เรามาเรียนรู้หัวใจของบุคคลออทิสติกกันต่อนะคะ    ความจริงแล้วแม่หมีมีหนังเกี่ยวกับออทิสติกที่อยากดูและเข้าฉายในโรงหนังในเวลาไล่เรี่ยกัน 2 เรื่อง   แต่ดันพลาดไป 1 เรื่อง  เรื่องที่พลาดก็คือหนังเกาหลีเรื่อง " Keys to  the Heart  พี่หมัดหนัก กับน้องอัจฉริยะสุดป่วน "  เป็นหนังพี่ชายเป็นนักมวยตกอับ ส่วนน้องชายเป็นออทิสติกมีความเป็นอัจฉริยะด้านดนตรี  ฟังเรื่องแค่นี้แม่หมีก็อยากจะไปดูจะแย่แล้วค่ะ   เพราะเรามีลูกเป็นออทิสติกด้วย  แล้วส่วนใหญ่ก็จะตามดูหนังแถมถ้าแผ่นออกก็จะเก็บสะสมไว้อีกด้วย   แม่หมีว่าจะไปดูๆแต่ก็พลาดคือ   แม่หมีน่ะ สุขภาพจะดีในบางวัน  บางวันก็แย่  บางทีตั้งใจจะไปแต่พอรู้สึกความดันขึ้น  รีบเอาที่วัดความดันมาวัด   เออ....ความดันสูงแฮะ  ไม่ไปดีกว่า  บางทีก็มัวรอบอดี้การ์ด(หมีน้อย  พี่หมีใหญ่)ไปด้วย  ถ้าบอดี้การ์ดไม่ว่าง ก็เลยอดไปเพราะถ้าไปแล้วไปหกล้มก็จะโดนพ่อหมีบ่น     พอมีโอกาสจะดูเข้าไปเช็ครอบฉาย  อารมณ์เสีย!!  ฉายทำไมตอนรอบเย็น  รอบค่ำ  อดดูอี๊กกกกก....   ช่างไม่เห็นใจกันบ้างเลย  สงสัยเป็นหนังนอกกระแส   ตกลงเลยอดดูหนังเรื่องนี้  คงต้องรอแผ่นสินะ!!
                                                                               หนังเกาหลีเรื่อง " Keys to the Heart  พี่หมัดหนัก กับน้องอัจฉริยะสุดป่วน "

         พอถึงวันจันทร์ที่ 23 เมษายน ที่ผ่านมา  วันจันทร์เป็นวันที่หมีน้อยไม่ต้องไปทำงานแม่หมีเลยถือเอาเป็นวันที่สองแม่ลูกจะออกเที่ยว   แต่เช้าวันนั้นมีนัดคุณหมอที่รพ.เซนต์หลุยส์  แต่ไม่เป็นไรรพ.เอกชน   ยังไงก็พบหมอแป๊บเดียวได้ดูหนังแน่นอน  หมีน้อยน่ะถ้าแม่หมีขอร้องให้ทำอะไรเขาไม่เคยปฏิเสธอยู่แล้ว  ทั้งๆที่ไม่ใช่แนวที่หมีน้อยชอบ   แม่หมีบอกเขาว่า   เรื่องนี้ตัวเอกนำแสดงโดย ดาโกต้า แฟนนิ่ง  แสดงเป็นบุคคลออทิสติก  ซึ่งหมีน้อยเขารู้จักผลงานของดาราคนนี้เป็นอย่างดี   เพราะเธอเคยแสดงมาหลายเรื่องตั้งแต่เป็นเด็กจนโตเป็นสาวและที่น่าสนใจคือในตอนเด็กเธอเคยแสดงในเรื่อง  I am Sam  เธอแสดงเป็นลูซี่  ลูกสาวของ Sam  ซึ่งเป็นบุคคลออทิสติก ( แสดงโดยฌอน  เพนน์) และตอนนั้นแม่หมีก็พาหมีน้อยไปดูหนัง   (หนังดราม่าแต่เรื่องของคนดูหนังอย่างแม่หมีดราม่ามากกว่าในหนังเสียอีก  ถ้าอยากรู้ว่ามันดราม่าขนาดไหนให้คลิกเข้าไปที่เอ็นทรี่ " มันเป็นประสบการณ์นะ........คุณแม่" มี 3 ตอนจบ คลิกได้ที่ท้ายเอ็นทรี่นี้เลยค่ะ  แล้วคุณจะรู้ว่า  กว่าจะมาเป็นแม่หมีกับหมีน้อยทุกวันนี้  ชีวิตมันไม่ง่ายเลย)
                                                                                           

                                                      หนังเรื่อง  I  am Sam                   

           คราวนี้ย้อนกลับมา เรียนรู้หัวใจของบุคคลออทิสติกกันต่อ (หลังจากที่เถลไถลออกนอกเรื่องไปเสียไกลตามประสาแม่หมี  555)  เรื่องนี้เป็นเรื่องของหนังที่ไปดูมา คือเรื่อง  "Please Stand By  เนิร์ด....แล้วไง ! มีหัวใจนะเว้ย" เป็นเรื่องราวของเวนดี้เด็กสาวที่เป็นบุคคลออทิสติก   เธอมีความชอบและเป็นผู้รอบรู้ทุกเรื่องของภาพยนตร์เรื่อง   STAR TREK  ด้วยเหตุนี้กระมัง   คนตั้งชื่อหนังภาษาไทยจึงใช้คำว่า เนิร์ด Nerd   ซึ่งหมายถึง “คนที่ทำอะไรด้วยความชอบเป็นหลัก” หรืออาจกล่าวได้ว่าคือ คนที่ใช้เหตุผลและตัดสินใจบนพื้นฐานของความชอบหรือความหมกมุ่น  (เป็นความหมายของคำว่า Nerd จากวิกิพีเดีย)  แต่เธอไม่สามารถอยู่ร่วมกับครอบครัวได้   ซึ่งครอบครัวของเธอมีเพียงออเดรย์ พี่สาวเพียงคนเดียว  จากที่แม่หมีดูพฤติกรรมของเธอ   เธอไม่สบตา  เธอยังคงมีอาการกรีดร้องถ้ามีสิ่งเร้าที่ทำให้เธอเครียด  เธอไม่สามารถข้ามถนนเองได้   (เหมือนหมีน้อยของเราเลย    แต่ที่สุดในหนังเรื่องนี้มีสถานการณ์ที่ทำให้เธอข้ามถนนจนได้  ในขณะที่หมีน้อยต้องข้ามสะพานลอย  หรือต้องรอให้มีคนข้ามด้วยถึงจะข้ามได้  ส่วนการที่จะดูสัญญาณข้ามถนนของบ้านเรา   555  ขอบอก!  เมืองไทยถึงจะมีแต่ก็ไม่ค่อยได้ผลอะไรเท่าไหร่  เพื่อนๆผู้อ่านเห็นด้วยมั๊ย)  นอกจากนี้เวนดี้ยังไม่ชอบเด็กเล็กๆ พี่สาวของเธอมีลูกเป็นเด็กเล็กๆ หากร้องไห้ก็อาจทำให้เธอเครียดหรือทำร้ายเด็กได้   เธอยังมีการดำเนินชีวิตอย่างมีแบบแผนซ้ำๆกันทุกวันและยังมีอาการอื่นๆอีกมากซึ่งเป็นอาการที่บุคคลออทิสติกต้องทำ   ทำซ้ำๆจนชิน  หมีน้อยก็เหมือนกัน  แต่แม่หมีว่าบางเรื่องก็เป็นข้อดีเพราะทำให้กลายเป็นคนมีวินัย   มันจะไม่ดีคือบางครั้งมันทำให้หมีน้อยเครียดถ้าต้องมีเหตุการณ์หรืออะไรมาทำให้สิ่งที่เคยทำมันสะดุดหรือทำไม่ได้    หนังเรื่องนี้ทำให้เราเห็นว่า   ออเดรย์ พี่สาวของเธอไม่มั่นใจว่าจะควบคุมเธอได้ในเวลาที่เธอเครียด   ดังนั้นพี่สาวจึงส่งตัวเธอให้ไปพักอยู่ที่ศูนย์ดูแลเด็กพิเศษ   แต่เธอก็ได้ทำงานในร้านขายขนมแสนอร่อย  (ที่พี่หมีใหญ่มักจะชอบซื้อมาฝากแม่หมีและหมีน้อยบ่อยๆ  แม้ว่าจะทำให้เบาหวานของแม่หมีพุ่งกระฉูดก็ตาม  อันนี้แม่หมีต้องกินแต่พอประมาณ)  วันหนึ่งเวนดี้ได้เห็นโฆษณาประกวดเขียนบทหนัง STAR TREK เพื่อจะทำหนังภาคใหม่ของ Paramount Pictures    เธอจึงตัดสินใจเขียนบทเพื่อส่งเข้าประกวดด้วยความหวังว่า   ถ้าเธอได้เงินรางวัลชนะเลิศพี่สาวจะเห็นความสามารถของเธอและยอมให้เธอกลับไปอยู่บ้าน   แต่ด้วยเวลาที่กระชั้นชิด  ซึ่งแม่หมีจำได้แม่นเลยว่าเธอเขียนบทหนังเสร็จในวันที่  14 กุมภาพันธ์  แต่จะต้องส่งถึงParamount Pictures ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์  แต่มันติดตรงที่ว่าเป็นวันหยุดและเธอส่งทางไปรษณีย์ไม่ทันแน่ๆ   เธอจึงตัดสินใจที่จะเดินทางไปส่งบทหนังให้ทางสตูดิโอParamount  Pictures   ด้วยตัวเอง   ซึ่งตั้งอยู่ที่Los Angelesไกลจากเมืองที่เธออยู่หลายร้อยไมล์    เธอจึงตัดสินใจหนีออกจากศูนย์ดูแลเด็กพิเศษ   การเดินทางของสาวน้อยที่เป็นออทิสติกจึงเริ่มขึ้น  เธอจะขจัดความกลัวต่างๆได้หรือไม่  สุดท้ายเธอจะส่งบทหนัง STAR TREK ได้ทันเวลาหรือไม่   การผจญภัยของเธอจึงเริ่มต้นขึ้น   ท่ามกลางความห่วงใยของพี่สาวและจิตแพทย์ที่ดูแลเธอ 

                                  หนังเรื่อง Please Stand By เนิร์ด....แล้วไง ! มีหัวใจนะเว้ย

        หนังเรื่องนี้จะทำให้คุณเข้าใจบุคคลออทิสติกมากขึ้น   คุณจะได้เห็นความใสซื่อบริสุทธิ์แม้จะถูกเอารัดเอาเปรียบ  คุณจะได้เห็นความมุ่งมั่นที่จะทำในสิ่งที่เธอคิดว่าถูกต้อง  เห็นความพยายามที่จะทำในสิ่งที่เธอเชื่อมั่น  เป็นความใสซื่อของบุคคลออทิสติกที่คุณจะหลงรัก  ประโยคเด็ดที่แม่หมีต้องหยิบเอากระดาษมาจดไว้เมื่อได้ยิน  งมเขียนในความมืดของโรงหนัง  " ทางเดียวที่จะเอาชนะความกลัว ก็คือการเดินไปข้างหน้า !"  บอกตรงๆชื่อหนังภาษาไทยไม่ค่อยชอบ  แต่มันก็เป็นจริงตามนั้น " เนิร์ด....แล้วไง ! มีหัวใจนะเว้ย "   มันเหมือนเวลาที่หมีน้อยถูกเอาเปรียบจากคนรอบข้าง  แต่หมีน้อยก็ไม่รู้ว่าจะตอบโต้เขาอย่างไร  ได้แค่กลับมาหาแม่หมี  มาร้องไห้กับแม่หมี  พร่ำพูดแต่คำว่า  " หมีน้อยเสียใจ  หมีน้อยเสียใจ "  จนแม่หมีอยากจะตะโกนบอกทุกคนที่ทำร้ายหมีน้อย   ไม่ว่าหมีน้อยจะถูกทำร้ายด้วยการกระทำหรือด้วยคำพูด  เหมือนนกตัวเล็กๆที่บาดเจ็บและหลงทาง แม่หมีอยากบอกกับคนเหล่านั้นว่า   " ถึงหมีน้อยจะเป็นออทิสติก  แต่หมีน้อยก็มีความรู้สึก   มีความเสียใจ  มีหัวใจเหมือนคนอื่น  เขารู้ว่าถูกกลั่นแกล้ง   รู้ว่าถูกเอาเปรียบ  แต่หมีน้อยก็ไม่เคยตอบโต้ "   มีแม่หมีเท่านั้นที่คอยกอดและปลอบโยนเขาตลอดเวลาที่ผ่านมา   และมันจะยังคงเป็นเช่นนี้ตลอดไปในยามที่เขาเจอปัญหา   นี่ล่ะค่ะ   หนังเรื่องนี้เขาจัดอยู่ในประเภท Drama  Comedy  แต่สำหรับแม่หมีแล้ว  มันคือหนังชีวิต   หนังชีวิตที่แสนเศร้า  เศร้าแบบไม่มีวันจบ   หนังอาจจบแต่ชีวิตจริงของบุคคลออทิสติกยังคงต้องการความช่วยเหลือ   การดูแล  อย่าเอาความใสซื่อของเขามาใช้ในการเอาเปรียบใช้ในความไม่เข้าใจและไม่เห็นใจเขาเลยค่ะ   หากคุณมีลูกหลานที่เป็นออทิสติก  มีคนที่คุณรักเป็นออทิสติกคุณจะเข้าใจในสิ่งที่แม่หมีรู้สึก   ทำไมแม่หมีถึงเขียนเรื่องราวของหมีน้อยได้มากมาย   ทุกวันเราเจออะไรมากมายที่ยังต้องการการแก้ไข   ต้องการความช่วยเหลือ   หมีน้อยไม่ได้เป็นบุคลากรที่ไม่มีความสามารถ   เขามีความสามารถ  ทำไมภาครัฐจึงไม่หันมาดูแลบุคคลเหล่านี้อย่างจริงจังเสียที   เมื่อรัฐจับโยนเขาให้เข้าไปอยู่ในกลุ่มเดียวกับคนพิการ  เรื่องบางเรื่องเขาก็ถูกจำกัดสิทธิแค่คนพิการ                            

        ความจริงแล้วออทิสติกมีความหลากหลาย  เอาง่ายๆว่า สมมติว่า  ออทิสติกคือเส้นตรงเส้นหนึ่ง  แล้วเราเอาออทิสติกมายืนเรียงกัน   แต่ละคนก็จะมีความแตกต่างกันบางคนเก่งมาก    เก่งน้อย  เก่งจนเป็นอัจฉริยะในแต่ละด้าน   หรือบางคนก็แย่จนไม่สามารถทำอะไรได้เลย   มันไม่สามารถมาบอกได้โดยรวมคร่าวๆ  ถ้าบอกแบบนั้นทุกคนจะไม่เห็นความสามารถที่เกินกว่าคนปกติเลย   น่าเสียดายที่เราน่าจะมีหน่วยงานที่รับรู้ความสามารถที่เกินกว่ามนุษย์ปกติของเขา  แล้วดึงเอาศักยภาพที่เขามีมาให้ทำงานในสิ่งที่เขาเก่ง   ความเป็นอัจฉริยะของเขาช่างสูญเปล่าจริงๆ    ฝากไว้ตรงนี้ด้วยแล้วกันค่ะ  กับหน่วยงานที่รับผิดชอบ  ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์,กระทรวงแรงงาน,กระทรวงศึกษาธิการฯลฯ   เอิ่ม....ถ้ามีใครช่วยเรียนไปถึงลุงตู่ได้  ช่วยฝากเรียนลุงตู่ด้วยแล้วกันค่ะ   ลุงตู่อย่าลืมดูแลบุคคลออทิสติกและเด็กพิเศษรวมทั้งคนพิการทั้งหลายด้วยล่ะคะเพื่อให้เขามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น   มีอาชีพและช่วยเหลือตัวเองได้   เงินสำหรับคนพิการเดือนละไม่กี่ร้อยนั่นไม่เพียงพอสำหรับการดำรงชีวิต   เราไม่ควรให้ปลาเขา   แต่เราควรให้เครื่องมือจับปลาแก่เขาจะดีกว่ามั๊ย.....

                  ด้วยความขอบคุณ

                         แม่หมี ( แม่ของบุคคลออทิสติกที่อยากให้ทุกคนเข้าใจออทิสติกด้วยค่ะ)
                                                                                             
    ขอบคุณ 
             ภาพจากหนังเรื่องKeys to the Heart  พี่หมัดหนัก กับน้องอัจฉริยะสุดป่วน จาก YouTube
             ภาพจากหนังเรื่อง I am Sam จาก   http://www.bluerollingdot.org/articles/entertainment/277
             ภาพจากหนังเรื่อง Please Stand By เนิร์ด....แล้วไง ! มีหัวใจนะเว้ย จาก  GoDialy
             Please Stand By - Official Trailer  จาก  Mongkol Major Mongkol Cinema จากในYouTube

          ลิงค์ที่อยากให้คลิกเข้าไปอ่านค่ะเพราะมันดราม่ายิ่งกว่าหนังเสียอีก  มันคือชีวิตจริงของแม่หมีกับหมีน้อยเลยค่ะ  คลิกที่ชื่อเรื่องได้เลยค่ะ

มันเป็นประสบการณ์นะ........คุณแม่ ( ตอนที่ 1 )

มันเป็นประสบการณ์นะ........คุณแม่ ( ตอนที่ 2 )

มันเป็นประสบการณ์นะ........คุณแม่ ( ตอนจบค่ะ )