เพื่อนๆที่เข้ามาอ่านคงสงสัย   ทำไมแม่หมีมาเขียนเรื่องหนัง  ไม่เขียนเรื่องเจ้าหมีน้อย จากเด็กออทิสติกมาเป็นบุคคลออทิสติก ก็เขาโตเป็นหนุ่ม  เรียนจบรับพระราชทานปริญญา  เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2560  ทำงานแล้ว  จะมาเม้าท์มอยอะไรเขาอีก   แต่ก็คงมีคนคิดถึงเด็กชายหมีน้อยคนนั้น  (ไปอ่านเอ็นทรี่เก่าๆได้ค่ะ) ความจริงเขากับแม่หมีมีภารกิจ   ทุกวันเสาร์เราจะไปดูหนังในโรงหนังกัน   หมีน้อยพาแม่ไปเพราะมันมีเหตุผล   คือแม่หมีเป็นโรคร้ายในระยะสุดท้ายคือกระจายไปแล้ว   แต่อย่าไปสนใจมันให้ปวดหัวว่ามันกระจายไปไหนบ้าง  หรือมันอาจถูกยับยั้งโดยยาของหมอก็ได้  ตอนนี้ก็ยังรักษาอยู่พบหมอตามนัด  แต่เป็นการรักษาเพื่อประคับประคองอาการ   ไม่ต้องให้เคมีบำบัดเพราะมันไม่มีประโยชน์   ไม่ไหวก็ไปหาหมอ  แต่ใช่ว่าหมอเขาจะทอดทิ้ง   แม่หมียังไปรับยาต้านฮอร์โมนส์และให้ยาเชื่อมกระดูก   เพราะกระดูกของแม่หมีไม่มีแคลเซี่ยมมันไปอยู่ในเลือด  เป็นแคลเซี่ยมในเลือดสูง  กินแคลเซี่ยมหรืออาหารเสริมก็อันตราย  จึงต้องให้ทางหลอดเลือดดำ   ไปให้มาหนหนึ่งนอนรพ.ไป 5 วันเพราะแพ้ยา  แต่มันดีที่สุดสำหรับแม่หมี   ครั้งหน้าก็ 29 เดือนนี้นี่ล่ะค่ะ   ถ้าหายไปนานก็แปลว่านอนรพ.  แต่ถ้าหายไปนานมากแปลว่าเพียบ   แต่ว่าถ้าหายไปเลยแปลว่าแม่หมีไปอยู่อีกกาแล็กซี่หนึ่งแล้วกันนะคะ  ไปแบบไม่ต้องร่ำลา  เอาเป็นเวลานี้ยังอยู่ก็มาเขียนเรื่อง  บางเรื่องอาจไม่เขียนเพราะปวด  ตอนนี้ก็ได้มอร์ฟีนช่วยอยู่   ฮั่นแน่!! ต้องมีคนบอกว่าทำไมไม่ลองกัญชา   ที่สถาบันมะเร็งก็มีค่ะ  เขารับคนไข้ที่อยากรักษาด้วยกัญชา   ก็ถามหมอเหมือนกัน  แต่หมอบอกแม่หมีไม่สามารถรักษาด้วยกัญชาได้  ไม่เป็นไรยังไงแม่หมีก็มีมอร์ฟีนเป็นเพื่อน  และการดูหนังมันทำให้แม่หมีมีความสุข  การกลับมาเขียนบล๊อกเพราะพี่หมีใหญ่บอกแม่จะได้มีสมาธิ   ลืมความเจ็บป่วยจนหลายคนถามว่าเป็นมะเร็งจริงหรือเปล่า   555 เวลาหมีร้องไห้ต้องร้องไห้ให้ใครเห็นด้วยล่ะคะ  (หมีอึด)

