ไม่ต้องตกใจ แม่หมีเขียนชื่อเอ็นทรี่ถูกต้องแน่นอนค่ะ เรื่องของเรื่องคือ แม่หมีคุยกับลูกหมีสองคนเรื่องหลานของคนรู้จัก เพิ่งเข้าเรียนประถม 1 เปิดเรียนมาเกือบสามสัปดาห์แล้ว แต่ยังปรับตัวไม่ได้ ไม่มีเพื่อน ไม่คุยกับใคร สัปดาห์แรกนี่ไม่มีการเข้าห้องน้ำไม่ปัสสาวะ บางวันไม่กินข้าวเพราะอาหารไม่ถูกปาก ก็เข้าใจนะคะว่าโรงเรียนขนาดใหญ่มีนักเรียนมากมาย และเด็กก็อยู่ชั้นประถมแล้วต้องสามารถดูแลตัวเองได้ในระดับนึง ครูเขาจะมาใส่ใจอะไร เพราะปกติแล้วเรื่องเหล่านี้ต้องถูกฝึกมาตั้งแต่เรียนอนุบาลแล้ว เด็กบางคนเข้าเรียนเนิสเซอรี่มาก่อนก็ยิ่งมีความพร้อมมากขึ้น แม่หมีได้ยินแล้วก็รู้สึกเป็นห่วงเด็กคนนี้ แต่อะนะ...แม่หมีก็เพียงได้แต่แนะนำว่า แบบนี้ต้องไปปรึกษาคุณครูประจำชั้นแล้ว แต่ถ้าแม่หมีพูดมากไปก็จะกลายเป็นเผือกเรื่องของเขาไป คุยกันกับลูกๆเรื่องนี้แล้ว ก็เลยมาคุยถึงตอนที่เขายังเป็นเด็กอนุบาล ลูกทั้งสองคนเรียนอนุบาลตั้งแต่สองขวบกว่าๆ แต่เป็นโรงเรียนของญาติผู้พี่ วันแรกๆที่ไปส่งก็มีร้องไห้ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่เด็กจะร้องไห้ เพราะเขาไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องถูกทิ้งให้อยู่กับครู ทั้งที่เราอธิบายก็แล้ว พาไปให้เห็นโรงเรียนก็แล้ว ได้เล่นเครื่องเล่นในสนามก็แล้ว ตกลงกันเป็นอย่างดีว่าลูกต้องไปโรงเรียน แต่พอถึงวันเข้าเรียนจริงกลับไม่ยอมเข้าใจอะไรทั้งนั้น เรียกว่าต้องใช้คำว่า "แหกปากร้องไห้" กันเลยทีเดียว ซึ่งแม่หมีก็เป็นครูทำไมจะไม่เข้าใจธรรมชาติของเด็ก พอลูกร้องไห้ แม่หมีก็น้ำตาจะหยดตามไปด้วย แต่นั่นแหล่ะค่ะถ้าเรายอมแพ้จูงลูกกลับบ้านเหมือนที่ผู้ปกครองบางคนทำ ลูกก็ไม่มีโอกาสได้ปรับตัวกันเสียที ไม่นานหรอกค่ะเด็กๆก็จะเรียนรู้และปรับตัวได้ แต่เวลาไปรับลูกก็ต้องไปให้ตรงเวลานะคะ ไม่ใช่ไปล่าช้าจนเด็กคนอื่นเขาเริ่มทยอยกลับบ้านไปแล้ว ลูกเราจะร้องไห้ค่ะเพราะคิดว่าพ่อแม่คงจะทิ้งเขา แต่พอเรียนรู้ปรับตัวได้กลับกลายเป็นจะไม่ยอมกลับบ้านซะงั้น เพราะอยู่โรงเรียนเพื่อนเยอะ หมีน้อยนี่ไปเรียนตั้งแต่ยังไม่ยอมพูด เพราะเขาเป็นออทิสติกและกว่าจะพูดได้ก็นานมาก จนเราคิดว่าเขาจะไม่พูดเสียแล้ว ซึ่งเราก็พาไปหาหมอไปเช็คทุกอย่างทั้งการได้ยิน การฟัง คุณหมอบอกทุกอย่างปกติหมด แต่ที่ไม่พูดก็เพราะเขาเป็นออทิสติก เราก็ได้แต่รอ...และขอพรจากพระเจ้าขอให้เขาพูดได้ในสักวัน เขาทำท่าจะพูด เปล่งเสียงมาเป็นคำๆแต่ไม่มีความหมาย แล้วก็หยุดพูดไปเฉยๆ โน่นแน่ะค่ะกว่าจะพูดได้ก็ล่อเข้าไปเกือบ 4 ขวบ ยังไม่พูดแต่ 2 ขวบแล้ว เราก็ต้องเอาไปโรงเรียนเพราะไม่มีคนเลี้ยง หมีน้อยนี่วันแรกไม่ร้องไห้คงยังงงกับชีวิต แต่วันต่อๆมาเริ่มร้องไห้ แถมพอแม่หมีหยิบชุดนักเรียนมานี่ร้องไห้เลย แม่หมีไม่ยอมแพ้ค่ะ ไม่ใส่ก็ไม่เป็นไร นุ่งกางเกงในตัวเดียวพานั่งมอเตอร์ไซค์ไปโรงเรียน เอาเสื้อผ้า ถุงเท้ารองเท้าไปให้ครูใส่ ตอนนั้นยังทำงานค่ะ จะเสียเวลารบกับหมีน้อยไม่ได้เดี๋ยวเราไปทำงานสาย พอเขาปรับตัวได้เขาก็ยอมใส่เสื้อผ้า ยอมไปโรงเรียน ย้อนมาที่ชื่อเอ็นทรี่ "เมื่อพี่หมีใหญ่โดนถีบ....." นั่นคือตอนที่พี่หมีใหญ่ย้ายมาจากรร.อนุบาลอนันตศานติศึกษา มาเข้าเรียนที่รร.ทุ่งมหาเมฆ ซึ่งเดิมอยู่ในสังกัดสปช. (สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ ) ตอนนี้สังกัดสพฐ.สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ รร. ทุ่งมหาเมฆ เป็นโรงเรียนขนาดกลาง เปิดสอนตั้งแต่อนุบาลจนถึง ป.6 แม่หมีตั้งใจให้เรียนที่นี่เพราะชอบหลักสูตรอนุบาลมีแนวการสอนแบบมอนเตสซอรี่ (Montessori Method) พัฒนาการสอนให้สัมพันธ์กับพัฒนาการความต้องการ ตามธรรมชาติของเด็กแต่ละคน เด็กจะเข้าเรียนได้ต้องมีอายุ 4 ขวบเต็ม (นั่นคือลูกๆจึงต้องไปเรียนที่อื่นตั้งแต่ 2 ขวบ ก็เพราะแม่หมีต้องทำงาน) พี่หมีใหญ่มาจากรร.ที่สอนแบบเข้ม อายุ 3 ขวบกว่านี่อ่านหนังสือดรุณศึกษาได้แล้ว (ซึ่งแต่งโดยนักบวชคาทอลิกชาวฝรั่งเศส ฟ. ฮีแลร์ หรือ เจษฎาธิการฮีแลร์) เราก็ไม่ใช่จะเร่งลูกหรอกค่ะ แต่เป็นโรงเรียนของญาติผู้พี่ เราเลยไว้ใจ แล้วผู้ปกครองก็ส่งลูกมาเรียนที่นี่เพื่อจะสอบเข้ารร.เอกชนชื่อดังแถวสาทร แถวบางรัก พอพี่หมีใหญ่มาเรียนที่ รร.ทุ่งมหาเมฆ เราก็ได้รับการร้องขอจากคุณครูว่า ห้ามสอนให้ลูกอ่านหนังสือ แต่คุณพ่อคุณแม่จะต้องอ่านนิทานให้ลูกฟัง สิ่งที่ลูกเรียนรู้มาให้เขาลืมไปเลย ไม่ต้องอ่านต้องเขียน และแม่หมีก็เห็นด้วยกับการเรียนแบบเตรียมความพร้อมทำให้ลูกๆมีความสุข สนุกที่จะเรียนรู้และทำกิจกรรมต่างๆที่จะพัฒนาสมองของเขามากกว่าการที่จะอัดตัวหนังสือเข้าไปในสมองน้อยๆ พี่หมีใหญ่และหมีน้อยจึงมีความสุขที่ได้เรียนในโรงเรียนนี้ เวลาไปโรงเรียนนี่ร้องเพลงงุ้งงิ้งๆตลอดทาง สัปดาห์แรกของการเรียนอนุบาล 1 ของรร.ทุ่งมหาเมฆ แม่หมีสังเกตเห็นว่า เสื้อของพี่หมีใหญ่สะอาดมาก ไม่มีคราบเหงื่อไคล แต่ก็เข้าใจได้ว่า เวลาทำกิจกรรมเด็กๆต้องใส่ผ้ากันเปื้อน แต่คอเสื้อนี่ขาวสะอาดเสื้อผ้าไม่เหม็นเหงื่อ แม่หมีก็เริ่มกังวลแล้วค่ะ นี่ลูกของชั้นไม่มีเพื่อนเลยหรือ เลยต้องไปถามคุณครูว่า "ครูขา คุณแม่สังเกตเห็นว่าเสื้อลูกสะอาดมาก ไม่ได้วิ่งเล่นกันกับเพื่อนเลยหรือ " ครูตอบว่า " เขายังไม่สนิทกันค่ะ มีคุยบ้างแต่ยังไม่ชวนกันวิ่งเล่น ครูก็กระตุ้นๆอยู่เหมือนกัน" แม่หมีก็บอกครูว่า อยากให้ลูกมีเพื่อนเยอะๆค่ะ พอสัปดาห์ที่สอง แม่หมีไปรับพี่หมีใหญ่ แม่หมีหัวเราะก๊ากเลยค่ะ กลางหลังพี่หมีใหญ่มีรอยบาทาจากรองเท้าของใครสักคน แม่หมีถามพี่หมีใหญ่ว่า "นี่รอยเท้าใครครับ" แม่หมีดีใจมากค่ะ มันต้องแบบนี้สิลูก ไปเรียนหนังสือเสื้อมันจะขาวสะอาดได้ยังไง มันต้องเลอะแบบนี้ถึงจะเรียกว่า มีเพื่อนและปรับตัวได้แล้ว วันรุ่งขึ้นรีบไปเล่าให้คุณครูฟัง คุณครูบอกจะหาตัวคนทำรอยสกปรกมั๊ย แม่หมีบอก " ไม่ต้องไปหาหรอกค่ะคุณครู มาเล่าให้ฟังเพราะดีใจว่าลูกมีเพื่อนเล่นแล้ว " คุณครูอมยิ้มบอก เป็นผู้ปกครองที่ไม่เหมือนใครจริงๆ และหลังจากนั้นก็จะมีเรื่องที่แม่ลูกคุยกันเสมอว่าแต่ละวัน ทำอะไรกันบ้าง จนกระทั่งวันหนึ่งพี่หมีใหญ่มาเล่าให้ฟังว่า "แม่ครับที่โรงเรียนมีผีตานีด้วย" ไปเล่าให้คุณครูฟัง คุณครูบอก "เราเรียนเรื่อง "กล้วย" กันค่ะ " ( แค่เรื่อง กล้วย ก็เรียนกันเป็นเดือนๆค่ะ เด็กๆรู้จักกล้วยทุกชนิด ได้ชิมกล้วยทุกอย่าง รู้ทุกอย่างของกล้วยตั้งแต่ผลใบ หัวปลี หน่อกล้วย เชือกกล้วย ได้กินของกินที่ทำจากกล้วย เช่น กล้วยบวดชี กล้วยเชื่อม ขนมกล้วย ฯลฯ ได้เอาใบตองมาทำอะไรหลายๆอย่าง บังเอิญที่บ้านปลูกต้นกล้วย เลยให้พ่อหมีทำม้าก้านกล้วยเป็น 10 ตัว พร้อมดาบที่ทำจากก้านกล้วย สนุกเขาล่ะ) และจากการเรียนเรื่องกล้วย คุณครูพาเข้าแถวไปดูต้นกล้วย แต่เขามาเล่าให้แม่หมีฟังเพราะครั้งหลังเขาแอบครูไปเพื่อจะไปจับผีตานีกัน คุณครูบอกคงแอบไปตอนพัก ปกติเด็กอนุบาลเขาจะไปไหนต้องไปเป็นแถวไปพร้อมๆกัน แสดงว่าพี่หมีใหญ่กับเพื่อนๆแอบหนีครูไปจนได้ 555 ลูกดิชั้น ซนได้ใจแม่จริงๆ พอเราคุยกันเรื่องแอบไปดูดงกล้วยกับเพื่อนๆ แม่หมีถามพี่หมีใหญ่ว่า " ปกติเด็กอนุบาลก็จะอยู่ในซีกด้านอนุบาลไม่ใช่เหรอ ลูกข้ามไปฝั่งประถมได้ยังไง" 5555 แม่หมีเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองค่ะว่า การข้ามไปเล่นในฝั่งประถม คือการผจญภัยที่ยิ่งใหญ่มากๆ สุดยอดเลยลูกชั้น มิน่าถึงชอบแบ๊คแพคไปเที่ยวต่างประเทศคนเดียว ประเด็นเรื่องหลานเพื่อนปรับตัวให้เข้ากับโรงเรียนไม่ได้ กลายเป็นหัวข้อให้แม่หมีมีเรื่องคุยกับลูก และย้อนอดีตได้ บอกมาเสมอไม่ใช่เหรอคะว่า แม่หมีมีความสุขที่อยู่ท่ามกลางลูกๆ ครอบครัวเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมและดีต่อใจของแม่หมีค่ะ อ้อ ถ้าใครมีลูกหลานโปรดสังเกตด้วยนะคะว่า เขาสามารถปรับตัวเข้ากับเพื่อนๆได้มั๊ย เสื้อเลอะเทอะซักได้ค่ะ ถ้ามันจะทำให้เขามึพัฒนาการที่ดีปล่อยให้เลอะเทอะบ้างก็ได้ค่ะ เก็บมาเล่าโดย....
คลิกได้เลยค่ะ
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
หมีน้อยกับผองเพื่อน | ||
![]() |
||
ภาพของหมีน้อยกับเพื่อนไปทัศนศึกษาสมัยเรียนประถมค่ะ |
||
View All ![]() |
กลิ่นจัน | ||
![]() |
||
เพลงกลิ่นจัน ของมหาวิทยาลัยศิลปากร |
||
View All ![]() |
<< | มิถุนายน 2018 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | |||||
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |