พี่ทำอย่างไร น้องขอทำอย่างนั้น (Gligo Pocky & Gap)

            จะเห็นได้ว่า กูลิโกะ เป็นแบรนด์ที่ครองหัวใจคนไทยเป็นอันดับหนึ่งมาอย่างยาวนานตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่า กว่า 42 ปีแล้ว จนถึงปัจจุบันชื่อนี้ก็ยังมิเคยจางหายไป แม้จะมีวิกฤตการณ์น้ำท่วมจนทำให้ผลิตภัณฑ์จำต้องหายไปจากตลาดอยู่พักใหญ่ แต่หาได้หายไปจากใจผู้บริโภคแม้แต่น้อย เพราะความน่าสนใจอย่างนี้มีหรือที่จะไม่มีแบรนด์อื่นอยากขอโอกาสได้สัมผัสความรู้สึกแบบกูลิโกะบ้าง

            แต่ถ้าต้องทำแบรนด์มาแข่งสู้ ก็เห็นจะต้องสู้กันเรื่องราคาและลูกค้าระดับล่างเท่านั้น ลองมาดูกันนะคะว่าจริงมั้ย

            ในตลาดตอนนี้แบรนด์น้องใหม่อย่างแก๊ปที่ขอมาท้าชิงพี่ใหญ่ ก็ในเมื่อพี่ทำแล้วดัง น้องเล็กอย่างดังอย่างพี่ก็ขอดูพี่เป็นตัวอย่างนะ

            # เริ่มจาก packaging กันก่อนค่ะ

-          ขนาดกล่องเท่ากัน

-          ใช้สีแดงเหมือนกัน

-          ตำแหน่งวางโลโก/ชื่อแบรนด์ก็เป็นแนวเดียวกันเลย

มาดูด้านข้าง มีการให้รายละเอียดไม่แตกต่างกันมาก แต่ของพี่กูลิโกะจะทำไว้ได้ดีกว่า เพราะอ่านง่ายกว่า และมีการเน้นในส่วนประเด็นสำคัญได้ชัดเจนกว่ามากค่ะ

            # ต่อมาเป็นเรื่องของปริมาณกันบ้าง

-          กูลิโกะ น้ำหนักสุทธิ 47 กรัม

-          แก็ป น้ำหนักสุทธิ 40 กรัม

ถ้าเทียบกันแท่งต่อแท่ง จะพบว่า กูลิโกะมีจำนวนมากกว่า อยู่ 2 แท่ง (เท่านั้นเอง)

            # สุดท้ายมาดูกันที่ราคา

-          กูลิโกะ ราคา 18.- บาท (ตกแท่งละ 1.28 บาท)

-          แก็ป ราคา 12 บาท  (ตกแท่งละ 0.92 บาท)

อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ตอนต้น พี่ใหญ่เราเค้าอยู่ในใจลูกค้ามายาวนาน อะไรอะไรก็เปลี่ยนยาก แต่น้องใหม่ก็สู้ไม่ถอยจนเกิดปรากฏการณ์แก็ปเกลี้ยงชั้นได้ด้วยแรงโปรโมชั่นแสตมป์ของ 7-Eleven ได้ก็แล้วกัน

***ซื้อแก็ป 2 กล่อง 24 บาท + แสตมป์รักเมืองไทยแบบจัดหนัก 6 ดวง***

อันนี้ขายดีเพราะอานิสงส์ ของแสตมป์ 7-Eleven ยืนยันได้จากปรากฏการณ์กูลิโกะเกลี้ยงชั้นที่เทสโก้โลตัสนะ ด้วยโปรโมชั่น

***ซื้อกูลิโกะ 2 กล่อง 36 บาท + ฟรีอีก 1 กล่อง ***

ขนาดแก็ปสู้ด้วยการลดราคาเหลือกล่องละ 9 บาท ยัง“เอาไม่อยู่” เลยพี่น้อง

ถึงกระนั้นก็เถอะ พี่กูลิโกะก็อย่าได้วางใจคิดว่าจะ “เอาอยู่” ได้ตลอดนะคะ

แล้วถ้าคุณอยู่ในฐานะพี่กูลิโกะคุณคิดว่าจะป้องกันแชมป์อย่างไรดี?
หรือถ้าคุณเป็นน้องแก็ป คุณคิดว่าจะเอาไงต่อดีคะ?