*/
<< | กันยายน 2015 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | ||
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 |
ห่วงแม่แน่นะ โดย สมตา ผมมองดูสองแม่ลูกตรงหน้าอย่างชื่นชม แม่เฒ่าอายุเฉียดแปดสิบนอนอยูบนเก้าอี้ทำฟัน ส่วนลูกชายนั่งอยู่ข้างๆ จับมือแม่บีบปล่อยๆบีบเป็นระยะ แม่เฒ่านั้นพูดภาษาไทยไม่ได้จึงได้แต่ใช้สายตาฟ้าฟางมองหมอกับลูกสลับกันไปมาขณะเราสองคนคุยกัน “ขอบคุณมากครับหมอ” ลูกชายกล่าวในที่สุด หลังจากที่ผมอธิบายว่าไม่ควรทำฟันปลอมทั้งปากให้แม่ใหม่ คนที่เป็นโรคพาร์กินสัน ต่อให้เปลี่ยนฟันปลอมใหม่ก็เคี้ยวอาหารได้ไม่ละเอียดอยู่ดี เอาเงินที่จะจ่ายค่าทำฟันไปซื้อเครื่องปั่นอาหารมาทำอาหารประเภทโจ๊กให้แม่ทานจะดีกว่า “ไม่เป็นไรครับ” ผมตอบขณะกดปุ่มให้เก้าอี้ทำฟันค่อยๆปรับตำแหน่งเป็นเก้าอี้นั่ง ชายวัยกลางคนจึงค่อยๆประคองหญิงชราให้ลุก แล้วสองแม่ลูกก็ค่อยๆก้าวกันช้าๆผ่านประตูห้องทำงานผม ผมหยิบบัตรประวัติคนไข้คนใหม่ที่จะก้าวผ่านประตูนั้นเข้ามาเป็นคนต่อไป พอเห็นชื่อคนไข้ ผมก็ถึงกับยิ้มน้อยๆ ป้ามะลิ คนแก่อีกแล้ว ผมนึก ผมมักมีคนไข้เป็นคนแก่โดยเฉพาะผู้หญิง คงเป็นเพราะผมชอบชวนคนแก่คุย ชอบฟังประสบการณ์ของคนที่ผ่านชีวิตมามาก ประสบการณ์เหล่านั้นเหมือนเป็นตำราเรียนที่ผมไม่ต้องเสียเวลาเปิดอ่าน “แม่แกชอบคุยกับหมอ บางทีก็บ่น ทำไมฟันไม่เป็นอะไรซักที จะได้มาหาหมอ “ เสียงคุณหน่อย ลูกสาวคนหนึ่งของป้ามะลิดังขึ้นในความคิดทันที ป้ามะลิมีลูกสามคน คุณหนุ่ม คุณหน่อย คุณน้อย ครอบครัวนี้เป็นคนไข้ผมทั้งหมด คุณหนุ่มไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องฟัน ผมแนะนำว่าให้เช็คฟันตามปกติคือหกเดือนครั้ง ส่วนคุณหน่อยกับคุณน้อยนั้นยิ่งไม่มีปัญหา พวกเธอดูแลตัวเองดีจนผมบอกว่าถ้าไม่มีอะไร สักสองปีค่อยเช็คสักทีก็ได้ ป้ามะลิเองก็ไม่มีปัญหานัก นอกจากฟันปลอมที่ใส่ค่อยๆหลวมไปเพราะการใช้งาน ผมก็แค่ดัดตะขอให้ก็กลับไปใช้งานได้ดีอย่างเก่า “สวัสดีค่ะคุณหมอ” เสียงป้ามะลิและคุณน้อยดังขึ้นพร้อมๆกัน การมาของป้ามะลิครั้งนี้ดูแปลกไปเพราะคราวนี้คุณน้อยพยุงป้ามะลิเข้ามาหาผม ป้าไม่ได้เดินเข้ามาในห้องทำฟันเองเหมือนครั้งก่อนๆ คงเป็นเพราะน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง “สวัสดีครับ เชิญครับป้า” ผมยกมือไหว้ รีบเข้าไปช่วยคุณน้อยประคองป้าให้นั่ง หลังจากนั้นจึงกดปุ่มเก้าอี้ทำฟันให้เปลี่ยนตำแหน่งเป็นเก้าอี้นอน คุณน้อยนั้นพอเห็นแม่นอนลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ขอตัวไปหยิบขนมถุงใหญ่ที่ยังวางทิ้งไว้บนโซฟารับแขกด้านหน้าคลินิกที่เธอกับป้ามะลิช่วยกันทำมาส่งให้ ผมรีบขอบคุณยกใหญ่ ขนมที่ครอบครัวนี้ทำอร่อยไม่เป็นรองใคร ขนาดคนอยู่จังหวัดไกลๆยังชอบโทรสั่งแล้วขับรถข้ามจังหวัดมารับของด้วยตนเอง ผมเดาว่าตะขอฟันปลอมป้าคงหลวมตามเคย แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ผมจึงนั่งคุยกับป้า กับคุณน้อยไป สลับกับการหลบออกไปห้องทำงานอีกห้องเพื่อใช้คีมดัดตะขอไป พอดัดเสร็จก็เอาฟันปลอมมาลองในปาก ลองอยู่แค่สองครั้งก็เรียบร้อย ในระหว่างการคุย ผมจึงรู้ว่าช่วงนี้คุณน้อยค่อนข้างอึดอัดใจ เพราะระยะหลังๆนี้ข้อเท้าป้าเริ่มมีปัญหาจนทำให้เดินเหินได้ลำบากขึ้น ประกอบกับความที่ป้าเป็นคนขยันมาตลอดชีวิต ถึงเวลานี้จะเดินเหินไม่คล่องแต่ป้าก็ยังขยันอยู่ เลยมักเดินจับโน่นจับนี่ในบ้านเหมือนเดิมโดยเฉพาะต้นไม้ที่สนามหน้าบ้าน ป้าต้องดูแลต้นไม้เหล่านั้นเอง ถึงคุณน้อยจะรดน้ำให้แล้ว ป้าก็ต้องเดินมาทำเองอีกทีอยู่ดี “ก็แค่ลากสายยางฉีดไป ก็ไม่ยากเย็นอะไร จะให้นั่งเฉยๆได้ยังไง มันก็อึดอัดตาย ใช่มั๊ยหมอ” ป้ามะลิบอกกับผม “หนูก็กลัวว่าแม่แกจะล้มไปค่ะ” คุณน้อยเอ่ยเป็นเชิงฟ้องเรื่องเหตุการณ์ในบ้าน เธอรู้ว่าป้ามะลิมักฟังความเห็นผมเสมอ คุณน้อยเป็นน้องที่พี่ๆขอให้อยู่บ้านดูแลแม่มาตั้งแต่เรียนจบมหาวิทยาลัยใหม่ๆ ตอนนั้นแม่บ้านลาออก พี่ๆก็เห็นว่าคุณน้อยยังหางานทำไม่ได้เลยบอกเธอว่าไม่ต้องไปหางานทำที่ไหน อยู่เป็นเพื่อนแม่ที่บ้านนี่แหละ พี่ๆขอเอาค่าจ้างที่เคยจ่ายให้แม่บ้านมาเป็นค่าขนมให้คุณน้อยแทน คุณน้อยนั้นรักแม่มากอยู่แล้วจึงไม่ปฏิเสธ แม้จะรู้ว่าความสุขความรื่นเริงตามประสาคนอยู่ในวัยสาวจะหายไปเพราะต้องอยู่เพียงในบ้าน แต่เธอก็ไม่รู้สึกว่าอึดอัด เพราะเธอมีความสุขที่ยิ่งใหญ่กว่ามาทดแทน นั่นคือความสุขที่ได้ตอบแทนพระคุณแม่ ได้แบ่งเบางานของแม่ หลังจากที่เห็นแม่ทนลำบากเพื่อลูกๆมาหลายปี “แล้วป้าใช้ไม้เท้าช่วยพยุงหรือเปล่าครับ” ผมถาม “ใช้ซีหมอ ไม่งั้นมันเดินไม่คล่อง” ป้ามะลิตอบเสียงสูง ฟังเสียงแล้วผมรู้เลยว่ายังไงป้าก็อยากทำทุกอย่างที่เคยทำด้วยตนเองอยู่ดี “งั้นป้าคุมน้ำหนักอย่าให้ขึ้น ลดน้ำตาลในอาหารลงหรือจะเปลี่ยนน้ำตาลเป็นสารให้ความหวานแทนก็ได้ครับ งานอะไรที่ย้ายมาทำที่เดียวกันบนโต๊ะได้ก็ย้ายมาน่าจะดีกว่านะครับ จะได้ไม่ต้องเดินทั่วบ้าน ส่วนงานไหนที่พอจะแบ่งให้คุณน้อยได้ก็แบ่งไป หรือถ้าป้าอยากทำเองก็เวลาจะทำก็เรียกคุณน้อยช่วยให้มาช่วย มาอยู่ใกล้ๆก็แล้วกันนะครับ” ผมหันไปมองถุงขนม แล้วก็นึกขึ้นได้ถึงอีกเหตุที่ป้ามะลิชอบทำขนม คุณน้อยเคยเล่าให้ฟังนานมาแล้ว “ส่วนขนม ป้าทำให้น้อยลงหน่อยก็ได้ครับ เพราะป้าไม่เหมือนคุณน้อย คุณน้อยน่ะพอเธอช่วยป้าทำขนมมากๆแล้วเธอเอียน ทานขนมไม่ลง แต่ป้ากลับชอบ มีขนมอยู่ใกล้มือ จะกินเมื่อไหร่ก็ได้ ขนมป้าอร่อยมาก ผมก็ติดใจอยากกินบ่อยๆ แต่สุขภาพป้ากับสุขภาพจิตคุณน้อยสำคัญกว่าความอยากกินของอร่อยของผมนะครับ” ผมเสนอความเห็นให้ป้าลดกิจกรรมลง เพราะรู้ดีว่าหญิงที่ลำบากเลี้ยงตัวและลูกมาตั้งแต่ยังสาว ทำงานจนเป็นนิสัย จะให้นั่งเฉยๆ เป็นทำไม่ได้แน่ “ป้าต้องเห็นใจลูกด้วยนะครับ เผื่อป้าทำโน่นทำนี่แล้วเผลอล้มไป คุณน้อยเธอจะรับได้ไหมครับที่อุตส่าห์ตั้งใจดูแลแม่ขนาดนี้ยังปล่อยให้แม่ล้มได้” และพยายามหาทางที่จะทำให้ความขยันและความรัก ความเห็นใจลูกของป้า มาพบกันตรงกลาง “เธอเป็นลูกกตัญญู ถ้าป้าล้มแล้วเป็นอะไรไป เธอคงเสียใจมากนะครับ แถมยังอาจเสียใจซ้ำเพราะถูกพี่ๆตำหนิเธออีกก็ได้ ดีไม่ดี ลูกๆจะผิดใจกันไปเลยก็ได้นะครับ” สักพัก “เออนะ” ป้ามะลิก็พยักหน้า “ ป้าก็ลืมคิดถึงตรงนี้ไป” ขณะพูด คุณน้อยยิ้มออกขณะได้ยินคำนั้น หลังจากที่แก้ไขปัญหาทั้งเรื่องฟันของป้าและใจป้าเรียบร้อยแล้ว ผมก็ขอตรวจฟันให้คุณน้อย อันที่จริงผมไม่ต้องตรวจให้เธอก็ได้ แต่ผมมีบางอย่างที่อยากคุยกับเธอตามลำพังมากกว่า