Tokyo Tower รักยิ่งใหญ่ หัวใจให้แม่ เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศเทศกาลวันแม่ หยิบหนังมาเล่าเรื่องจึงขอแนะนำภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตระหว่างแม่กับลูกชาย ที่ผูกพันกันมาจนกระทั่งวันสุดท้ายของผู้เป็นแม่ การันตีด้วย 5 รางวัลจากงาน Japan Academy Award 2008 Tokyo Tower: Mom and Me, Sometimes Dad คือชื่อเต็มของภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวความผูกพันระหว่าง มาซายะ หรือ "ม่าคุง" กับแม่ของเขาและบางช่วงเวลาที่มีพ่อเข้ามาเกี่ยวข้อง แม่และพ่อมีเรื่องขัดแย้งกัน ต่อมาแม่ได้พาม่าคุงเดินทางมาอยู่กับคุณยายที่ชนบท ม่าคุงได้ใช้ชีวิตร่วมกับพ่อบ้างเป็นบางครั้งในช่วงปิดเทอม เขาสงสัยเสมอว่า ทำไมพ่อกับแม่ถึงไม่ได้อยู่ด้วยกัน ม่าคุงมีควาฝันอยากเข้าเรียนมหาวิทยาลัยในโตเกียว และใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไม่มีแก่นสาร เมื่อแม่ส่งเงินที่มาจากการทำงานหนัก ม่าคุงก็ผลาญเงินที่แม่หามาได้ แถมยังไปกู้หนี้นอกระบบเสียอีก จนกระทั่งในวันที่ม่าคุงรู้ว่าแม่เขาเป็นมะเร็ง ม่าคุงจึงเปลี่ยนตัวเองทำงานทุกอย่างโดยไม่เลือกงาน เพื่อจะได้ดูแลแม่ของเขาจวบจนวาระสุดท้าย นี่คืองานหนังชีวิตล้วน ๆ ที่เล่าเรื่องของแม่กับลูก ภายใต้การกำกับภาพยนตร์จาก โจจิ มัตซึโอกะ เลือกที่จะเล่าหนังแบบค่อยเป็นค่อยไป มีหลายช่วงของบทที่เอื้อให้เรียกน้ำตาได้ แต่มัตซึโอกะก็เลือกที่จะเล่าเรื่องแบบซึมลึก อันเป็นสไตล์ที่แตกต่างกับคนทำหนังเกาหลีที่เน้นอารมณ์ฟูมฟาย บิวต์กันเต็มที อารมณ์ของหนังจึงออกมาแบบซาบซึ้งน้ำตาซึม ซึ่งน่าจะเหมาะกันดีกับเนื้อเรื่องที่เล่าเรื่องราวชีวิตอันไม่โลดโผนของม่าคุงและแม่ กีริน กิกิ นักแสดงหญิงที่รับบทแม่ของม่าคุงในวัยผู้ใหญ่จนชรา สามารถถ่ายทอดภาพหญิงผู้เกิดมาพร้อมกับตระหนักในหน้าที่ของความเป็นแม่ ทำงานหนักเพื่อเลี้ยงลูก ความสุขของแม่คือการเห็นลูกมีอนาคตที่ดี อดทนทุกอย่างแม้ยามเจ็บป่วยเพื่อลูกรัก กิกิให้การแสดงที่เป็นธรรมชาติ เธอทำให้ผมอดนึกถึงแม่ของตัวเองไม่ได้ และพลอยสะเทือนใจตามม่าคุงไปด้วยในวาระสุดท้ายของแม่ คาโอรุ โคบายาชิ รับบทเป็นพ่อ ผู้มีชีวิตศิลปิน หาความแน่นอนทางอารมณ์ไม่ได้ จนในช่วงสุดท้ายของชีวิตแม่ พ่อทำหน้าที่สามีและพ่อได้อย่างดีที่สุดเมื่อเทียบกับทั้งชีวิตเขาแทบไม่ได้ตระหนักในความเป็นพ่อและสามีเลย โคบายาชิก็เป็นอีกคนที่ถ่ายทอดบทพ่อผู้เป็นศิลปินได้อย่างดี โจ โอดากิริ รับบทเป็นม่าคุง ชายหนุ่มศิลปินที่เดินตามรอยพ่อ แต่เพราะมีแม่ที่เลี้ยงดูมาทำให้เขาไม่ได้มีชีวิตเรื่อยเปื่อยแบบพ่อ และเรียนรู้ที่จะทำทุกอย่างเพื่อดูแลแม่จนวาระสุดท้าย แม้จะให้การแสดงที่เป็นธรรมชาติ เพียงแต่ยังมีหลายช่วงเวลาที่โอดากิริเล่นไม่ถึงแต่โอดากิริก็ประคับประคองตัวเองไปได้ตลอดทั้งเรื่อง หนังถ่ายทอดภาพการเดินทางกลับบ้านชนบทของแม่ที่จูงมือม่าคุงวัยเยาว์เดินไปตามรางรถไฟ และถ่ายทอดภาพม่าคุงในวัยหนุ่มเดินจูงมือแม่ข้ามถนนในโตเกียว อันเป็นการสะท้อนให้เห็นการเดินทางของม่าคุงที่ไปใช้ชีวิตอยู่กับบ้านเกิดของแม่ในชนบท และตรงกันข้ามกับแม่เดินทางเข้ามาใช้ชีวิตกับม่าคุงในเมืองหลวง เป็นสัญลักษณ์ที่บอกเล่าถึง โลกของแต่ละฝ่ายที่อีกฝ่ายเลือกจะเข้าไปอยู่ แม้จะไม่ใช่ชีวิตที่คุ้นเคยแต่การมีบุคคลที่เป็นเสาหลักทางจิตใจอยู่ร่วมด้วยก็สามารถทำให้เรื่องเหล่านี้กลายเป็นเรื่องเล็กน้อยของชีวิตไป ม่าคุงเป็นตัวอย่างที่ดีในฐานะลูก เขาเคยทำสิ่งผิดพลาดในชีวิต เช่น ไม่ตั้งใจเรียน ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไร้แก่นสาร แต่ม่าคุงก็สามารถเปลี่ยนตัวเองได้เมื่อเขารับรู้ว่า แม่ผู้ให้กำเนิดล้มป่วยด้วยโรคร้ายแรง ม่าคุงพยายามทำทุกอย่างเพื่อดูแลแม่ของเขาให้ดีที่สุด ดังคำที่ว่า "เมื่อพ่อแม่แก่ชราก็อยากฝากผีฝากไข้ไว้กับลูก" ม่าคุงเลือกที่จะดูแลแม่ของเขาจนวาระสุดท้ายของแม่ และในมุมของลูก เขาคอยตำหนิตนเองเสมอว่า เขาดูแลแม่ไม่ดีเลย แต่ในมุมของแม่ สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ม่าคุงทำให้กับแม่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่ลูกคนหนึ่งพึงจะดูแลแม่แล้ว ดูแล้วทำให้ภาพความทรงจำเก่า ๆ ระหว่างผมกับแม่หวลกลับมาอีกครั้ง เพราะในวันนี้ผมกับม่าคุงก็ไม่ต่างกัน คือ เราไม่สามารถดูแลแม่ได้อีกต่อไป แม่ที่เหน็ดเหนื่อยมาทั้งชีวิตได้พักผ่อนอย่างสงบแล้ว สำหรับคนที่ยังมีพ่อแม่ให้คอยดูแล ยังไม่สายที่คุณจะดูแลท่าน มอบความรักความเอาใจใส่ เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราทำให้อาจจะเป็นเรื่องยิ่งใหญ่และมีความหมายสำหรับท่าน พาไปเที่ยว พาไปกินอาหารนอกบ้าน ไม่พูดประโยคทำร้ายใจโดยเฉพาะคำว่า "น่ารำคาญ" (ได้รับการจัดอันดับเป็นคำพูดที่ทำร้ายจิตใจแม่ที่สุด) ดูแลเสียตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่าจะไม่มีพ่อแม่ให้ดูแล เพื่อที่ในวันที่ท่านจากไปคุณจะได้ไม่ต้องสำนึกเสียใจที่ไม่ได้ทำหน้าที่ลูก ด้วยความระลึกถึง...แม่ผู้เป็นที่เคารพรักเสมอ หมายเหตุ มีหนังญี่ปุ่นอีกเรื่องชื่อเดียวกัน Tokyo Tower เหมือนกัน แต่เนื้อหาต่างกัน หากท่านจะหามาชมระวังจะเลือกผิดนะครับ ผมเห็นยังพอมีวางขายในกระบะดีวีดีลดราคา ลิขสิทธิ์เป็นของ EVS (ไม่ได้ค่าโฆษณาหรอกครับ) หน้าปกจะเป็นแบบที่ลงให้ดู นี่คือหนังดี ๆ เกี่ยวกับครอบครัวส่งเสริมคุณธรรม และความกตัญญู ที่อยากให้ได้ชมกันครับ Tokyo Tower: Mom and Me, And Sometimes Dad (2007) Directed: Joji Matsuoka / Starring: Kirin Kiki, Joe Odagiri, Kaoru Kobayashi, Yayako Uchida and Takako Matsu Trailler: http://www.youtube.com/watch?v=YePC2XE2LiE ขอขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล: Youtube, Asian Wiki, EVS "หยิบหนังมาเล่าเรื่อง" มีวัตถุประสงค์ที่จะหยิบยกเอาภาพยนตร์ที่น่าสนใจมาเล่าสู่กันฟัง ผ่านมุมมอง, ความคิดเห็น และการตีความจาก คนคอหนัง ซึ่งภาพยนตร์บางเรื่องอาจมีสาระประโยชน์ต่อท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อย ผมยินดีรับฟังความคิดเห็น คำติชมและข้อเสนอแนะต่าง ๆ ครับ ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้สละเวลาอ่านครับ |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | สิงหาคม 2013 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | ||||
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |