สวัสดีวันสงกรานต์ หวังว่าคุณผู้อ่านคงมีความสุขกับวันพักผ่อนในแบบที่หยุดยาว (จริง ๆ) ให้เราได้สามารถใช้เวลาอยู่กับครอบครัว ซึ่งเป็นเวลาที่การทำงานอันเร่งรีบแย่งจากเราไปอย่างไม่ค่อยรู้เนื้อรู้ตัว ทั้งที่การตั้งใจทำงานที่สุจริตเพื่ออดออมเป็นสิ่งที่ดี แต่บ่อยครั้งที่เราทำงานเผลอจนลืมแตะเบรคจนลามไปทำลายสมดุลของชีวิตกันไม่มากก็น้อย

Ministry of Learning ฉบับนี้อยากชวนคุณผู้อ่านมาใช้ช่วงเวลาในวันหยุดแบบนี้ ได้หยุดและคิดเพื่อปรับตัวปรับใจให้การเปิดงานหลังเทศกาลที่แสนสุขนี้ราบรื่นและร่มเย็นกันอย่างยั่งยืน

ก่อนอื่นเลยสิ่งที่คุณผู้อ่านต้องหาให้กับตัวเองให้ได้ก่อนคือ “เวลา” ที่สามารถอยู่คนเดียวได้ในแต่ละวัน โดย John Maxwell แนะนำไว้ในหนังสือของเขาอย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมง เพื่อให้มีเวลาได้ที่ลองเทคนิค 5 ข้อของ Belle Beth Cooper จากบทความที่มีชื่อว่า 5 Incredibly Effective Ways to Work Smarter, Not Harder เขียนโดย Jeff Haden ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

1. ทำ To-do List ผมเคยทำแล้ว ยาวมาก แต่วิธีที่ถูกต้องคือการเลือกงานที่สำคัญที่สุด หรือ MIT (Most Important Thing) แค่ 1 – 3 งาน และทำมันก่อนที่จะไปทำงานอื่น ๆ วิธีการเลือก MIT ง่าย ๆ คือเป็นงานหลักหรืองานที่เราต้องส่งต่อไปให้กับทีม โดยงานที่เหลือใน List จะถือเป็นของแถมเท่านั้น เทคนิคเสริมมีอยู่ว่าหากคุณผู้อ่านเป็นคนนอนไม่หลับเพราะชอบกังวลเรื่องงาน ให้ลองทำ To-do List เพื่อเลือก MIT ก่อนนอนเพื่อให้ตื่นมาเช้าก็จะพร้อมลงมือได้เลย แล้วไปนอนให้สบายซะ อันนี้แล้วแต่ Life Style ที่สะดวก ที่สำคัญคือ MIT นั้นจะต้องเป็นงานที่สำเร็จได้ภายในวันเดียวเท่านั้น งานไหนยาวก็แบ่งงานออกมาและทำให้สำเร็จ เท่านี้จริง ๆ
2. วัด “ผลลัพธ์” ไม่ใช่ “เวลาทำงาน” สิ่งที่เป็นหลุมพรางของคนชอบทำงานหนักคือ “เวลาไม่พอ” แต่สิ่งที่อยากแนะนำให้คิดใหม่คือเอาผลลัพธ์ที่ต้องการเป็นตัวตั้ง จากนั้นหาวิธีอะไรก็ได้ที่มีประสิทธิภาพมาจัดการให้งานเสร็จตามเวลาที่มีอยู่จะดีกว่า หลายคนงมหรือบรรจงกับองค์ประกอบของงานที่ไม่บังเกิดคุณค่าใด ๆ สำหรับงานบางอย่างเป็นโครงการมีเนื้อหาและรายละเอียดมาก เราก็ต้องแบ่งชิ้นงานเพื่อให้เห็นความสำเร็จเป็นช่วง ๆ ให้ได้ หากไหวก็ Note งานที่ทำเสร็จแล้วไว้ใน Done List ก็จะเป็นบันทึกว่าเราทำงานนี้เสร็จแล้วเมื่อไหร่วันไหน เผื่อว่าต้องอ้างอิงจะได้ไม่เสียเวลามานั่งปวดหัวอีก
3. ลงมือสักที วางแผนดีอย่างไรถ้าไม่ขยับอะไรก็เหมือนเดิมนะ นิสัยผลัดวันประกันพรุ่งมีกันหมดไม่ว่าจะชาติไหน ๆ ยิ่งสมัยนี้มีอะไรมาดึงความสนใจเราออกไปจากงานได้ตลอดเวลา เทคนิคคือการหาวิธีที่จะบอกตัวเองให้ “เริ่มงาน” ให้ได้ เช่น สวดมนต์ นั่งสมาธิ ดิ่มกาแฟ นั่งทำ To-do List แล้วปิดอะไร ๆ ที่จะมารบกวนเราให้หมด ปิดเสียงโทรศัพท์ ปิด Facebook ปิด Line แล้วเริ่มทำงานใน MIT ให้เสร็จ ทำบ่อย ๆ ก็จะเป็นการสร้างนิสัยในทางบวก และ ถ้ายิ่งพบว่าชีวิตง่ายขึ้นเยอะก็จะกระตุ้นตัวเองให้ลงมือทำงานได้สะดวกใจขึ้น
4. ค้นหาเวลาที่หายไป หลายทีเราทำเวลาหายโดยที่เราไม่รู้ตัว อันนี้ต้องค่อย ๆ หาเพราะคล้ายกับ Blind Spot ที่เราไม่รู้ตัวจริง ๆ (อ่านใน Ministry of Learning รู้เขารู้เรา ไม่ต้องรบก็ชนะ) ยกตัวอย่างเช่น เราเป็นคนเลือกเสื้อผ้านาน เราเป็นคนชอบจัดกระเป๋าตอนเช้า หรือแม้แต่เราเป็นคนชอบตื่นแล้วนอนแช่บนเตียง พฤติกรรมเหล่านี้จะทำให้เราออกจากบ้านสาย เจอรถติด อารมณ์เสีย รวม ๆ แล้วเสียเวลาและพลังงานไปโดยใช่เหตุ หาสิ่งที่ทำให้เวลาหายไปให้เจอ ถ้าเปลี่ยนนิสัยเหล่านี้ได้แค่นิดเดียวก็จะมีเวลาเหลือมาให้เราใช้ได้เยอะเลย
5. สร้างนิสัยในการ “หยุด” ทำงาน อันนี้อาจจะดูแปลกแต่ก็ต้องฝึกว่าให้ทำอย่างไรไม่ให้งานเราลากยาวไปถึงตอนค่ำหรือต้องแบกงานกลับไปทำที่บ้านให้ได้ เทคนิคนี้จะต้องผนวกเทคนิคที่ 1 และ 2 เข้าด้วยกัน คือ ทำ MIT ให้เสร็จอย่างมีประสิทธิภาพแล้วหัด “พอ” ให้เป็น เทคนิคที่ดีคือการหาเวลาออกกำลังกาย เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ โยคะ ขี่จักรยาน อะไรก็ได้สัก 1 ชั่วโมงก่อนทานข้าวเย็น เพื่อช่วยปรับคลื่นสมองให้เราผ่อนคลาย ลืมงานที่ทำ และ หลับสนิท เพื่อให้เราตื่นมาวันใหม่กับ MIT ที่ต้องชนะให้ได้ในวันรุ่งขึ้น

สั้น ๆ 5 ข้อแบบนี้ผมคิดว่าคงไม่ยากเกินไปนะ สิ่งที่สำคัญคือการสร้างนิสัยที่ดีในการทำงาน ผมเองเคยลองสิ่งที่คล้าย ๆ กันเหล่านี้มาจากตำราของ John Maxwell ความสนุกก็คือศิลปะค้นหาจุดลงตัวระหว่างสิ่งที่ วางแผนไว้แล้วกับสิ่งที่โผล่เข้ามาใหม่ แต่อย่างน้อยการคิดและวางแผนก็ช่วยให้คุณผู้อ่านทราบว่าตัวเองต้องอะไรบ้าง แล้วจึงค่อย ๆ หาเทคนิคเฉพาะตัวมารับมือกับงานตามความเหมาะสมของแต่ละคนกันไป

เอาล่ะสำหรับ Ministry of Learning ฉบับนี้สมควรแก่เวลาแล้ว ขอให้มีความสุขในการใช้ชีวิตและทำงานไปพร้อม ๆ กัน แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดี

ที่มา

http://www.inc.com/jeff-haden/5-incredibly-effective-ways-to-work-smarter-not-harder.html?cid=sf01002

ผู้เขียน ดร.โชดก ปัญญาวรานันท์ CEO จาก JobNow Healthcare Network ผู้ซึ่งมีประสบการณ์ในการบริหารโครงการ (Project Management) บริหารจัดการระบบในองค์กร (Business Process) การอบรมและการพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ (Human Capacity Development)

JobNow Healthcare Network ให้บริการด้านการจัดหางานแบบออนไลน์ด้านธุรกิจ Healthcare โดยเฉพาะ โดยเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาโอกาสในการทำงานใหม่ หรือ น้อง ๆ ที่กำลังมองหางานสามารถฝาก profile ไว้กับเราได้ฟรีโดยไม่ค่าใช้จ่ายที่ www.jobnowhcn.com รวมถึงสามารถติดตามเราได้จากช่องทางต่าง ๆ ได้แก่

Facebook: https://www.facebook.com/jobnowhealthcarenetwork

IG: https://www.instagram.com/jobnowhealthcarenetwork

Twitter: https://twitter.com/JobnowNetwork