......ดิฉันเกริ่นไว้ในเอ็นทรีก่อนๆว่าจะมาเล่าเรื่องแท็กซี่สุวรรณภูมิ  พอดีกับว่าวันนี้อยู่บ้านเปิดทีวีดู  เห็นข่าวท่านนายกฯที่สุวรรณภูมิ  เห็นท่านถามโน่นนี่  เลยเอาเรื่องแท็กซี่สุวรรณภูมิมาเขียนเสียวันนี้เลย  

......ดูข่าวในทีวีมาหลายรายการ  เห็นเค้าพูดกันว่าจะจัดระบบระเบียบสนามบินสุวรรณภูมิ  ดิฉันก็ไม่ทราบนะคะว่าคำว่าระบบระเบียบตามที่ข่าวกล่าวมานั้นจะเป็นอย่างไร  ก็เห็นจัดกันมานานมากแล้ว  ตั้งแต่ดอนเมืองไล่ไปจนสุวรรณภูมิ  นี่ก็หลายปีดีดักเต็มทนไม่เสร็จกันสักที  เดี๋ยวเรื่องนี้โผล่เรื่องโน้นโผล่

......กลับมาเรื่องแท็กซี่  เวลาเดินทางเบื่อที่สุดก็ตอนต้องนั่งแท็กซี่กลับบ้านนี่แหละค่ะ  ซึ่งปกติแล้วส่วนใหญ่จะมีคนมารับค่ะ  มีส่วนน้อยที่จะต้องนั่งแท็กซี่กลับเอง  แต่ส่วนน้อยนี่แหละค่ะที่สร้างความเบื่อหน่ายให้แก่ดิฉันเป็นอย่างมาก

......ล่าสุดที่สุวรรณภูมิ  ด้วยความที่ไม่ค่อยได้ขึ้นแท็กซี่  ก็เงอะๆงะๆไม่รู้ว่าจะขึ้นตรงไหน  เห็นข้างในเค้ามีเคาท์เตอร์แท๊กซี่  ไม่เคยใช้บริการ  ก็ไม่กล้าค่ะกลัวแพง  เดินออกไปข้างนอก  ไปถึงข้างนอกมีแท๊กซี่จอดอยู่  มีผู้ชายแต่งเครื่องแบบติดป้ายชื่อเรียบร้อย  ถามว่าต้องการแท๊กซี่ใช่มั๊ย  คิดว่าเป็นแท็กซี่แอร์พอร์ต  บอกว่าใช่และบอกจุดหมายไป  เธอบอกห้าร้อยครับรวมค่าทางด่วนด้วย  เดี๋ยวผมเรียกรถมาให้  ตกลงว่าไป  รถมาขึ้นไปนั่ง  ผู้ชายคนนั้นขอเก็บเงินก่อนรถออก  งงค่ะ!  ถามไปว่าทำไมต้องเก็บเงินก่อน  อย่างไรก็ตามจ่ายก็จ่าย

......รถขับไปถึงด่านทางด่วน  คนขับทำท่าจะไม่เข้าด่านค่ะ  เบนหัวออก  ดิฉันถามออกไปไหน  ดิฉันต้องการไปทางด่วน  เธอบอกไม่ขึ้น  ดิฉันบอกจ่ายเงินค่ารถมาแล้วรวมค่าขึ้นทางด่วนทุกจุดด้วย  เธอบอกว่าคนที่รับเงินไม่ได้สั่งให้ขึ้น  ดังนั้นก็จะไม่ขึ้น  ดิฉันบอกต้องขึ้นและยืนยันว่าจ่ายเงินมารวมค่าทางด่วนเรียบร้อยแล้ว  ตามเคยค่ะ  ดิฉันไม่ยอมและเสียงแข็งชัดเจนว่าไม่ขึ้นไม่ได้   ก็บ้านดิฉันไกลจะตาย  ไม่ขึ้นทางด่วนจากสุวรรณภูมิอีกสามชั่วโมงดิฉันจะถึงบ้านหรือเปล่ายังไม่รู้เลย 

......ในขณะเดียวกันกับที่กำลังต่อรองกันอยู่นั้น  ดิฉันก็ทำทีพูดโทรศัพท์ค่ะ (จริงๆแล้วพูดเองเออเองค่ะ)  ทำทีเหมือนพูดกับคนที่บ้านแล้วก็เอ่ยถึงผู้กำกับคนโน้นนายเวรคนนี้ไปด้วย  ได้ผลค่ะ  ท่าทีของคนขับแท็กซี่อ่อนลงแล้วก็บอกว่าปกติไม่มีการขึ้นทางด่วนนอกเสียจากผู้โดยสารจะต้องจ่ายเพิ่มให้  แต่ในกรณีของดิฉันเธอบอกว่า  เอาเถอะคราวนี้ยอมขึ้นทางด่วนให้ก็ได้!

......ในที่สุดก็ถึงบ้านอย่างปลอดภัยค่ะ  ตัวสบายดี  แต่รำคาญใจมากค่ะที่จะต้องมาเสียเวลาต่อรองสนทนากับเรื่องที่ไม่ควรจะต้องมาเสียเวลาพูดคุยกันให้หงุดหงิดหัวใจอย่างนี้  ดิฉันว่านี่เป็นผลมาจากความไร้ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการของสนามบินสุวรรณภูมินะคะ  ที่ปล่อยให้มีมาเฟียแท็กซี่ครองสนามบินอย่างนี้ 

......ไม่มีใครอยากเกิดมาเป็นคนไม่ดีหรอกค่ะ  แต่ว่าหลักธรรมในการอยู่ร่วมกันมันขาดหายไปค่ะ  หรือว่าเราปล่อยให้ผู้คนในบ้านเมืองเราประพฤติตนขาดวินัยไร้จรรยาบรรณและระบบระเบียบอีกทั้งเอาเปรียบกันเสียจนดูเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วก็ไม่ทราบนะคะ  ไปละค่ะเดี๋ยวจะยิ่งเขียนยิ่งลึกค่ะ  สวัสดีค่ะ......

............................................................................

ปล.พอดีเห็นเรื่องของ Dr.Kaew "ไม่มีใคร อยากเกิดมาเป็นโจร" ตรงประเด็นในย่อหน้าสุดท้ายเลยนะคะ  http://www.oknation.net/blog/learning/2009/08/16/entry-1