ทำไมคนไทยชอบไปเรียนต่อปริญญาตรีที่ประเทศอังกฤษ (UK)จริงๆ แล้วมหาวิทยาลัยในประเทศไทยเองก็มีหลักสูตรปริญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอกให้เลือกเรียนมากมายหลายคณะ ส่วนตัวมหาวิทยาลัยเองก็มีให้เลือกเรียนได้ในหลากหลายราคาและรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐบาลที่ค่าเทอมถูกมากๆ หรือมหาวิทยาลัยของรัฐที่เพิ่งจะออกนอกระบบไป แต่ยังคงได้รับเงินสนับสนุนบางส่วนจากรัฐบาลอยู่ ตลอดจนมหาวิทยาลัยเอกชน ที่เปิดทำการเรียนการสอนในหลากหลายสาขามากพอๆ กับมหาวิทยาลัยของรัฐบาลเลยด้วยซ้ำ แต่คุณเคยตั้งคำถามรึเปล่า ว่าทำไมมหาวิทยาลัยของไทยก็มีให้เรียนอย่างพร้อมสรรพขนาดนั้ร แต่ก็ยังมีหลายครอบครัว ที่เลือกจะส่งบุตรหลานไปเรียนต่อปริญญาตรีที่อังกฤษกันอยู่ดี เรื่องนี้มันมีเหตุผลอยู่ที่ว่า หากน้องๆ ไปเรียนต่อปริญญาตรีที่ประเทศอังกฤษ (UK) แล้ว น้องๆ จากไม่ได้แค่ความรู้ทางวิชาการเท่านั้น แต่น้องๆ ต้องปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ รวมไปถึงจะได้ทักษะในการสื่อสารภาษาอังกฤษติดตัวกลับมาเพิ่มเติม ต่างจากคนที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยในประเทศนั่นเอง หลักสูตรปริญญาตรีอังกฤษหลักสูตรปริญญาตรีอังกฤษนั้นจะเน้นให้ผู้เรียนรู้จักการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ และสร้างองค์ความรู้ใหม่เป็นของตัวเอง โดยนักเรียนนักศึกษาหลักสูตรปริญญาตรีอังกฤษนั้น จะต้องทำการบ้านในรูปแบบของงานโปรเจค ตลอดจนต้องไปอ่านหนังสือหาความรู้เพิ่มเติมนอกเหนือจากในห้องเรียนหนักหน่วงกว่าในประเทศไทย แต่เรื่องระยะเวลาในการเรียนหลักสูตรปริญญาตรีอังกฤษตลอดทั้งหลักสูตรนั้น มีความใกล้เคียงกับการเรียนหลักสูตรปริญญาตรีในประเทศไทยได้ ดังรายการต่อไปนี้ ปริญญาตรีอังกฤษ หลักสูตร 3 ปีโดยปกติแล้ว การเรียนปริญญาตรีอังกฤษ หลักสูตร 3 ปี นั้นสามารถพบได้มากที่สุด แต่หากน้องๆ เรียนจบชั้นมัธยมปลายมาจากประเทศไทยแล้ว น้องๆ ต้องใช้เวลาอีก 1-2 ปี ในการเรียน Year 13 หรือเข้าวิทยาลัยพิเศษเพื่อเตรียมความพร้อมในการสอบ A Level ตามรายวิชาที่คณะของมหาวิทยาลัยที่น้องๆ จะเรียนกำหนดให้ผ่านเสียก่อน น้องๆ ถึงจะสามารถเข้าไปเป็นน้องเฟรชชี่ปี 1 ได้ แต่ถ้าคะแนน A Level ผ่านแบบคาบเส้นพอดี แบบนี้น้องๆ อาจต้องลงเรียนคอร์สปรับพื้นฐานอีก 3-6 เดือนก่อนเริ่มเปิดเทอม ปริญญาตรีอังกฤษ หลักสูตร 4 ปีอย่างไรก็ตาม หากน้องๆ เลือกเรียนในสาขาที่ต้องเข้าห้องปฏิบัติการค่อนข้างบ่อย และมีเนื้อหาที่ต้องเรียนที่เข้มข้น อย่างเช่น เลือกเรียนด้านวิทยาศาสตร์หรือวิศวกรรมศาสตร์ ในกรณีนี้ เวลาเรียนจะต้องขยับออกไปอีก 1 ปี เพื่อให้บัณฑิตมีความรู้ทางทฤษฎีที่เข้มข้น ควบคู่ไปกับการใช้เวลาทำการทดลองและวิจัยในห้องแลปได้อย่างเต็มที่ จึงทำให้ต้องเรียนปริญญาตรีอังกฤษ หลักสูตร 4 ปี ไม่ใช่ 3 ปีเหมือนพวกสาขาวิชาทางด้านศิลปะศาสตร์หรือการบริหารจัดการ หลักสูตร Fast Trackหลักสูตร Fast Track เป็นการเรียนปริญญาตรีควบกับปริญญาโท ซึ่งปกติต้องใช้เวลาในการเรียนอย่างน้อย 6 ปี แต่หลักสูตร Fast Track สามารถลดเวลาการเรียนลงได้ 1 ปี โดยการให้เรียนล่วงหน้าแบบ Pre Degree มาตั้งแต่ตอนอยู่มัธยมปลายแล้วเทียบโอนหน่วยกิตสะสม คล้ายๆ กับในไทยที่มีเด็กม.ปลายบางคนเรียนล่วงหน้าของมหาวิทยารามคำแหงและมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชตั้งแต่ยังไม่จบม.6 เลย หลักสูตรการฝึกงานระหว่างเรียนหรือ sandwich courseหลักสูตรการฝึกงานระหว่างเรียนหรือ sandwich course เป็นการเรียนไปด้วยฝึกงานไปด้วย ส่วนใหญ่จะเป็นงานในสาขางานบริการ เช่น พวกการโรงแรมและการท่องเที่ยว โดยทางมหาวิทยาลัยจะจัดหาที่ฝึกงานเอาไว้ให้เลย หลักสูตรปริญญาตรีระยะสั้น Certificate of Higher Education (CertHE)สำหรับหลักสูตรปริญญาตรีระยะสั้น Certificate of Higher Education (CertHE) นั้นน่าสนใจมากๆ เพราะเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยจริงๆ จังๆ แค่ 1 ปีเท่านั้น ส่วนอีก 2 ปีเราจะเข้าแค่บางคาบเท่านั้น ทำให้น้องๆ มีเวลาไปทำกิจกรรมอื่นๆ นอกเหนือจากการเรียนในช่วง 2 ปีสุดท้ายก่อนจบ เหมาะกับคนไม่ชอบเข้าแคมปัสบ่อยๆ หลักสูตรปริญญาตรีระยะสั้น Diploma of Higher Education (DipHE)ปิดท้ายด้วยหลักสูตรปริญญาตรีระยะสั้น Diploma of Higher Education (DipHE) ที่โดนใจคนต้องรีบใช้ปริญญามากที่สุด เพราะเข้าเรียนแค่ 2 ปีก็จบได้แล้ว แต่ว่าถ้าเลือกเรียนหลักสูตรปริญญาตรีระยะสั้น Diploma of Higher Education (DipHE) ก็จะเป็นอารมณ์เหมือน ปวช ปวส อะไรแบบนี้ ที่ไม่สามารถเรียนต่อป โทได้ทันที ต้องไปเรียนวิชาเอกคณะเพิ่มอีก 1 ปีก่อน ถึงจะเรียนต่อโทได้
โดยก่อนที่จะไปเรียนต่อปริญญาตรีอังกฤษนั้น น้องๆ ต้องเตรียมเอกสารในการสมัครเรียน
แนะนำ เรียนต่อปริญญาตรีอังกฤษ มหาลัยไหนดีมหาวิทยาลัยสำหรับเรียนต่อปริญญาตรีอังกฤษนั้นมีเยอะมาก แต่ละที่ก็มีคุณภาพเป็นเยี่ยมด้วยกันทั้งนั้น แต่ถ้าจะให้แนะนำมหาวิทยาลัยในฝันที่ใครๆ ก็อยากไปเรียนให้ได้ ก็ต้องยกตำแหน่ง Rank1 ของประเทศอังกฤษให้กับมหาวิทยาลัย Oxford ที่เต็มไปด้วยนักการศึกษาชั้นสูงของโลก แถมตัวอาคารเรียนก็ตกแต่งอย่างอลังการราวกับปราสาทโบราณที่หลุดออกมาจากเทพนิยายเลยทีเดียว ซึ่งคนดังของไทยอย่างคุณท๊อป จิรายุส ผู้ก่อตั้ง BitKub ก็เรียนจบมาจากที่ Oxford นี่แหละ สรุปหากน้องๆ คิดว่าการเรียนต่อปริญญาตรีอังกฤษนี่แหละถูกใจใช่เลย ลองศึกษาเพิ่มเติมดูสิ่งที่เหมาะกับเราได้ เชื่อว่าถ้าได้ลองไปจะติดใจ กับประสบการณ์ ความรู้ ภาษา เพื่อน สังคมใหม่ๆ ที่ได้มาจากการไปเรียนปริญญาตรีที่อังกฤษอย่างแน่นอน
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | เมษายน 2022 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | |||||
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |