตั้งแต่เด็กเล็ก ๆ จนเป็นหนุ่ม แล้วเราก็เสียความบริสุทธิ์ไปเรื่อย ๆ ทีละอย่าง ๆ จนร่างกายก็ต้องแก่เฒ่า แต่เราต้องทำใจของเราให้บริสุทธิ์ผุดผ่องขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อชดเชยสิ่งที่เสียไป นั่นอาจจะเป็นเป้าหมายของชีวิตที่ทำให้เราต้องเกิดมา
ปีนี้ ก็เป็นอีกปีหนึ่งที่ต้องตั้งใจในการใช้ชีวิต ระมัดระวังในการใช้เวลา และให้ความสำคัญกับคนที่มีบุญคุญ
ขอบคุณทุกท่านสำหรับคำอวยพร และความปรารถนาดี |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |