(คลิกที่ *พิมพ์หน้านี้* เพื่ออ่านบทความแบบตัวหนังสือไม่ตกขอบ)

ผมเขียนบทความนี้จากประสบการณ์ตรง ไม่ได้หาข้อมูลเพิ่มเติม เพราะเกรงจะเสียความเป็นกลาง ^^

เริ่มต้นจากมีคนชวนผมไปดูหนังเรื่องนี้ โดยให้เหตุผลว่า คนในพันทิบไปโพสกันว่าเป็นหนังดีที่อาจจะเจ๊ง และอาจไม่รอด 4 วันอันตราย ผมตอบตกลงด้วยเหตุผลง่ายๆ 1.คนชวนค่อนข้างเชื่อถือได้ 2.อยากสนับสนุนหนังไทย 3.ชอบเชียร์มวยรอง

หลังจากตอบตกลง ผมก็เข้าไปดูหน้าหนังในยูทูบตัวอย่างหนังไม่น่าสนใจเท่าไหร่ เห็นเด็กผู้หญิงอ้วนๆ ดำๆ คนหนึ่ง(เรณู)อ้างตัวเป็นแฟนเด็กผู้ชายตัวดำๆ อีกคนหนึ่ง(ปัญญา) โดยมีเด็กหญิงหน้าตาน่ารักผิวพรรณดีจากกรุงเทพเป็นมารความรักของเธอ พอเดาได้ว่าคงเป็นหนังเด็ก ใสๆ น่ารักๆ สนุกหรือไม่คงต้องเข้าไปดูในโรงอีกที แอบคิดถึง “แฟนฉัน” นิดหน่อย

เมื่อเข้าไปนั่งในโรงหนัง ดีใจกับเจ้าของหนังด้วยที่มีคนดูประมาณครึ่งโรง อาจเพราะเป็นวันอาทิตย์รอบบ่าย มีทั้งผู้ใหญ่ หนุ่มสาว พ่อ แม่ และเด็ก พอหนังเริ่มฉายจึงรู้ว่าเป็นผลงานการเขียนบทและกำกับของคุณ บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ พอเห็นชื่อคุณบิณฑ์ก็ทำให้ผมสนใจหนังเรื่องนี้มากขึ้น รู้สึกว่าคุณบิณฑ์เป็นนักแสดงที่ดี ทำประโยชน์ให้สังคม อุตส่าห์ตั้งใจเขียนบทและสร้างหนังเด็กให้เราดู ซึ่งมั่นใจว่าต้องเป็นหนังที่ไม่มีพิษมีภัยอย่างแน่นอน ก็ยิ่งรู้สึกอยากเชียร์ อยากเป็นกำลังใจ ให้เขาประสบความสำเร็จ ไม่อยากให้หนังเจ๊ง คนดีๆ จะได้มีกำลังใจสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ออกมาสู่สังคมมากๆ ไม่ใช่มีแต่หนังตลกที่มีแต่บันเทิงล้วนๆ หาสาระอะไรไม่ได้ (ก็พอเข้าใจนะว่าคนไทยส่วนใหญ่ชอบดูหนังตลก)

ผมคงไม่เล่าให้ฟังว่าเนื้อเรื่องของหนังเป็นอย่างไร แต่อยากเล่าอารมณ์ให้ฟังว่า หนังเปิดเรื่องมาได้น่ารักน่าชัง ชวนให้คนดูยิ้มได้ตั้งแต่ซีนแรกๆ การเล่าเรื่องเป็นไปอย่างลื่นไหลและธรรมชาติ ผมหัวเราะ ยิ้ม ขำ หลายครั้ง และ น้ำตาซึมโดยไม่ได้ตั้งใจ 2 ครั้ง เมื่อหนังจบลง คนดูต่างมีสีหน้าอิ่มสุข และไม่ยอมลุกจากเก้าอี้ ยังคงนั่งดู end credit อยู่อีกพักใหญ่

หากจะหาข้อติติงของหนัง อาจมีบ้างในเรื่องการถ่ายทำ และการแสดงของนักแสดงเด็กบางคน แต่เมื่อดูหนังจบทั้งเรื่องแล้ว ข้อติติงทั้งสองเรื่องก็เป็นอันถูกลืมไป

อีกเรื่องหนึ่งที่อยากบ่นก็คือ หนังไม่น่ารีบเข้าฉายในช่วงนี้ เด็กกำลังอยู่ในช่วงสอบปลายภาคใครจะมีเวลาหรืออารมณ์ไปดูหนัง พ่อแม่ผู้ปกครองก็คงไม่พาเด็กๆ ออกมาดูหนังในช่วงนี้แน่ๆ ถ้าหนังเข้าฉายในข่วงต้นเดือนมีนาคม ซึ่งเด็กๆ ปิดเทอมแล้ว การตอบรับน่าจะดีกว่านี้มาก ก็หวังว่าปัญญา เรณูจะช่วยพาหนังยืนโรงได้ถึงวันที่เพื่อนๆ ปิดเทอมนะ

ผมรีบเขียนบทความนี้เพราะกลัวว่าขืนช้าไป คนไม่รู้ว่าหนังเรื่องนี้ “ดี” แล้วไม่ยอมไปดู เกิดหนังเจ๊งขึ้นมา คุณบิณฑ์ และคนอื่นๆ ที่อยากทำหนังดีๆ คงหมดกำลังใจกันเป็นแถว

อยากให้ไปดูหนังเรื่องนี้จริงๆ ครับ ไม่ใช่ไปดูเพราะสงสารคนทำหนัง แต่อยากให้ช่วยกันสนับสนุน “ของดี” ให้ “อยู่ได้” ก่อนที่สังคมไทยและวงการหนังไทยจะเหลือแต่ “หนังตลาด” ที่น่าเบื่อ แล้วคุณจะเห็นด้วยกับผมว่า

หนังเขาดีจริงๆ

ดูรอบฉายคลิกที่นี่