กลับมาสู่การนำเสนอหนังดีแห่งยุคที่มาจากฝั่งของประเทศยุโรปอีกครั้งนั่นก็คือ สเปนร่วมกันกับทางแมกซิโกครับผม ในช่วงปี 2006 หนังเรื่อง Pan's Labyrinth อัศจรรย์แดนฝัน มหัศจรรย์เขาวงกต เป็นหนังที่มีการกล่าวถึงกันมากเพราะการจัดทำภาพและเนื้อหานั้น ได้ใส่ใจในตัวละครที่อิงอยู่จริง ตามประวัติศาสตร์ของประเทศสเปนลงไปด้วย รวมทั้งพวกภูติหรือปิศาจในเรื่องกูดูน่ากลัวไม่ใช่น้อย เราลองมาดูเนื้อหาคร่าว ๆ กันนะครับ  เขาวงกตของแพน (สเปน: El laberinto del fauno, lit. 'The Labyrinth of the Faun') ในศาสนาและเทพนิยายกรีกโบราณแพน (/ pæn /; กรีกโบราณ: r, อักษรโรมัน: Pán) เป็นเทพเจ้าแห่งป่าคนเลี้ยงแกะและฝูงสัตว์ตามธรรมชาติของป่า บนภูเขาชอบเล่นดนตรีแบบชนบทและเป็นเพื่อนของนางไม้ แพนจะมีขาหลังแบแพะและเขาแบบแพะในลักษณะเดียวกับฟาอุนหรือเทพารักษ์ ด้วยบ้านเกิดเมืองนอนของแพน ในอาร์เคเดียที่เรียบง่าย แพนยังได้รับการยอมรับว่าเป็นเทพเจ้าแห่งทุ่งนาป่าละเมาะ และมักจะชอบกิจกรรมเกี่ยวข้องกับทางเพศ ด้วยเหตุนี้แพนจึงเชื่อมโยงกับความอุดมสมบูรณ์และฤดูกาลของฤดูใบไม้ผลิ คำว่าตื่นตระหนกสุดขีด หรือ Panic จึงมีที่มามาจากชื่อของเทพตนนี้ หนังเรื่องนี้เป็นภาพยนตร์แนวดาร์กแฟนตาซีของสเปน - เม็กซิกันในปี พ.ศ. 2549 เขียนบทกำกับและอำนวยการสร้างโดย Guillermo del Toro ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดย Ivana Baquero, Sergi López, Maribel Verdú, Doug Jones และ Ariadna Gil

                เรื่องราวเกิดขึ้นในสเปน ในช่วงฤดูร้อนปี 1944 ห้าปีหลังสงครามกลางเมืองสเปน ในช่วงต้นยุคของนายพล ฟรังโก้เริ่มมีอิทธิพล การเล่าเรื่องจะมีความเชื่อมโยงโลกแห่งความเป็นจริงนี้เข้ากับโลกแห่งตำนานที่มีศูนย์กลางอยู่ที่เขาวงกตที่รกครึ้มและถูกทิ้งร้างและบรรดาสัตว์ประหลาดลึกลับ ซึ่งตัวละครหลัก Ofelia โอฟีเลีย มีปฏิสัมพันธ์ด้วย พ่อเลี้ยงของ Ofelia กัปตันวิดัลนักสู้ชาวฟาลังออกตามล่า Maquis ชาวสเปนที่ต่อสู้กับระบอบการปกครองของ Francois tฟรังโก้ ในภูมิภาคนั้นในขณะที่ Carmen แม่ที่ตั้งครรภ์ของ Ofelia มีอาการป่วยมากขึ้นเรื่อย ๆ Ofelia พบกับสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดและมหัศจรรย์หลายตัว ซึ่งกลายเป็นศูนย์กลางของเรื่องราวต่าง ๆ ของเธอทำให้เธอผ่านการทดลองในสวนเขาวงกตเก่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้การแต่งหน้าแอนิเมชั่นและเอฟเฟกต์ CGI เพื่อสร้างชีวิตให้กับสิ่งมีชีวิตในเรื่อง

               Pan's Labyrinth ฉายเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 ที่เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายโดยวอร์เนอร์บราเธอร์สพิคเจอร์สในสเปนเมื่อวันที่ 11 ตุลาคมและในเม็กซิโกในวันที่ 20 ตุลาคม เขาวงกตของ Pan เปิดให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางโดยมีหลายคนที่ยกย่องทั้งเอฟเฟกต์ภาพทิศทางการถ่ายภาพยนตร์และการแสดง ทำรายได้ 83 ล้านเหรียญในบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลกและได้รับรางวัลระดับนานาชาติมากมายรวมถึงสามรางวัลออสการ์ สามรางวัลบาฟต้ารวมถึงภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่ไม่ได้เป็นภาษาอังกฤษ, รางวัลแอเรียลสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, รางวัลแซทเทิร์นสำหรับภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยมและการแสดงยอดเยี่ยมโดย นักแสดงรุ่นน้องจาก Ivana Baquero และรางวัล Hugo Award ปี 2007 สาขาการนำเสนอละครยอดเยี่ยมรูปแบบยาว ถือเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ดีที่สุดของปี 2549 และผลงานที่ดีที่สุดของ Del toro จนถึง The Shape of Water (2017)