คุณน้อยคงเข้าใจวัตถุประสงค์ของผม จึงประคองแม่ พาไปนั่งรอที่โซฟารับแขกก่อนจะกลับเข้ามาหาผมในห้องทำงาน ไหนๆคนไข้ก็อยู่ในห้องแล้ว ก็ตรวจดูเสียหน่อย ไม่มีอะไรผิดปกติจริงๆ พอตรวจฟันให้เธอเสร็จ ผมก็ปรับเก้าอี้ให้เธอได้นั่งคุยกับผมสบายๆ “คุณน้อยคอยดูแม่อย่างนี้ถูกแล้วครับ แม่ใครใครก็รัก ก็อยากดูแล ก็แม่เรามีคนเดียว ไม่ดูแลได้ยังไง” ผมเริ่มต้นสนทนาด้วยการเอ่ยถึงความดีที่เธอทำมาตลอดชีวิต คุณน้อยยิ้มเมื่อมีผู้รับรู้ถึงสิ่งดีๆที่เธอทำ “แต่แม่แกดื้อค่ะ น้อยก็กลัวแกจะล้มไป เดี๋ยวนี้น้อยเลยเหนื่อยมากขึ้น ทั้งทำงานบ้าน ทั้งคอยวิ่งห้ามแก บอกให้นั่งเฉยๆบ้างก็ไม่ยอม” ก่อนจะพูดเชิงเล่าเชิงฟ้องกับผม “คุณน้อยครับ ผมรู้ว่าคุณน้อยมีความสุขที่ได้ดูแลแม่ เป็นผม ผมก็มีความสุขครับที่ได้ทำหน้าที่ลูกอย่างดี อย่างที่ลูกหลายๆคนยังทำไม่ได้ แต่คุณน้อยครับ ใจเราทุกคนต้องมีความสุขครับ เราถึงจะมีชีวิตรอด ถึงจะเป็นอยู่ในโลกนี้ได้ คุณน้อยคงอาจจะเคยได้ยินคำพูดว่าตรอมใจตาย ที่เค้าตายอย่างนั้นก็เพราะเค้าทนทุกข์ใจมาเป็นเวลานานๆ ใจคนเรานะครับพอทุกข์นานๆเข้าก็ทนไม่ไหวแถมยังส่งผลมาถึงกายด้วย ในที่สุด ทั้งกายทั้งใจก็ไปไม่รอด ก็คุณน้อยเคยได้ยินว่ามีใจเพลินใจตายมั๊ยล่ะครับ” คุณน้อยเผลอหัวเราะ “ไม่เคยค่ะ” “ใช่ครับ ยกเว้นประเภทตื่นเต้นจัด ถูกหวยแล้วตื่นเต้น ดีใจจนช็อคตายน่ะเคยมี แต่คนที่มีความสุขหล่อเลี้ยงใจอยู่เรื่อยๆ มีความสุขตลอดเวลาแล้วเพลิดเพลินในความสุขจนตายน่ะ ผมยังไม่เคยเห็นนะครับ” คุณน้อยพยักหน้า “ใจคนเราต้องมีสุขหล่อเลี้ยง” ผมย้ำคำพูดเดิม “แต่ต้องเป็นสุขจากความชอบธรรม จากการเข้าใจสภาวะ จึงจะเป็นสุขที่ดีเพราะไม่กลายเป็นทุกข์ ไม่มีโทษตามมาภายหลัง” ก่อนจะอธิบายความหมายของความสุขที่ผมหมายถึง ว่าผมไม่ได้หมายถึงสุขที่ได้มาจากการเบียดเบียนคนอื่น “แม่คุณน้อยมีความสุขกับการทำงาน ถ้าคุณน้อยไม่ให้แกทำในสิ่งที่แกชอบ ถ้าใจแกไม่สุขแล้วชีวิตแกจะเป็นยังไง แกจะอยู่ยังไงล่ะครับ” น้ำเสียงผมเริ่มเครียดขึ้น คุณน้อยคงรู้สึกได้ จึงฟังผมอย่างตั้งใจ “อีกอย่าง ที่คุณน้อยดูแลแม่ ไม่อยากให้แม่เป็นอะไรไป ส่วนหนึ่งก็เพราะความรักความกตัญญูที่มีต่อแม่ แต่ผมว่ายังมีอีกเหตุผลหนึ่งแฝงอยู่ด้วยคือความรักตัวเองกระมังครับ เพราะความรักตัวเอง คุณน้อยมีความสุขที่ได้ดูแลแม่ เลยกลัวว่าว่าถ้าแม่เป็นอะไรไปแล้ว ตัวเองจะสูญเสียความสุข จะสูญเสียความภูมิใจในตัวเอง สูญเสียความภูมิใจในการเป็นลูกที่ดีไป จะตำหนิตัวเองที่ไม่ทำในสิ่งที่คิดว่าทำได้ให้ดีที่สุด จะกลัวว่าจะถูกพี่ๆตำหนิซ้ำ และกลัวว่าตัวเองจะต้องลำบากมากขึ้นไปอีก เพราะต้องดูแลแม่ที่อาจบาดเจ็บจนช่วยตนเองไม่ได้เลย เป็นการเพิ่มภาระขึ้นอีก ใช่ไหมครับ?” คุณน้อยอึ้ง เธอถึงกับครุ่นคิด “คุณน้อยต้องยอมให้แม่มีความสุขในแบบของแม่ในขณะที่คุณน้อยก็สุขได้ด้วย ต้องปล่อยแกบ้างนะครับ” ผมพยายามชี้แจงให้คุณน้อยเห็นวิธีที่จะทำให้ทั้งแม่และลูกมีความสุขด้วยกันได้ “ส่วนป้ามะลิน่ะ ฟังจากที่แกตอบผมเมื่อกี้ ผมว่าแกก็คงจะเห็นใจคุณน้อย คงไม่ดึงดันจะทำอะไรเองทั้งหมดอีกต่อไป แกคงจะค่อยลดสิ่งที่เคยทำลงไปหน่อยแล้วล่ะครับ” ผมแจง ทั้งสิ่งที่เห็นด้วยตา สัมผัสได้ด้วยใจ และเหตุกับผล จากนั้นก็ปล่อยให้ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบสักพัก ในที่สุด ความเงียบก็ถูกทำลาย “ใช่ค่ะ” หลังจากที่อีกฝ่ายเข้าใจสิ่งที่ผมชี้ให้เห็น “น้อยกลัวว่าเดี๋ยวตัวเองจะเสียใจ แล้วก็กลัวว่าตัวเองจะยิ่งเหนื่อยมากขึ้นด้วย เพราะตอนนี้ น้อยก็ไม่ใช่สาวๆแล้ว” ผมพยักหน้า น่าเห็นใจ ผู้หญิงวัยกลางคน มักมีเรื่องให้คำนึงถึงมากมาย “เป็นอย่างที่หมอว่าค่ะ น้อยกับแม่ต้องเจอกันตรงกลาง ไม่งั้นเราก็ต้องทะเลาะกันทุกวันอยู่อย่างนี้” “แล้วเราจะอยู่ไม่สุขครับ เรื่องอะไรจะยอมให้ความรักกลายเป็นเหตุที่ทำให้เราทะเลาะกับคนที่เรารักล่ะครับ” ผมถามเชิงสรุป คุณน้อยคงเห็นด้วย สักพัก เธอจึงหันไปมองถุงขนม “งั้น” ก่อนจะหันกลับมาพูดกับผมยิ้มๆ “หมอก็ต้องอดทานขนมไปอีกนานเลยนะคะ”. ผมพยักหน้า “ไม่เป็นไรครับ” รับคำคุณน้อยอย่างมีความสุข “ดีแล้วละครับ” สุขที่ได้เห็นการคลี่คลายของปัญหา ก็… สุขเพราะความอร่อยลิ้น หรือจะสู้สุขที่ได้เห็นผู้ที่เป็นเหมือนญาติมีความสุขได้ล่ะนะ
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |