*/
<< | ตุลาคม 2015 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | ||||
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
แม่ไม่รู้ โดย สมตา
กลีบดอกเฟื่องฟ้าต้นที่ปลูกอยู่ติดรั้วหน้าบ้านไหวน้อยๆเพราะลมอ่อนๆที่โชยมาต้อง มะลิซ้อนที่ปลูกอยู่ใกล้ๆชิงช้าพอได้ลมก็ส่งกลิ่นโชยมาถึงจมูก เฟื่องฟ้าถึงจะไม่มีกลิ่นแต่สีสันก็สวยต้องตา สีขาวของมะลิ ถึงจะไม่ต้องตาแต่กลิ่นก็ต้องใจ นี่ถ้าเอาที่ต้องต้องตาต้องใจของทั้งสองอย่างมารวมกันได้ก็คงจะดี เวลาอย่างนี้ ฉันชอบออกมานั่งชิงช้ารับลมที่สนามหน้าบ้าน เพราะนอกจากจะให้ผิวได้รับลม ได้กลิ่นหอมของดอกไม้ ได้พักสายตากับสีเขียวๆของต้นไม้ใบหญ้าแล้ว ยังเป็นวิธีหลบหลีกการกระทบกระทั่งกับลูกๆได้ดีวิธีหนึ่ง เฮ้อ ฉันถอนหายใจ นี่ถ้าฉันดูแลตัวเองมาตั้งแต่ยังสาวๆ รู้จักออกกำลังกายบ้าง รู้จักอดใจเวลาเห็นขนมกรุบกรอบบ้าง รู้จักปล่อยวางไอ้เรื่องอะไรๆที่ถึงจะพยายามแก้ไขยังไงก็แก้ไขไม่ได้บ้าง ฉันอาจจะไม่ถูกโรคภัยรุมเร้าในวัยใกล้แปดสิบอย่างนี้ คงไม่ถูกความหวังดีของลูกๆทำร้ายเอาอย่างนี้ ถึงตอนนี้ก็เถอะ ถึงจะรู้ว่าควรปล่อยควรวางควรละ ฉันก็ยังทำไม่ค่อยจะได้ ก็ใครล่ะจะตัดขาดจากสิ่งที่เคยทำได้ทันทีที่รู้ว่าไม่ควรทำ หลังจากที่ทำอย่างนั้นจนชินมาตลอดชีวิต ให้หักด้ามพร้าด้วยเข่า ฉันหยุดความคิดไว้แค่นั้นเมื่อสีดา ลูกสาวคนรอง ถือถ้วยชาเขียวมาส่งให้ “ขอบใจจ๊ะลูก” ฉันตอบเบาๆ พอรับถ้วยชามาถือแทนแล้วก็ปล่อยสายตาให้ล่องลอยไปไกล สีดาเห็นอย่างนั้นก็เลยเดินกลับเข้าบ้าน เธอคงไม่อยากขัดเวลารำลึกถึงความหลังของฉัน “แม่ชอบนั่งเงียบๆตรงนี้ ชิงช้าตัวนี้พ่อเค้าชอบ” จำได้ว่าเคยบอกลูกไปอย่างนั้นตั้งแต่ตอนที่พ่อของลูกจากไปใหม่ๆ คงเพราะอย่างนี้ เวลาลูกๆเห็นฉันมานั่งรับลมที่นี่ทีไร ก็เลยไม่มีใครเข้ามารบกวน
หรือไม่ ลูกก็อาจจะยังขุ่นใจเพราะเรื่องเมื่อคืนอยู่ ฉันเดาใจลูก ก้มหน้าลงมองชาในถ้วยแล้วก็นึกถึงขนมของโปรด พายกรอบเป็นขนมที่ฉันชอบมากที่สุด แต่ตั้งแต่ฉันไปตรวจร่างกายแล้วรู้ว่าเป็นเบาหวานเพิ่มขึ้นจากที่มีความดันโลหิตสูงอยู่ก่อนแล้ว ฉันก็จำรสชาติของมันไม่ได้ไประยะหนึ่ง “น้ำตาลมันเยอะนะคะแม่ อย่ากินเลย” สีดาเคยตอบเวลาที่ฉันถามว่าซื้อพายกรอบมาให้หรือเปล่า เฮ้อ เป็นอีกครั้งที่ฉันก็ปล่อยลมยาวๆออกจากจมูก ลูกนะลูกช่างไม่รู้เลยว่าแม่ทุกข์ เพราะความที่ไม่เคยห้ามใจตัวเองเวลาเห็นอาหารหรือขนมที่ชอบเลย เพราะความที่ลิ้นเคยชินกับรสอร่อยมาตลอด อยู่ดีๆก็มาให้ตัดขาดจากรสที่เคยรู้ทั้งๆที่ยังจำรสของมันได้ ใครล่ะจะไม่คิดถึง ให้มากินแต่อาหารจืดๆ ใครล่ะจะกินลง พอกินข้าวไม่ลง ตกค่ำก็หิว หนักๆเข้า ฉันก็เลยแอบให้ดาว เด็กสาวที่มาช่วยทำงานบ้านเดินไปซื้อขนมนมเนยเล็กๆน้อยมาแอบไว้ในห้องนอน ก็พอได้ขนมเหล่านั้นนั่นแหละช่วยผ่อนความหิวไปหน่อยในระหว่างวันบ้าง ในตอนก่อนนอนหลังจากที่สีดาขึ้นไปนอนในห้องของเธอแล้วบ้าง นอกจากจะหายหิวแล้วยังได้มีความสุขกับการลิ้มกับรสเคยๆอีกด้วย ห้องนอนของฉันอยู่ที่ชั้นล่างของบ้าน ส่วนของสุดาลูกสาวคนโตที่แยกบ้านไปแล้วกับของสีดานั้นอยู่ชั้นบน สีดานั้นขี้ลืม บางทีหลังจากที่ขึ้นชั้นบนไปนอนแล้ว นึกได้ว่าลืมของ ก็มักลงมาหยิบ มาหาของที่ชั้นล่างอยู่เสมอ ฉันเลยต้องแอบๆซ่อนๆกินของชอบ เวลาจะแอบกินขนมแต่ละที ตาก็ต้องคอยเหลือบไปดูที่ประตูห้องนอนเป็นระยะๆทุกที เผื่อว่าถ้าสีดาเข้ามาขัดจังหวะ จะได้ใช้หมอนใบโตที่เอามาวางไว้ข้างๆปิดถุงขนมได้ทัน แต่บางทีฉันก็ลุกลี้ลุกลนเกินไปจนสีดาสงสัย “ทำอะไรน่ะแม่” “ไม่มีอะไรลูก อ่านที่พี่เค้าเอามาให้น่ะ” พอเธอถาม ฉันก็แกล้งทำเป็นหยิบหนังสือที่สุดามักเอามาฝากเวลาพาหลานๆมาเยี่ยมขึ้นมาทำท่าอ่าน แต่บางที พอตอบลูกไปแล้ว ฉันก็นึกสังเวชอยู่ในใจ ดูเอาเถอะ สุดาบอกว่าชีวิตคนปกติแค่รักษาศีลห้าได้ตลอดรอดฝั่งก็เยี่ยมแล้ว แต่นี่ ฉันต้องผิดศีล พูดโกหกกับลูกทุกครั้งที่ลูกผ่านประตูนั้นเข้ามาในเวลาอย่างนั้นแล้วถามอย่างนั้น เมื่อคืน สีดาลืมของอีก เธอจึงลงมาหยิบของที่ลืมเหมือนเคย แต่คราวนี้ฝีเท้าเธอเบามาก เบาจนฉันไม่ทันได้ยิน พอเธอเปิดประตูเข้ามาก็เลยเห็นฉันกำลังนั่งกินขนมอยู่พอดี “อ้าว แม่” เสียงลูกร้องทัก ฉันตกใจที่เห็นลูกจนแทบสำลักขนม “กินอะไรตอนนี้” เธอถลามาดูถุงขนมในมือฉัน “พายกรอบ” แล้วก็ถือวิสาสะแกะเอาของในมือไปจากฉัน “ขอหนูนะคะ แม่ไม่รู้เหรอว่าน้ำตาลมันเยอะขนาดไหน” “ก็แม่หิวนี่” ฉันบอกลูกเสียงอ่อยๆ “เฮ้อ มิน่าล่ะ” น้ำเสียงสีดาแสดงความรู้สึกระคนกันระหว่างความขัดใจและความห่วงใย “น้ำตาลถึงไม่ลดสักที นี่แม่จะทำให้หนูเป็นห่วงไปถึงไหน” “ก็” ฉันก้มหน้า ตอบลูกเสียงอ่อยๆ “วันทั้งวันแม่กินอะไรไม่ลงเลยนี่นา” เพราะรู้ว่าลูกรักและเป็นห่วงฉันเลยไม่อยากบอกให้ลูกเสียใจว่าอาหารที่ลูกเตรียมไว้ ที่รอเพียงให้ดาวนำไปผัดบ้างต้มบ้างตอนจะกินแต่ละมื้อน่ะ รสชาติมันแย่จนแม่กินไม่ลง ที่จริงฉันก็สงสารลูกอยู่หรอกนะ กลับจากที่ทำงานเหนื่อยๆ แทนที่จะได้พักกลับต้องมาเตรียมจัดเครื่องปรุงอาหารให้แม่ในวันถัดไป
สีดาไม่ว่าอะไร เธอเพียงแต่ถือถุงขนมเดินกลับไปยังห้องของเธอเงียบๆ เห็นท่าทางลูกแล้ว ฉันอดนึกถึงดาวว่าจะพลอยโดนลูกหลงไปด้วยไม่ได้ แล้วก็พลอยคิดเดาเอาไปว่า พรุ่งนี้ พอสุดากับสามีพาหลานมาเยี่ยมฉันตามปกติ สีดาจะต้องเล่าฟ้องพี่ แล้วลูกสาวทั้งสองคนจะต้องช่วยกันต่อว่าฉันเป็นแน่ เมื่อคืนฉันเลยนอนหลับๆตื่นๆ พลิกไปพลิกมาจนถึงเช้า เพราะอย่างนี้ พอเห็นรถสุดาเลี้ยวเข้าบ้านมา ฉันเลยรีบหลบมานั่งที่ชิงช้าตัวโปรด ปล่อยให้ลูกสาวสองคนคุยกันตามลำพังในบ้าน เฮ้อ ฉันถอนใจอีกที สุดาก็อีกคน ตั้งแต่เธอหันไปอ่านหนังสือธรรมมะ พอกลับบ้านมาเยี่ยมฉันทีไรก็ติดหนังสือธรรมมาฝากทุกที แล้วก็เฝ้าแต่ถามว่าหนังสือที่เอามาให้คราวที่แล้วอ่านจบหรือยัง ฉันหรือจะกล้าตอบว่ายังอ่านไม่จบ ที่จริง ฉันก็อ่านอยู่หรอกนะ อ่านมั่งไม่อ่านมั่ง วันไหนอยากอ่านก็อ่าน วันไหนอยากทำอย่างอื่นก็ทำอย่างอื่น อยากดูโทรทัศน์ก็ดู อยากรดน้ำต้นไม้ก็รด วันอาทิตย์อยากไปทำบุญที่วัด ฟังเทศน์ฟังธรรมตามแต่พระท่านจะกล่าวก็ไป ก็คนแก่น่ะจะหาความสุขจากที่ไหนได้บ้างนอกจากความสุขเล็กๆน้อยๆอย่างนี้ จะให้ไปเที่ยวดูหนังฟังเพลงหรือเที่ยวไกลๆนอกบ้าน เที่ยวช๊อปปิ้งตามห้างอย่างพวกหนุ่มๆสาวๆก็คงไม่ไหว แต่สุดากลับไม่คิดอย่างนั้น เธอมักอ้อมแอ้มบอกฉันทุกครั้งที่กลับมาบ้านแล้วมาเห็นฉันนั่งดูโทรทัศน์ ว่าฉันน่าจะอ่านหนังสือมากกว่าดูละคร อายุป่านนี้แล้ว น่าจะศึกษาธรรมเป็นการหาที่พึ่งให้ตัวเองในโลกหน้า ถ้าเอาแต่สนุกสนานเฮฮาในชาตินี้ กลัวว่าชาติหน้าจะเกิดไปเป็นอะไรที่ตกต่ำลงไป ฮื่อ นึกแล้วก็อยากจะถอนใจซ้ำซะจริงๆ คนเราน่ะนะทำไมจะไม่กลัวว่าตัวเองจะต้องไปเจอทุกข์ ใครๆก็อยากมีความสุขกันทั้งนั้น แต่จู่ๆก็จะให้คนแก่ที่เพิ่งรู้ว่าการทำบุญน่ะมีวิธีทำได้ตั้งหลายวิธี แค่พยายามทำความเข้าใจกับพระธรรมก็ได้บุญแล้ว แต่พอรู้ว่าอะไรควรทำปั๊บก็จะให้มานั่งจับเจ่าอยู่กับกองหนังสือทั้งวันได้ยังไง คนแก่คนอื่นน่ะอาจจะทำได้ แต่ไอ้ฉันมันไม่ไหว ลูกๆก็น่าจะยอมให้คนแก่ที่ขยับตัวนิดหน่อยก็เหนื่อยแล้วมีเวลาสำหรับการผ่อนคลายบ้าง ทำอย่างอื่นบ้างนะ
การอ่านหนังสือไปคิดตามไปน่ะ ไม่ใช่มันจะไม่เหนื่อย เหนื่อยมากๆเข้า มันจะเอากำลังใจที่ไหนมาทำความเข้าใจกับพระธรรมตามที่ในหนังสือว่า แถมพระธรรมที่ว่าไว้ในหนังสือ บางคำบางสำนวนก็ยากจนฉันอ่านกี่ทีกี่ทีก็ไม่เข้าใจ พอไม่เข้าใจ ใครล่ะจะอยากอ่านต่อ เคยนึกอยู่เหมือนกัน ว่าทำไมลูกไม่หาหนังสือที่มันอ่านง่ายกว่านี้มาให้ฉัน ทำไมฉันจะ ไม่รู้ว่าคนเราควรทำอะไรก็ควรทำให้พอดีกับสติปัญญาตัวเอง ทำไมจะไม่รู้จักคำว่าเดินสายกลาง คำนี้น่ะฉันอ่านเจอในหนังสือที่สุดานั่นแหละเอามาให้ แต่ที่ฉันไม่รู้ก็คือ ไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้ลูกๆดูแลฉันอย่างพอดี ไม่รู้ว่าทำยังไงลูกๆจึงจะไม่ห้ามโน่นห้ามนี่จนฉันอึดอัด ไม่รู้ว่าจะบอกลูกยังไงว่าความหวังดีของลูกทำให้ฉันอยู่ไม่สุข ไม่รู้จะบอกลูกๆยังไงว่าฉันเป็นอยู่อย่างนี้ เคยชินอย่างนี้มาตลอดชีวิต อยู่ดีๆจะให้เปลี่ยนได้ในข้ามคืนน่ะมันเป็นไปไม่ได้หรอก ลูกๆคงลืมสำนวนที่ว่า กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียวไปแล้วละมัง ไม่รู้ว่าจะบอกลูกๆยังไงว่าที่ลูกอยากให้ฉันชีวิตยืนยาว อยากให้ฉันมีสุขในโลกหน้าน่ะ ฉันเข้าใจ แต่ฉันก็อยากจะอยู่เป็นสุขในขณะนี้ ในโลกนี้ควบคู่กันไปด้วย แล้วก็ไม่รู้ว่าทำยังไงฉันถึงจะไม่ต้องทำผิดศีล ไม่รู้ว่าที่เป็นอย่างนี้เพราะฉันเองที่เอาแต่ใจมากไป หย่อนยานกับตัวเองเกินไป พอตัวเองถูกขัดใจเลยพลอยไปโทษลูกๆหรือเปล่า ไม่รู้จริงๆ เฮ้อ อดไม่ได้ที่ต้องถอนอีกลมหายใจ เพราะไม่รู้ตัวเองจะหาทางออกได้ยังไง ไม่รู้ว่าใครจะหาทางออกให้ฉันได้ แล้วก็ไม่รู้ ว่าถ้าฉันกลับเข้าไปในบ้าน ลูกๆจะพูดอะไรกับฉัน จะทำให้ฉันอึดอัดใจมากไปกว่าเดิมอีก ร่างงองุ้มที่ค่อยๆก้าวลงจากชิงช้า เดินเข้ามาในบ้าน ทิ้งสีสันและกลิ่นหอมของดอกไม้ไว้ ณ เบื้องหลัง พร้อมรับความอึดอัดใจที่กำลังจะเผชิญที่อยู่เบื้องหน้า
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |