ผมเคยเขียนถึงหลักการสอน (Instruction) มามากมายหลายวิธี

ซึ่งทุกวิธีที่ผมนำเสนอนั้นมีจุดเน้นที่เหมือนกัน คือ Child Centered

คือ “ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ” ว่าต้องทำอย่างไร

เพื่อให้เด็กเกิดการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

The Flipped Classroom เป็นวิธีการจัดการเรียนการสอน

ที่กำลังเป็นที่นิยมในวงการศึกษาบ้านเราอยู่ในขณะนี้

ซึ่งผมได้เคยเขียนถึงไปแล้วเมื่อเดือน ส.ค.56 (สนใจอ่าน คลิกที่นี่) 

โดยวิธีการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบนี้

สอดรับกับวิถีสร้างการเรียนรู้ในศตวรรษที่21 

ที่เราไม่ได้ต้องการนักเรียนที่ท่องเก่ง เรียนเก่ง

แต่เราอยากได้บัณฑิตที่ใฝ่รู้และรู้วิธีการเรียนรู้ (Learning Skill) 

ครูจึงต้องสอนแต่สิ่งที่สำคัญ (Essential)

แล้วฝึกให้เด็กสามารถไปต่อยอดองค์ความรู้เองได้

เราจึงเปลี่ยนเป้าหมายจากครูเป็นหลัก

ให้เป็นนักเรียนเป็นหลัก โดยครูปรับบทบาทเป็น Coach หรือ Facilitator  

เพื่อให้เด็กได้ฝึกปฏิบัติจริงและเกิดการเรียนรู้แบบ Active learning

ตัวอย่างเช่น

- การใช้โครงงานเป็นฐาน โดยใช้ Post-it Technic (สนใจอ่าน คลิกที่นี่) 

- กิจกรรม "Briefing" ที่ใช้กับนักศึกษาระดับ ป.โท (สนใจอ่าน คลิกที่นี่) 

- ชู้รัก เรือล่ม กิจกรรมสอนเด็กแบบสุโค่ย (สนใจอ่าน คลิกที่นี่) 

- เมื่อเหล่าจอมยุทธ์มาช่วยเรื่อง นมและไข่ ที่ไร้ประสิทธิภาพ (สนใจอ่าน คลิกที่นี่)

- การเรียนการสอนแบบ Jigsaw model (สนใจอ่าน คลิกที่นี่)

เป็นต้น

หากท่านใดสนใจเรื่อง The Flipped Classroom

ขอเชิญเข้าร่วมสัมมนา “Flipped Classrooms เคล็ดไม่ลับสำหรับครู”

จัดโดยนิสิตระดับบัณฑิตศึกษา สาขาเทคโนโลยีการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ ม.บูรพา

โดยผมจะนำเสนอตั้งแต่ปฐมบทของ Active learning

จนถึงกรณีศึกษาเรื่องการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบ The Flipped Classroom

ซึ่งการจัดสัมมนาครั้งนี้ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ต้องโทรจองที่นั่งก่อนนะครับ

Active learning นับว่าเป็นจุดเปลี่ยนของการศึกษาไทย

เพื่อก้าวไปสู่ห้องเรียนในศตวรรษที่ 21

ที่คนในวงการศึกษาต้องช่วยกันพัฒนาการเรียนการสอน

ให้เด็กไทยได้คิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น

ไม่ใช่ให้เด็กจดจำเนื้อหาที่เรียนกันแบบนกแก้ว นกขุนทอง

เหมือนการสอนแบบ 100-200 ปีที่แล้วอีกต่อไป

**

.com/dr.kaew  

.com/drkaew