            ในเทพนิยายเจ้าหญิงโมอันนาซึ่งพ่อของเขาเป็นราชาแห่งยมโลก  ได้ลงมาเยือนโลกมนุษย์ที่ซึ่งแสงแดดบังตาเธอและลบความทรงจำของเธอไปทั้งหมด เธอกลายเป็นมนุษย์และตายในที่สุด กษัตริย์เชื่อว่าในที่สุดวิญญาณของเธอจะกลับสู่ยมโลกดังนั้นเขาจึงสร้างเขาวงกตซึ่งทำหน้าที่เป็นพอร์ทัลทั่วโลกเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการกลับมาของเธอ ในปี 1944 ยุคของนายพล ฟรังโก้ Francoist Spain โอเฟเลียเด็กน้อยวัยสิบขวบ ได้เดินทางไปกับคาร์เมนแม่ที่ตั้งครรภ์ของเธอ แต่แม่เธอมีอาการป่วย และเพื่อพบกับกัปตันวิดัลพ่อเลี้ยงคนใหม่ของเธอ วิดัลบุตรชายของผู้บัญชาการที่มีชื่อเสียงซึ่งเสียชีวิตในโมร็อกโก เค้ามีความเชื่อมั่นในลัทธิฟาลังก์ และได้รับมอบหมายให้ตามล่ากบฏรีพับลิกัน มีแมลงปีกแข็งขนาดใหญ่ซึ่ง Ofelia เชื่อว่าเป็นนางฟ้าทำให้ Ofelia เข้าไปในเขาวงกตหินโบราณ แต่เธอถูกเมอร์เซเดส แม่บ้านของวิดัลหยุดรั้งเธอเอาไว้ แม่บ้านที่แอบสนับสนุนเปโดรพี่ชายของเธอและกลุ่มกบฏคนอื่น ๆ ในคืนนั้นแมลงได้มาปรากฏตัวในห้องนอนของ Ofelia ซึ่งมันกลายร่างเป็นนางฟ้าและพาเธอผ่านเข้าไปในเขาวงกต ที่นั่นเธอได้พบกับ Faun ผู้ซึ่งเชื่อว่าเธอคือการกลับชาติมาเกิดของเจ้าหญิง Moanna เขาให้หนังสือแก่เธอและบอกเธอว่า "เธอจะพบงานสามอย่างที่ต้องทำเพื่อให้เธอได้รับความเป็นอมตะและเธอจะได้กลับไปยังอาณาจักรของเธอ"

               Ofelia ทำภารกิจแรกให้สำเร็จนั่นคือการดึงกุญแจออกมาจากท้องของคางคกยักษ์ - แต่กลับเป็นห่วงแม่ของเธอที่อาการแย่ลง Faun ได้ให้รากของต้นแมนเดรกกับโอฟีเลีย และสั่งให้เธอเก็บมันไว้ใต้เตียงของ Carmen และหย่อนมันในชามนม และหมั่นให้เลือดกับรากไม้เป็นประจำ ซึ่งดูเหมือนจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยของ Carmen ได้ และแล้วก็มีนางฟ้าสามตนที่มาพร้อมกับชอล์คเวทย์มนตร์ที่เป็นชิ้นเล็ก ๆ จากนั้น Ofelia ก็สามารถทำภารกิจที่สองได้สำเร็จ นั่นคือการดึงกริชจากที่ซ่อนของ Pale Man ซึ่งเป็นสัตว์ประหลาดกินเด็ก แม้ว่าจะได้รับคำเตือนว่าอย่ากินอะไรที่นั่น แต่เธอก็เผลอกินองุ่นสองลูเข้าไปเป็นการทำให้เกิดการปลุกปิีศาจชายหน้าซีดขึ้นมา ปีศาจกลืนกินนางฟ้าสองตนเข้าไและไล่ล่า Ofelia แต่เธอก็หนีรอดมาได้ ด้วยความโกรธที่เธอไม่เชื่อฟัง Faun จึงปฏิเสธที่จะมอบภารกิจที่สามให้กับ Ofelia

            ในช่วงเวลานี้ Ofelia ตระหนักอย่างรวดเร็วถึงความโหดเหี้ยมของวิดัลในการตามล่ากลุ่มกบฏ หลังจากที่เขาสังหารชาวนาในพื้นที่สองคนด้วยความเข้าใจที่ผิดพลาด ซึ่งถูกกักขังในข้อหาช่วยเหลือกลุ่มกบฏ วิดัลได้ทำการสอบปากคำและทรมานกลุ่มกบฏที่ถูกจับ เขาขอให้หมอ Ferreiro มีแนวโน้มที่เข้าข้างกลุ่มเชลยซึ่ง Ferreiro ก็จำยอมที่จะทำตามคำเรียกร้องของฝ่ายกบฏ เมื่อรู้ว่าเฟอร์เรโรเป็นผู้ร่วมมือกับกบฏ วิดัลจึงฆ่าเขาเสีย แต่วิดัลดันจับได้อีกว่า Ofelia ชุบเลี้ยงกลุ่มรากของต้นแมนเดรก ซึ่งเขาคิดว่ามันก่อให้เกิดอาการประสาทหลอน คาร์เมนเห็นด้วยกับเค้าและโยนรากนั้นเข้าไปในกองไฟ ทันใดนั้นเธอมีอาการเกร็งและช๊อคตายทันทีโดยให้กำเนิดลูกชายของวิดัล

               เมอร์เซเดส ถูกจับได้ว่าเป็นสายลับเค้าได้พยายามที่จะหนีไปกับ Ofelia แต่พวกเขาถูกจับได้ Ofelia ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคนทรยศและถูกขังไว้ในห้องนอนของเธอขณะที่ Mercedes ถูกนำตัวไปสอบปากคำและทรมาน Mercedes หลุดออกมาได้และแทงวิดัล  แล้วเธอก็กลับไปเข้าร่วมกลุ่มกบฏอีกครั้ง Faun เปลี่ยนใจที่จะให้โอกาส Ofelia ทำภารกิจที่สามอีกครั้ง จึงกลับมาและบอกให้เธอพาน้องชายแรกเกิดของเธอเข้าไปในเขาวงกตเพื่อทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ Ofelia ดึงทารกออกมาได้สำเร็จและหนีเข้าไปในเขาวงกต วิดัลไล่ตามเธอในขณะที่กลุ่มกบฏเปิดการโจมตีที่ด่านหน้า Ofelia พบกับ Faun ที่ใจกลางเขาวงกต Faun แนะนำให้วาดเลือดของทารกในปริมาณเล็กน้อยเนื่องจากการทำภารกิจที่สามให้สำเร็จและการเปิดประตูสู่ยมโลกต้องใช้เลือดของผู้บริสุทธิ์ แต่ Ofelia ปฏิเสธที่จะทำร้ายน้องชายของเธอ วิดัลพบว่าเธอกำลังคุยกับตัวฟอน ซึ่งเขามองไม่เห็น Faun จึงจากไปและวิดัลก็ดึงตัวทารกออกมาจากอ้อมแขนของ Ofelia ก่อนที่จะยิงเธอ วิดัลกลับไปที่ทางเข้าเขาวงกตซึ่งเขาถูกล้อมรอบไปด้วยกลุ่มกบฏรวมถึงเมอร์เซเดสและเปโดร เมื่อรู้ว่าเขาจะถูกฆ่าเขาจึงส่งทารกให้เมอร์เซและขอให้เธอบอกเวลาและเรื่องราวที่แน่นอนของการตายของเขาให้กับลูกตัวเอง เมอร์เซปฏิเสธบอกเขาว่าลูกชายของเขาจะไม่รู้จักชื่อของเขาด้วยซ้ำ เปโดรก็ยิงวิดัลตาย

            เมอร์เซเข้าไปในเขาวงกตและเข้าไปปลอบ Ofelia ที่ไม่เคลื่อนไหว แต่ยังหายใจได้ หยดเลือดของ Ofelia ตกลงตรงกลางบันไดหินเกลียวไปยังแท่นบูชา ทันใดนั้น Ofelia ก็กลับมีอีกร่างฟื้นคืนด้วยชุดที่งดงามและไม่ได้รับบาดเจ็บอีกต่อไป จากนั้นก็ปรากฏตัวอีกทีในห้องบัลลังก์สีทอง ราชาแห่งยมโลกบอกเธอว่าเธอเลือกที่จะกระอักเลือดของตัวเองแทนที่จะให้เกิดการบาดเจ็บของผู้บริสุทธิ์คนอื่นเธอจึงผ่านการทดสอบครั้งสุดท้าย Faun ยกย่อง Ofelia สำหรับการเลือกในการกระทำของเธอและกล่าวกับเธออีกครั้งว่า "Your Highness" ราชินีแห่งยมโลกแม่ของเธอเชิญ Ofelia มานั่งข้างพ่อของเธอและอยุ่เคียงข้างเขา ย้อนกลับไปในเขาวงกตหิน Ofelia ยิ้มขณะที่เธอตายในอ้อมแขนของเมอร์เซเดส ในบทส่งท้ายจบเรื่องราวของเจ้าหญิงโมอันนา โดยกล่าวไว้ว่า เธอกลับสู่ยมโลกปกครองอย่างชาญฉลาดมานานหลายศตวรรษและได้ทิ้งร่องรอยแห่งเวลาอันเงียบสงบไว้ในดินแดนมนุษย์

https://www.youtube.com/watch?v=AcHasH-nLhU&ab_channel=MovieclipsClassicTrailers

https://www.youtube.com/watch?v=ypBj0xDP-io&ab_channel=MrRyan