วันจันทร์ ที่ 10 กันยายน 2555
Posted by
คมชัดลึก
,
ผู้อ่าน : 2307
, 16:17:26 น.
หมวด : การเมือง
พิมพ์หน้านี้
โหวต
1 คน
BlueHill
โหวตเรื่องนี้

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา"ยงยุทธ วิชัยดิษฐ" รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เพิ่งนำทีมที่ปรึกษา เลขาฯ และปลัดกระทรวงมหาดไทย มานั่งแถลงผลงานของกระทรวงมหาดไทยในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา โดยไร้เงา รมช.อีก 2 คน ชัดเจนว่า หาผลงานที่เด่นชัดค่อนข้างยาก
แต่ผลงานที่โดดเด่นของ "ยงยุทธ" ในรอบ1 ปีที่ผ่านมาคือ ภาพที่ "ยงยุทธ" ซึ่งสวมหมวกอีกใบในฐานะ "รองนายกรัฐมนตรี" มักไปปรากฏกายอยู่เบื้องหลัง "นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" แทบทุกที่ทุกเวลา
"การเดินตามนายกรัฐมนตรีไม่ใช่เพื่อเป็นไม้ประดับของนายกรัฐมนตรี แต่เนื่องจากมี 2 ตำแหน่ง คือ ตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ดังนั้นงานจึงมีความเชื่อมโยงกับงานของนายกรัฐมนตรีด้วย" ยงยุทธชี้แจงต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในภาพที่ว่าเขาคอยตามติดนายกรัฐมนตรีแทบตลอดเวลา
แต่สายตาของคนทั่วไปอาจมองตรงกันข้ามการที่ "ยงยุทธ" ได้เข้ามาเป็นรองนายกฯ ควบตำแหน่ง รมว.มหาดไทย เป็นเพราะเขาเป็น "ลูกน้องผู้ซื่อสัตย์" ผู้ที่พร้อมจะทำงานเพื่อ "นายใหญ่" ซึ่งก็คืออดีตนายกฯ "ทักษิณ ชินวัตร" ในแบบมอบกายถวายชีวิต
ยงยุทธ เคยให้สัมภาษณ์พิเศษ"เครือเนชั่น" เมื่อหลายปีก่อนในช่วงที่เขามีหมวกเป็นเพียง "หัวหน้าพรรคเพื่อไทย" ว่า"ทักษิณ คือคนที่เขาเคารพนับถือ รองจากพ่อแม่ ครูบาอาจารย์" ครั้งนั้นเขาเคยจะลาออกจาก "หัวหน้าพรรค" เพราะได้รับการส่งสัญญาณจาก "ทักษิณ" ให้ออกเพื่อทักษิณจะเอาคนอื่นมาเป็นแทน แต่จู่ๆ "ทักษิณ" เปลี่ยนใจขอให้เขาอยู่ต่อ
ถ้าจะถามว่าเขากับทักษิณมีบุญคุณอะไรต่อกัน? หากไปเรียกข้อมูลย้อนหลังมาดู ก็จะพบว่า "ยงยุทธ" ได้ขึ้นเป็น "ปลัดกระทรวงมหาดไทย" ในยุครัฐบาลทักษิณซึ่งเป็นการขึ้นสู่ตำแหน่งที่น่าจดจำอย่างยิ่ง เพราะขณะนั้น "ยงยุทธ" เป็น "รองปลัดกระทรวง" รักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทย เหลือเวลาเพียง 7 วันก็จะเกษียณราชการ ปรากฏว่ารัฐบาลทักษิณแต่งตั้งเป็น "ปลัดกระทรวงมหาดไทย" ไม่เพียงแค่นั้น ยังให้มีผลย้อนหลังไปนับตั้งแต่เขานั่งรักษาการปลัดมหาดไทยเป็นเวลา 8 เดือน
เบื้องหลังที่มาของการบำเหน็จความชอบครั้งนั้นเกิดขึ้นหลัง "ยงยุทธ" ใช้อำนาจทางปกครองขั้นแรกสมัยเป็น "อธิบดีกรมที่ดิน" และต่อมาช่วงที่ "รักษาการปลัดกระทรวง" สั่งให้ "ที่ธรณีสงฆ์วัดธรรมิการามวรวิหาร" ซึ่ง "ยายเนื่อม ชำนาญชาติศักดา" บริจาคให้วัด 924 ไร่ สามารถซื้อขายและมีการนำไปทำหมู่บ้านสนามกอล์ฟอัลไพน์ได้
ซึ่งขณะนี้คดีความยังติดค้างอยู่โดย "คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ" (ป.ป.ช.) เพิ่งจะชี้มูลความผิดไปเมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา และส่งเรื่องต่อไป 2 ทาง คือ "อัยการสูงสุด" เพื่อดำเนินคดีอาญาและ "กระทรวงมหาดไทย" เพื่อให้เอาผิดทางวินัย
ย้อนกลับมาที่ตำแหน่ง"รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย" ที่ "ยงยุทธ" ได้รับจึงถูกมองว่า เป็นเรื่องบุญคุณต้องทดแทนมากกว่าได้ตำแหน่งเพราะฝีไม้ลายมือ ซึ่งผลงานช่วง 1 ปีที่ผ่านมายิ่งพิสูจน์ให้เห็นชัดเจน
หรือยิ่งหากมองย้อนไปที่ตำแหน่ง"หัวหน้าพรรคเพื่อไทย" ที่ทักษิณให้มา ก็เป็นอีกตำแหน่งที่ "ไม่มีบทบาท" เช่นเดียวกัน
หากจะเทียบตำแหน่ง "รมว.มหาดไทย" กับ"หัวหน้าพรรคเพื่อไทย" มีความแตกต่างอยู่บ้าง คือ "หัวหน้าพรรค" บทบาทของ "ยงยุทธ" มีความสำคัญเฉพาะเรื่องงานทะเบียน งานธุรการเท่านั้น ไม่มีหน้าที่ตัดสินใจบริหารงานการเมืองภายในพรรค
แต่ในส่วน"รมว.มหาดไทย" สิ่งที่ปรากฏเป็นข่าวออกมาในรอบปี "ยงยุทธ" เป็น"รมว.มหาดไทย" แต่ไม่ได้ใช้อำนาจอย่างเบ็ดเสร็จดูเหมือนไม่ต่างจากปลัดกระทรวง
ภาพที่เห็นออกมาในเก้าอี้รมว.มหาดไทยจึงเหมือนรัฐมนตรีในแบบของข้าราชการที่ปล่อยให้ลูกน้องทำงานรูทีนไปวันต่อวัน จนไม่ทันอกทันใจกลุ่มการเมือง ซึ่งเป็น ส.ส.ในพรรค ถึงขั้นเคยล่ารายชื่อเป็นบัญชีหางว่าวไปให้ ทักษิณชินวัตร เจ้าของพรรคตัวจริงเพื่อให้ถอดพ้นตำแหน่ง รมว.มหาดไทย
ต่อมามีการเปลี่ยน"เลขานุการ รมว.มหาดไทย" จาก "อารี ไกรนรา หัวหน้าการ์ดนปช.มาเป็น อดีตเลขาฯ ส่วนตัวทักษิณ ผดุงลิ้มเจริญรัตน์ โดยให้อารี" ไปเป็นเลขานุการ "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" รมช.เกษตรฯ
กระทรวงมหาดไทยในรอบ1 ปีที่ผ่านมา การทำงานที่กระทรวงมหาดไทย เป็นไปแบบต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างไป คือ รัฐมนตรีก็ไปทาง ข้าราชการก็ไปทาง นานๆ จะเห็นภาพ รมว.มหาดไทย เรียกปลัดกระทรวง หรือข้าราชการมาหารือสั่งการส่วนตัวหรือในการประชุมกระทรวงมหาดไทยที่มีอยู่ทุกเดือน
ส่วนรมช.ทั้ง 2 คนที่เข้ามาด้วยโควตาทางการเมือง คือ "ชูชาติ หาญสวัสดิ์" และ "ฐานิสร์ เทียนทอง" นั้น ก็ไม่น่าจะผิดนักหากจะบอกว่า พวกเขาจัดอยู่ในกลุ่ม "รมต.โลกลืม"
แล้วใครกันล่ะที่เป็น"มท.1" ตัวจริงในยุคนี้..?
จากข่าวแคนดิเดตปลัดกระทรวงมหาดไทยเดินทางไปพบอดีตนายกฯทักษิณชินวัตร ที่ฮ่องกง ในสองระลอก ก่อนที่ชื่อของ "วิบูลย์ สงวนพงศ์" จะถูกเคาะออกมาเป็นชื่อสุดท้าย
ท่ามกลางกระแสข่าวปรับครม.ที่ยังไม่ชัดเจนจะเกิดขึ้นเมื่อใด ปรากฏชื่อ "ยงยุทธ" อยู่ในโผที่อาจจะปรับด้วย โดยมีออกมา 2 ทาง คือ เขาอาจจะถูกปรับออกจากทั้ง 2 ตำแหน่ง คือ รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย เพราะ 1 ปีที่ผ่านมา น่าจะถือได้ว่าตอบแทนบุญคุณกันเพียงพอแล้ว และอีกทางคือ ปรับออกจาก รมว.มหาดไทย ให้ไปอยู่ในตำแหน่ง "รองนายกฯ" อันดับหนึ่งอย่างเดียวเท่านั้น
โดยเฉพาะล่าสุดที่ป.ป.ช.ออกมาระบุว่า ได้ส่งเรื่องคดีอัลไพน์ที่ชี้ว่า "ยงยุทธ" ทำผิดในช่วงเป็น "ปลัดมหาดไทย" ให้กระทรวงมหาดไทยมา 2 สัปดาห์แล้ว และกระทรวงต้องดำเนินการภายใน 30 วันหลังได้รับหนังสือ ยิ่งเป็นตัวเร่งให้ทักษิณและยิ่งลักษณ์ตัดสินอนาคตของยงยุทธได้เร็วขึ้นและง่ายขึ้น เพราะ ป.ป.ช.ระบุว่า ตามมูลความผิดทางกระทรวงต้องดำเนินการ "ให้ออก" หรือ "ปลดออก" ต่อความผิดของ "ยงยุทธ" เท่านั้น ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจะทำให้ "ยงยุทธ" ขาดคุณสมบัติทั้งในการเป็น ส.ส.และ รมต.ทันที
จับตาดูว่าบุญคุณของบ่าวกับนายระหว่าง "ทักษิณ" กับ"ยงยุทธ" ถึงเวลาตอบแทนกันเพียงพอแล้วหรือยัง!?
........................
(หมายเหตุ : ภาพ'ยงยุทธ'สะท้อนเงา'ทักษิณ' บทพิสูจน์'รัฐมนตรีพี่ให้' : ขยายปมร้อน โดยสำนักข่าวเนชั่น http://www.komchadluek.net/detail/20120910/139691/ยงยุทธสะท้อนเงาแม้วบทพิสูจน์รมต.พี่ให้.html)
|