สวัสดีปีใหม่คุณผู้อ่าน สำหรับ Ministry of Learning ฉบับนี้ถือเป็นฉบับแรกของปีพุทธศักราช 2558 ซึ่งน่าจะมีอะไรใหม่ ๆ มาท้าทายให้คุณผู้อ่านได้ฟันฝ่าและเดินหน้าอย่างเข้มแข็งกันต่อไป ว่าไปแล้วข่าวในประเทศเราช่วงนี้ก็ดูจะมีกลิ่นการเมืองขึ้นมาเล็ก ๆ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผสมปนเปไปกับข่าวทางสังคมอื่น ๆ เล็กใหญ่ไปตามเรื่อง ล่าสุดที่น่าสนใจคือกรณีของนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น Post ข้อความตามข่าวเล่าเหตุการณ์แสดงความไม่พอใจกับการบริหารจัดการของสนามบินต่อระบบ Taxi จนต้องออกมา Post ข้อความขอโทษขอโพยกัน สิ่งที่น่าสนใจคือ ทำไมถึงปล่อยให้มีกรณีแบบนี้เกิดขึ้นได้ เข้าข่ายปลาเน่าตัวเดียวทำให้ เหม็นไปทั้งเข่งแท้ ๆ ทั้งที่ Taxi ดี ๆ ก็มีเยอะ คำถามคือวิธีการอะไรที่จะช่วยให้เรามองเห็นปัญหาตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อวางระบบที่สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพได้บ้าง ที่ยกรื่องนี้มาเล่าเพราะจะเชื่อมเข้ามาสู่ Ministry of Learning The Series ในตอนที่ว่ากันถึงเทคนิคในการใช้หมวกดำ ซึ่งจะต่อจากหมวกอื่น ๆ ตามลำดับที่เคยนำเสนอไปแล้ว โดยหมวกดำนั้น Edward de Bono ตั้งใจจะสื่อถึงมุมมองในด้านมืด หรือ ด้านลบ หรือความเป็นไปได้ในทางที่เลวร้ายที่สุดที่เราจะนึกออกจากข้อเท็จจริงที่เราได้จาก “หมวกขาว” (ไม่ใช่หมวกอื่น ๆ) ทั้งนี้โดยมากแล้วเราจะใช้หมวกดำตามจากการใช้หมวกเหลืองดังนั้นจำเป็นต้อง “ถอด” หมวกเหลืองออกไป และ เริ่ม List สิ่งที่จะนำไปสู่การคาดคะเนสถานการณ์ร้าย ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น (แนะนำให้ไปอ่านบทความย้อนหลังตาม Link) เท่าที่ผมสัมผัสมา คนส่วนใหญ่จะคิดว่าตัวเองชำนาญการใช้หมวกดำมากกว่าหมวกอื่น ๆ เพราะเหมือนจะง่ายที่เราตั้ง Dark Mode นำเอาไว้ เรียกว่าเรื่องคิดลบนี่น่าจะมีอะไรให้คิดสะดวกกว่าการคิดบวก เพราะมีประสบการณ์ชีวิตบางอย่างที่ทำให้เชื่อแบบนั้น แต่อย่าคิดว่าจะสะดวกโยธินและทำให้การใช้หมวกดำถูกต้องเสมอไป (ผมกำลังใช้หมวกดำบอกอยู่) เทคนิคที่ควรพิจารณาไว้ตอนใช้หมวกดำมีดังต่อไปนี้ เทคนิคที่ 1 ใช้ “อาจจะ” ให้ชิน คำว่า “อาจจะ” นี้เปิดโอกาสให้เราได้สมมติตัวเองว่าจะมีเหตุการณ์ร้าย ๆ ที่เป็นไปได้ได้สะดวกใจขึ้นโดยที่ไม่ต้องรอให้เหตุการณ์นั้น ๆ เกิดขึ้นมาจริง ต้องเข้าใจให้ถูกต้องว่าการใช้หมวกดำไม่ใช้การตั้งเป้าหมายในทางวินาศสันตะโร หรือ แช่งชักหักกระดูกใคร แต่เป็นการคิดเผื่อไว้ในกรณีที่อาจจะเกิด ดังนั้นสวมหมวกดำก็ใช้ mode ในการคิดว่า “อาจจะ” หรือ What If ให้ชินกันซะตั้งแต่เนิ่น ๆ เทคนิคที่ 2 อย่ากลัวเราจะเป็นคนไม่ดี หลายคนกลัวการคิดลบ กลัวว่าการเป็นคนคิดลบจะกลายเป็นคนเลว คนที่ไม่ประสบความสำเร็จ หรือ คนที่ไม่สามารถเป็นผู้นำได้ ซึ่งจริง ๆ ถ้าอ้างเทคนิคแรกที่กล่าวไปแล้วจะพบว่าเราไม่ได้เป็นแบบนั้น เทคนิคที่เหมาะหากเริ่มมีความรู้สึกแบบนี้ในใจคือให้ถอดตัวเองออกมา มองในสิ่งที่สถานการณ์และสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากสถานการณ์นั้นมากกว่าเอาตัวเอาเข้าไปผูก จะช่วยให้การ List สิ่งที่อาจจะเกิดในด้านลบได้สะดวกใจขึ้น เทคนิคที่ 3 อย่าปล่อยให้ความขี้เกียจครอบงำ หลายครั้งเรา “ไม่กล้าคิด” เพราะ “ขี้เกียจแก้” คือบางคนไม่อยากมีปัญหามากในตอนวางแผนเพราะกลัวว่าเดี๋ยวงานจะเยอะขึ้นตอนออกจากห้องประชุม ทำให้ไม่กล้าที่จะชี้หรือมองปัญหาที่อาจจะเกิด เข้าข่ายเราแกล้งตายตอนเจอหมี คิดว่าหมีมันจะไม่รู้ ซึ่งเสี่ยงเกินไปกับปัญหาที่อาจจะเกิดกับงานของเรา ดังนั้นเราต้องไม่ปล่อยให้ความขี้เกียจมาอำพรางข้อสังเกตที่อาจจะเป็นปัจจัยของความสำเร็จหรือความล้มเหลวของทีมเป็นอันขาด เทคนิคที่ 4 ทำ Risk Analysisถึงจุดหนึ่งหากคำว่า “อาจจะระดับเทพ” คือมีความเสี่ยงที่มีมันหนักหนามาก ทีมต้องมานั่งทำสิ่งที่เรียกว่าการวิเคราะห์ความเสี่ยง หรือ Risk Analysis ว่าสิ่งที่อาจจะนั้นมีโอกาสบ่อยมั้ย หรือ มีผลประทบแรงแค่ไหน ถ้าช่วยกันคิดออกมาแล้วได้ว่าบ่อยและแรงอันนี้การบ้านหนักหน่อยที่จะต้องมาว่ากันต่อว่า “อย่างไร” ในหมวกเขียวที่จะใช้ในตอนต่อไป เทคนิคที่ 5 ใช้แล้วก็ต่อยอด เวลาเราทำงานทุกคนจะ “เก่งขึ้น” โดยธรรมชาติ การใช้หมวกดำไม่จำเป็นต้องย้อนกลับไปตั้งต้นใน List เดิม ๆ เสมอไป เพราะทุกครั้งที่งานลักษณะเดียวกันนี้สำเร็จลง เราควรค้นหาวิธีการทำงานที่ดี (Good Practice) และ ถอดบทเรียน (Lesson Learn) มาเป็นต้นทุนเชิงประสบการณ์ เมื่องานใหม่เข้ามาก็มองหา “ความต่าง” แล้วค่อยไปใช้หมวกดำกับสิ่งที่ซับซ้อนขึ้นต่อไปได้เลย สุดท้ายพอประสบการณ์สูง ๆ ก็จะเรียกว่าเห็นทุกอย่างดั่งฝ่ามือตัวเองมองสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างทะลุปรุโปร่งตั้งแต่ต้น ๆ เลยด้วยซ้ำ เทคนิคเสริม หมวกดำจะเหมือนกับหมวกอื่น ๆ เพราะใช้หลักการระดมสมอง (Brainstorm) ดังนั้นตอนใช้โดยเฉพาะเวลาคิดหลาย ๆ คนก็ให้เก็บแนวคิดและความเป็นห่วงเอาไว้ก่อน อย่าเพิ่งตัดรอนแนวคิดใคร เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับการมองสิ่งที่พึงระวัง เหมือนจะง่ายแต่ไม่ง่ายนะ ทั้งจะมองจะคิดและประคองตัวเองให้คิดอย่างมีคุณภาพ สำหรับ Ministry of Leaning – The Series: อัจฉริยะด้วยหมวกหกใบตอนที่ 4 นี้ก็สมควรแก่เวลาแล้ว ขอให้มีความสุขในการมองอนาคตอย่างระมัดระวัง แล้วพบกันใหม่ฉบับหน้า สวัสดี Link ที่เกี่ยวข้อง การเมือง เรื่องที่ต้องใช้หมวก 6 ใบ อัจฉริยะด้วยหมวกหกใบตอนที่ 1: หมวกขาว ความธรรมดาที่ไม่ธรรมดา อัจฉริยะด้วยหมวกหกใบตอนที่ 2: เทคนิคในการปล่อยอารมณ์อย่างเหนือชั้น อัจฉริยะด้วยหมวกหกใบตอนที่ 3: หมวกเหลือง เรื่องดี ๆ ที่เราเลือกได้
ผู้เขียน ดร.โชดก ปัญญาวรานันท์ CEO จาก JobNow Healthcare Network ผู้ซึ่งมีประสบการณ์ในการบริหารโครงการ (Project Management) บริหารจัดการระบบในองค์กร (Business Process) การอบรมและการพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ (Human Capacity Development)
JobNow Healthcare Network ให้บริการด้านการจัดหางานแบบออนไลน์ด้านธุรกิจ Healthcare โดยเฉพาะ โดยเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาโอกาสในการทำงานใหม่ หรือ น้อง ๆ ที่กำลังมองหางานสามารถฝาก profile ไว้กับเราได้ฟรีโดยไม่ค่าใช้จ่ายที่ www.jobnowhcn.com รวมถึงสามารถติดตามเราได้จากช่องทางต่าง ๆ ได้แก่
Facebook: https://www.facebook.com/jobnowhealthcarenetwork
IG: https://www.instagram.com/jobnowhealthcarenetwork
Twitter: https://twitter.com/JobnowNetwork
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | มกราคม 2015 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | ||||
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |