ผมมีโอกาสได้เป็นครูสอนในสถาบันการศึกษาและวิทยากรฝึกอบรม

คืออยู่มันทั้งในวงการศึกษา (Education) และฝึกอบรม (Training)

ทำให้ผมมีเพื่อนที่เป็น Teacher , Trainer , Coach , Facilitator

ซึ่งมีหน้าที่เหมือนกันคือ  “พัฒนาคน”

แต่กลุ่มผู้เรียนนั้นแตกต่างกันไปตามแต่ละบริบท

ทฤษฏีการเรียนรู้ (Theories of Learning) จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้สอนต้องรู้

เพราะเป็นการศึกษาถึงกระบวนการที่ทำให้เกิดการเรียนรู้ของผู้เรียน

ไม่ว่าจะเป็นทฤษฏีเรื่อง Behaviorism , Associative Theories ,

Operant Conditioning , Guthrie’s Continuous Conditioning Theory

และอีกหลายทฤษฎีที่ทำให้เราปวดขมัีบมาแล้ว

ตั้งแต่สมัยที่เรียนในวิชาจิตวิทยา (Psychology)

แต่ความรู้เหล่านี้ก็ทำให้เรารู้ว่า …

จะออกแบบการเรียนการสอนอย่างไรให้น่าสนใจ

โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญและสร้างความอยากเรียนรู้ให้เกิดกับผู้เรียนให้ได้

ด้วยความที่ผมมีเพื่อนในวงการ Training อยู่เยอะ

จึงได้ไอเดียมาสร้างกิจกรรมการเรียนรู้

เพื่อสอนครูที่ทำงานในวงการศึกษาว่าต้องเปลี่ยนบทบาทตัวเอง

จาก Lecturer แปลงร่างเป็น Facilitator ให้ได้

กิจกรรมหนึ่งที่ผมนำมาใช้สอนกับนักศึกษาที่เป็นว่าที่ครูในอนาคต

คือ You are in the movie

ที่ อาจารย์เอ วรยุทธ์ จากสำนักศิษย์ไชยยศ นำมาสาธิตให้ลองเล่นกัน

ซึ่่งกิจกรรมนี้มีการบูรณาการองค์ความรู้ในหลายศาสตร์

และเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ให้กับนักศึกษาได้อีกด้วย

โดยกิจกรรมนี้จะให้แต่ละกลุ่ม

- ถ่าย Clip ความยาวไม่เกิน 30 วินาที

- ต้องทายชื่อหนังหรือละคร ของกลุ่มอื่น

-ห้ามพูด/เขียน ชื่อหนังหรือตัวละครของกลุ่มเราลงในคลิป

 เกณฑ์การให้คะแนน คือ

- กลุ่มใดส่ง Clip ผลงานก่อน ก็จะมีคะแนนให้ตามความไวของแต่ละกลุ่ม

- ความยาวคลิปต้องไม่เกิน 30 วินาที ถ้าทำได้ก็ได้คะแนนเต็ม หาก Clip ยาวเกินจากนี้ได้ 0 แต้ม

- หากกลุ่มเราทายชื่อหนังได้ถูกต้อง ก็จะได้คะแนนทั้งกลุ่มที่ทายถูกและกลุ่มที่จัดทำ Clip

จากกิจกรรมนี้ผมวางแผนจะนำไปสอนให้กับนักศึกษาในเรื่อง Teaching

เพราะมีข้อคิดที่ผมได้จากกิจกรรมนี้ คือ

1. Highlight – การที่จะถ่ายทอดให้กลุ่มอื่นทายหนังเราถูกต้อง

เราต้องรู้ว่าหนังเรื่องนี้มีจุดขายในฉากตอนไหน

 
เหมือนการเป็นครู ที่เราต้องถ่ายทอดเนื้อหาที่สำคัญ

และต้องรู้ว่าเรื่องใดคือ Key point ที่ต้องเน้นให้เด็กรู้และทำได้

สิ่งสำคัญคือ ต้องรู้หัวใจในแต่ละ Unit ว่าอยู่ตรงไหน

 
2. Educational Technology – สื่อการสอนเป็นสิ่งสำคัญ

เพราะเป็นเครื่องมือในการสื่อสารที่ทำให้เข้าใจตรงกัน

คนเป็นครูจึงต้องมีความรู้ในเรื่องของเทคโนโลยีการศึกษา

ด้วยเครื่องมือที่จัดกิจกรรมเพื่อสร้างผลงานอย่างรีบเร่ง

เราต้องใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้คุ้มค่าในการผลิตงาน

ข้อคิดที่ได้เพิ่มเติมในประเด็นนี้คือ แม้ว่าเราจะไปเป็นครู ณ แห่งหนตำบลใด

อย่าไปอ้างโน้นอ้างนี่ว่าอุปกรณ์ไม่พร้อม ทำให้ฉันสอนไม่ได้

แต่เราต้องรู้จักเลือกใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ เท่าที่มีให้คุ้มค่ามากที่สุด

 
3. Cooperative Learning - จากกิจกรรมนี้

ผู้เรียนต้องใช้ทักษะด้านการถ่ายภาพ ตัดต่อ

เขียนบท เล่นละคร และสารพัดที่ต้องมาบูรณาการ

เพื่อจัดทำชิ้นงานในเวลาจำกัด

ทำให้ทุกคนได้เรียนรู้ระหว่างกลุ่มเพื่อนที่มีความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกัน

ซึ่งเป็นเทคนิคการสอนอีกประเภทที่เน้นการพึ่งพากันในทางบวก

ระหว่างผู้เรียนด้วยกันเพื่อช่วยกันเรียนแล้วประสบความสำเร็จ

(สนใจอ่านเพิ่มเติม คลิกที่นี่) 

 
4.Presentation – การนำเสนอต้องน่าสนใจ

ใส่ความคิดสร้างสรรค์และต้องเหมาะสมกับผู้เรียน

ซึ่งเป็นความท้าทายของครูว่าจะนำเสนออย่างไร

ให้ผู้เรียนเกิดความสนใจในสิ่งที่เราถ่ายทอด

และต้องสื่อสารได้ชัดเจน ตรงประเด็น

แบบเห็นปุ๊บก็รู้เลยว่า

Clip นี้ล้อเลียนหนังเรื่องอะไร

แล้วคุณหล่ะครับ

ได้เรียนรู้อะไรจากกิจกรรมนี้บ้าง

.com/dr.kaew  

  .com/drkaew