            เสาร์ที่แล้วไปดูคนเหล็ก ภาคที่ 6  Terminator: Dark Fate เห็นหนังตัวอย่างเรื่อง Midway  แม่หมีสะกิดหมีน้อยทันที "เรื่องนี้เสาร์หน้านะลูก"
                     หมีน้อยรีบกระซิบตอบ "ครับผม"  เมื่อมาถึงบ้านแม่หมีก็ถามหมีน้อยเรื่องหนังเรื่อง Midway  อเมริกาถล่มญี่ปุ่น  5555  เราขัดใจกับชื่อหนังมากโดยเฉพาะหมีน้อย
                     เขาบอกว่า  "แม่ครับ Midway อเมริกาถล่มญี่ปุ่น หมีน้อยว่าชื่อมันง่ายไปหน่อยนะ" (คนคิดชื่อเรื่องอย่าเสียใจนะคะ  นี่คือความคิดของบุคคลออทิสติก)
                     แม่หมีถาม  " แล้วลูกอยากตั้งชื่อว่าอะไรครับ"
                     หมีน้อยตอบ " ยุทธการพลิกชะตาอเมริกา   น่าจะดีกว่านะครับ "
                     แม่หมีถามต่อ  "ทำไมต้องชื่อนี้ล่ะครับ"  เวลาคุยกับหมีน้อยเราต้องยิงคำพูดตลอดค่ะ   แต่ต้องระวังถ้าคุณมีเวลาไม่มากพอ เพราะถ้าเรื่องที่เขาตอบมันคือเรื่องที่เขาสนใจ   เขาจะอธิบายเยอะ  เล่าแยะ  จนคุณไม่สามารถลุกไปไหนได้เลย  จนกว่าเขาจะพูดจบเรื่อง  และเป็นดังคาดพูดเยอะ!!   ในสมัยเขาอายุประมาณ 6 ขวบ  เขาจะมีพี่หมีใหญ่ และลูกพี่ชายของพี่แม่หมีอีก 4 คน   เด็กพวกนี้เล่นด้วยกัน  สนใจเรื่องแบบเดียวกัน  มีช่วงหนึ่งพวกเขาสนใจเรื่องสงครามโลกครั้งที่ 2   พวกพี่ๆก็จะผลัดกันอ่านหนังสือเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2  ทั้งเรื่องราวประวัติศาสตร์ ,การรบ , เครื่องบินรบ,เรือรบ,อาวุธ,ประเทศใดบ้างที่เข้าร่วมในสงครามโลกครั้งที่ 2   การอ่านหนังสือแต่ละเล่มเขาจะมุงกัน  คนอ่านก็จะอ่านออกเสียง  แล้วถ้ามีรูปเขาก็จะดูด้วยกัน  หมีน้อยก็มักจะตามพี่ๆเขาไปด้วย   คือแม่หมีสั่งพี่หมีใหญ่ว่าไปเล่นอะไร  ไปบ้านไหน ให้เอาหมีน้อยตามไปด้วย  และนี่เองที่ทำให้พัฒนาการของหมีน้อยดีขึ้น   ใครสนใจอะไรเขาก็จะฟังและที่สำคัญหมีน้อยไม่พูดแต่จำ   เขาจึงฟังแล้วเก็บไว้ในลิ้นชักความจำที่เราสงสัยมากว่า  เขาจำได้อย่างเป็นระบบระเบียบได้อย่างไร

             ช่วงนั้นมีหนังเรื่อง  Pearl Harbor (2001/ พ.ศ 2544) เพิร์ล ฮาร์เบอร์ เข้าฉายในโรงหนัง   ตอนนั้นหมีน้อยอายุประมาณ 7 ขวบ  แม่หมีพาเขาเข้าโรงหนังตั้งแต่เด็กๆ  โดยเขาต้องนั่งเก้าอี้ตรงกลางระหว่างแม่หมีกับพี่หมีใหญ่   เพื่อไม่ให้เขาป่วนคนนั่งใกล้ๆ    แต่ก็มีบางครั้งที่ป่วนบ้างแม่หมีก็ต้องรีบขอโทษคนข้างๆ   ไม่ได้ป่วนเพราะซนแต่ป่วนตรงอยากเล่าเรื่องที่เขาดูแล้วเขามีพื้นฐานของเรื่องนั้น  เช่น เรื่องแฮรรี พอตเตอร์ ก็เคยป่วน เพราะเด็กคนที่นั่งใกล้ๆเขาพูดว่า "คนที่คุณก็รู้ว่าใครคืออะไรคะพ่อ"  เธอถามพ่อของเธอ   แต่หมีน้อยยื่นหน้าข้ามพี่หมีใหญ่ไปตอบแทนพ่อเด็กคนนั้นว่า " ก็ลอร์ดโวลเดอมอร์ ( Lord Voldemort ) ไง "   แม่หมีรีบตะครุบปากหมีน้อยเลยค่ะ   เขาพูดเสียงไม่ดังมากแต่ก็รบกวนผู้อื่นอยู่ดี

             พอเราเข้าไปดูหนัง Pearl Harbor แล้วก็นั่งตามเคย   คือแม่กับพี่นั่งประกบทั้งสองข้าง  หมีน้อยก็สงบเสงี่ยมดีเพราะเราฝึกมาตั้งแต่เล็กๆว่า  เวลาอยู่ในโรงหนังเราต้องทำตัวอย่างไร   แต่พอฉากที่มีเครื่องบินรบออกมาเท่านั้นแหล่ะค่ะ   เจ้าหมีน้อยก็พรั่งพรูชื่อเครื่องบิน ชื่อรุ่น ออกมา  แล้วมันเยอะมาก  ห้ามก็ไม่หยุดเลยบอกให้พูดเบาๆ  คนข้างๆเขาก็อมยิ้มเมื่อแม่หมีบอกเขาว่า  " ขอโทษนะคะ"  เขาบอก "ลูกคุณเก่งจัง" ประชดหรือเปล่าไม่รู้แต่แม่หมีอายค่ะ  ลูกชั้นเอาอีกแล้ว   พอออกมาจากโรงหนังก็ดุหมีน้อยนิดหน่อยว่าลูกลืมแล้วหรือว่ากฏของการดูหนังคืออย่างไร   เขาก็รู้สึกผิดค่ะเขาขอโทษบอก  "หมีน้อยลืมตัว"  พอจัดการกับหมีน้อยเสร็จก็ถามพี่หมีใหญ่ว่า "น้องพูดถูกมั๊ย "   พี่หมีใหญ่บอก  "น้องพูดถูกทุกลำเลยครับ   บางลำที่รุ่นเดียวกันน้องก็พูดพูดซ้ำๆ  แต่พูดถูกทั้งของอเมริกาและญี่ปุ่น"                                 

             ย้อนกลับมาที่แม่หมีถามเขาว่า  "ทำไมต้องชื่อยุทธการพลิกชะตาอเมริกา"   เขาตอบว่า  เรื่อง Midway เป็นเหตุการณ์หลัง Pearl Harbor ที่อเมริกาโดนญี่ปุ่นถล่มเสียเละ  แล้วอเมริกาเริ่มระวังตัวมากขึ้นและพยายามหาข่าวกรองว่า ญี่ปุ่นจะทำอย่างไร และอเมริกาก็อยากจะตอบโต้ญี่ปุ่น   ก่อนหน้าที่จะไปถึง Midway มันมีการสู้กันระหว่างญี่ปุ่นและอเมริกาที่ทะเลคอรัล  โดยญี่ปุ่นเริ่มก่อน  ถึงแม้ว่าญี่ปุ่นจะชนะแต่เรือโชคาคุ ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินเสียหาย  ญี่ปุ่นก็ต้องยกกองเรือกลับไปซ่อม   ญี่ปุ่นก็สู้ต่อโดยคราวนี้ไปบุกที่เกาะ Midway  ซึ่งเป็นเขตแดนของอเมริกา  ซี่งถ้าผ่านตรงนี้ได้ญี่ปุ่นก็จะบุกเข้ารบได้ในหลายรัฐจะทำให้ญี่ปุ่นอาจชนะ    ซึ่งยุทธนาวีนี้ญี่ปุ่นเหลือเรือบรรทุกเครื่องบินรบอยู่ 4 ลำ คือ  อาคากิ , คากะ  ,โซริว , ฮิริว  นอกนั้นเป็นเรือพิฆาตต่างๆอีกหลายลำ   และยังมีเรือที่มีบทบาทสำคัญคือ เรือมากิกุโมะ  คือเป็นเรือที่ทำหน้ายิงเรือฮิริว (ของญี่ปุ่นเอง) ซึ่งมีผู้บัญชาการกองทัพอยู่บนเรือนี้  และเมื่อพ่ายแพ้ต่ออเมริกาในสมรภูมิMidway  เขาเลยสั่งเรือมากิกุโมะ  คือทำหน้าที่ยิงเรือฮิริว(เหมือนจะเป็นการรักษาเกียรติของผู้บังคับบัญชาที่ไม่สามารถเอาชนะอเมริกาได้และเรือฮิริวก็เสียหายมาก )  เป็นการพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ของญี่ปุ่น ที่ทำให้เสียกำลังหลักของญี่ปุ่น

             สำหรับฝ่ายอเมริกาก็มีเรือเอ็นเตอร์ไพรซ์ ,เรือฮอเน็ท และเรือยอร์คทาวน์  เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินที่สำคัญในเหตุการณ์นี้  ยังมีเรือแฮมแมนซึ่งเป็นเรือพิฆาตลำหนึ่งในกองเรือของอเมริกา   ในการทำยุทธนาวีที่Midway   และมีเรือดำน้ำนอติลุสด้วย

             หนังเรื่องนี้สอนอะไรแม่หมีหลายๆอย่างเลยค่ะ   ถึงแม้ตอนนี้เราจะไม่มีสงคราม  แต่เราควรจะเตรียมพร้อมทั้งกองทัพเรือ  กองทัพบกและกองทัพอากาศ   หากถ้าเรามีทุกอย่างพร้อม   หากเรามีกองทัพที่มีแสนยานุภาพก็จะเป็นที่น่าเกรงขามและน่าเกรงใจ  เรามีของดีแต่เราไม่ได้ทำตัวเหมือนบางประเทศที่พร้อมจะจุดชนวนสงคราม   แต่เราควรมีเพื่อป้องกันประเทศ   ในหนังเราจะเห็นนักบินฝึกบินตลอดเวลา  ฝึกบินผาดโผน   แล้วการฝึกเราจะเห็นปัญหาและสามารถแก้ไขปัญหานั้นได้อย่างดี   และเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น   ทหารทุกคนก็พร้อมที่จะต่อสู้เพื่อปกป้องอธิปไตย  ปกป้องคนในประเทศ  ปกป้องครอบครัวของเขาด้วยชีวิต   ทหารทุกคนรักครอบครัว  มีตอนหนึ่งที่ผู้บัญชาการพูดกับทหารคนหนึ่งว่า  "ไปพักเถอะ  คุณทำงานหนักมากแล้ว "   ทหารคนนั้นตอบว่า  "ไม่เป็นไรครับ  ภรรยาผมเข้าใจงานของผม  เมื่อสงครามจบผมจะชดเชยเวลาให้เธอ "  แม่หมีฟังแล้วสะท้อนใจ  ชดเชยแบบไหน  แบบมีชีวิต , ไม่มีชีวิต หรือพิการ

               แม่หมีเห็นวิธีคิดของทหาร  ทั้งผู้ที่มีความกล้าแบบสุดๆ   และผู้ที่ก็มีความกลัวแต่ก็ยอมเสียสละ  ตัดความกลัวออกไปเพื่อทำหน้าที่   ได้เห็นวิธีคิดของฝ่ายข่าวกรองที่นำเอาทหารดุริยางค์มาทำหน้าที่ในหน่วยข่าวกรอง   ซึ่งในหน่วยนี้ต้องใช้คนเยอะมาก   เพื่อดักฟังสัญญาณทุกอย่างเพราะหัวหน้าหน่วยข่าวกรองเห็นว่า   หูของทหารวงดุริยางค์มีความพิเศษกว่าคนปกติ  สามารถรับรู้ข่าวสารหรือสัญญาณที่ผิดปกติ   แล้วเอาข้อมูลมาให้หัวหน้าเพื่อวิเคราะห์   ยุทธนาวีMidway  อเมริกาจะชนะในยุทธภูมินี้ไม่ได้เลยถ้าไม่มีหน่วยข่าวกรองนี้

              และการเขียนบทความนี้แม่หมีต้องยกเครดิตให้เจ้าหมีน้อยที่รื้อฟื้นความจำในอดีต  และสามารถมาบอกชื่อเรือต่างๆให้แม่หมี   ช่างเป็นคู่หูและตัวช่วยในการดูหนังทุกเรื่อง  ทุกครั้งที่หนังจบเมื่อกลับถึงบ้านหรือแวะกินอะไร(ส่วนใหญ่เขาจะไม่ค่อยพูดถ้าอยู่นอกบ้าน   เขากลัวคนจะได้ยินแล้วว่า เขาไม่อยากสปอยล์หนัง) แต่ถ้าอยู่ที่บ้าน เขาก็จะเต็มที่   แต่ถ้าพี่หมีใหญ่ยังไม่ดูเขาก็ไม่พูดเช่นกัน  แล้วคราวนี้เขาก็กระซิบชื่อเรือให้แม่หมีฟัง หรือบางทีเขาจะออกความเห็น  แต่เผอิญไปดูหนังรอบเช้า  แล้วหนังชั้นบนสุดไกลผู้คนก็เลยปล่อยให้เขากระซิบ  เขาก็ระวังตัวอยู่เหมือนกันที่จะไม่เสียงดัง   แต่ถ้าชักเยอะแม่หมีก็จะบอกเดี๋ยวไปคุยกันที่บ้าน   ขอบคุณครับลูกสำหรับคำอธิบาย

               คราวหน้าถ้ายังเขียนก็แปลว่า  แม่หมียังโอเค  แต่ถ้าหายไปก็ตามนั้นค่ะ  อ้อ! ดูหนังจบแม่หมีคิดชื่อเรื่องหนังได้ค่ะ   " ยุทธนาวีที่Midway "
                                                   

                           บันทึกโดย
                                  แม่หมี  คราวนี้ไม่มีในวงเล็บค่ะ 5555

            ขอบคุณภาพจาก

             http://sahamongkolfilm.com/saha-news/midway-poster-thai/    

             และ ขอบคุณเหล่าทหารหาญทุกคนที่ทำหน้าที่เต็มกำลังและเต็มใจ  ขอบคุณครอบครัวทหารหาญทุกท่านด้วยค่ะ