เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20-21 ธค ที่ผ่านมา เราและผองเพื่อนนัดกันไปที่ยวที่ภูเรือ จ. เลย  เส้นทางที่ผ่านไปทางชุมแพ แต่ว่าไม่ได้ผ่านน้ำหนาว ไปหล่มสัก เพชรบูรณ์ เหมือนเดินทางกลับบ้านพิษณุโลก ทางที่ผ่านๆ หลายอุทยาน อย่าง อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน อ.ภูผาม่าน อุทยานแห่งชาติผาหินงาม ที่เขาเรียกว่าคุนหมิงเมืองเลย

อุทยานแห่งชาติผาหินงาม-คุนหมิงเมืองเลย

ที่อุทยานแห่งชาติผาหินงาม มีมัคคุเทศน์ท้องถิ่นพาชมเที่ยว ได้เหงื่อดีจัง เพราะต้องปีนบันไดไต่ขึ้นไปดูวิวภูผาหิน ข้างบนที่ยืนดูวิวทำเป็นตาข่ายเหล็กที่โปร่งๆ ดูเสียวมาก วิวที่เราเห็น เป็นผาหินคล้ายที่คุนหมิงจริงๆ  มองเห็นเขาเต่า เขานางนอนคล้ายที่เชียงรายเลย  แต่ที่นี่เป็นนางนอนที่กำลังท้อง ท้องเลยป่อง

เข้าใกล้เที่ยงเราผ่านอ่างเก็บห้วยน้ำหมาน เราแวะทานข้าวที่ร้านอาหารแพริมอ่างเก็บน้ำ  วิวก็สวยดี คนไม่เยอะ มีเรือลากแพไปกลางน้ำด้วย เห็นลอยอยู่กลางน้ำหลายแพ  แต่เรานั่งกินกันบนแพริมน้ำ

อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำหมาน

อิ่มแล้วก็เดินทางต่อ มุ่งสู่เมืองเลยซักที เราได้ดูป้ายข้อมูล ถนนแยกไปอำเภอต่างๆ ถึงได้รู้ว่ามีที่เที่ยวอีกหลายที่มากในจ.เลย อย่างพระธาตุสีสองรัก
แก่งคุดคู้ อ. เชียงคาน อยู่ทางตอนเหนือของจ.เลย  ติดชายแดนลาว และจ. หนองคาย

ผ้าพันคอ-หมวก มีขายตั้งแต่พื้นราบ

เส้นทางไป อ.ภูเรือ ล้อมรอบด้วยหุบเขา ที่มีรูปร่างเหมือนเรือใหญ่  อากาศเย็นสบาย  ที่พักที่ภูเรือมีหลากหลายแบบ ตั้งแต่ทางขึ้นไปจนถึงใกล้อุทยานแห่งชาติสองฟากทาง มองเห็นวิวทั้งภูเขาด้านซ้ายและด้านขวา ทั้งระดับโรงแรม รีสอร์ต และบ้านพักหลังเล็กๆน่ารัก ไปจนถึงระดับประหยัดแบบกางเต้นท์ก็มี ลานกางเต้นท์ให้พักนอนเอาบรรยากาศ

ที่พักที่เราได้ก็ไปหาวันนั้นแหละ แวะถามอยู่สองสามที่ แต่ได้ตัดสินใจพักรีสอร์ต ที่เป็นบ้านพักหลังเล็กๆ มีสองห้อง ราคาประหยัดแค่ 700 บาทเอง
เพราะช่วงที่ไปมันวันอาทิตย์ และไม่ใช่เทศกาลเลยคนไม่เยอะ ตอนเย็นเรามีรถเลยไปกินข้าวร้านอาหารทางเข้าตัวเมือง มีร้านอาหารหลายประเภท ตลาดสดก็มี

เช้าเรานัดกันตีห้า ขับรถขึ้นอุทยานไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมวิว มีผู้คนมารอพระอาทิตย์เหมือนเราเต็มไปหมดเลย  เขาจะให้จอดรถแล้วจะมีรถสองแถวพาไป ที่จุดชมวิว  ถ้าเดินก็ประมาณ 800 เมตร  เราเลยเดินกัน ได้บริหารปอดด้วย แต่ไปถึงก็หายเหนื่อย ที่จุดชมวิว หมอกเริ่มมา ลมแรงขึ้นๆ แต่กว่าพระอาทิตย์จะขึ้นก็นานเหมือนกัน

สว่างแล้วมองเห็นหน้ากัน แต่ตะวันยังไม่ขึ้นเลย เตรียมเดินหันหลังกลับกันแล้ว แต่จู่ๆ หันไปก็เริ่มเห็นแสงโผล่มานิดๆ รีบวิ่งกลับไปดูและถ่ายรูป เพราะพระอาทิตย์บทจะขึ้นก็ขึ้นเร็วมาก พอยิ่งสาย ลมยิ่งแรงและหนาว หมอกก็มาเรื่อยๆ  แต่ก็คุ้มค่ากับการรอคอยจริงๆ หายเหนื่อยเลย

การเดินทางไปภูเรือไม่ยากลำบาก สะดวกกว่าที่คิด พี่อ๋องเจ้าของรถบอกว่าชอบจริงๆ การไปเที่ยวที่มีรถขับได้ถึงที่ ได้เดินก็ไม่ลำบากมากนัก

หลังจากกินข้าวต้มเช้า เก็บข้าวเก็บของแล้วก็ออกเดินทางกลับขอนแก่น แวะถ่ายรูปอีกพักใหญ่ที่หน้าป้ายที่ทำการอ.ภูเรือ ที่มีปรอทยักษ์บอกอุณหภูมิต่ำสุดวันนี้ และอุณหภูมิปัจจุบัน  และป้ายสุดหนาวในสยาม  มีสวนดอกไม้สวยงามมาก ทัวร์จอดรถให้ลงไปถ่ายรูปกันเป็นแถว ดอกไม้ตอนนี้กำลังเบ่งบานดี โดยเฉพาะต้นคริสต์มาส แดงแจ๋ได้ใจจริงๆ

ปรอทยักษ์หน้าที่ทำการอ.ภูเรือ

สวนดอกไม้หน้าที่ทำการฯ

ระหว่างทางเราพักทานข้าว ทานก๋วยเตี๋ยวแล้วจึงกลับขอนแก่น สู้กับภารกิจหนัก
เป็นการชาร์ตแบตที่คุ้มค่าจริงๆ  มาเที่ยวเมืองไทยกันดีกว่า ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกเยอะแยะทั่วเมืองไทย