คอหนังนั่งเล่า: ย้อนตำนาน Transformers (1984-2017) หนังหุ่นยนต์แปลงร่างมาถึง ณ จุดนี้ที่กำลังจะเข้าฉายของ Transformers: The Last Knight ซึ่งปาเข้าไปเป็นภาคที่ 5 ของเฟรนไชนส์ ถ้านั่นยังไม่มากพอ ปีหน้าคุณยังจะได้ชมภาคแยกของหุ่นสีเหลือง บับเบิลบี ในยุคที่ใคร ๆ ก็พากันสร้างจักรวาลหนังของตนเอง แล้วมีหรือ ทรานส์ฟอร์เมอร์สจะไม่มีกับเขาบ้าง Transformers Universe จะมีตามมาอีก แต่ก่อนจะไปถึงวันนั้นซึ่งเป็นเรื่องของอนาคต คอหนังนั่งเล่าจะพาผู้อ่านทุกคนย้อนกลับไปสู่ความเป็นมาของสงครามหุ่นยนต์ ออโตบอทส์ และ ดิเซปติคอนส์ แห่งดาวไซเบอร์ตรอน ใน จักรวาลทรานส์ฟอร์เมอร์ส จุดเริ่มต้นของ Transformers มาจากของเล่นจากประเทศแห่งหุ่นยนต์แปลงร่าง นึกออกไหมที่ไหน และใช่ถ้าคำตอบคุณคือญี่ปุ่น และต้นแบบก็คือ Microman & Diaclone ของเล่นที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท ทาคาระ ในปี 1983 กับคอนเซ็ปต์หุ่นยนต์แปลงร่างเป็นเครื่องใช้ด้วยธีม Micro Change & Car Robot เช่น ตลับเทปคาสเซ็ท, กล้องถ่ายรูป, ปืน, กุญแจ ไล่ไปจนถึง รถยนต์, รถบรรทุก, สปอร์ตคาร์ เป็นต้น (Microman เป็นซีรีย์สของเล่นประเภทหุ่นยนต์ที่ทาคาระพัฒนาเริ่มต้นตั้งแต่ปี 1974 จนถึงปี 1983 ที่นับเป็นการเริ่มต้นของธีม Micro Change & Car Robot)
เพื่อกระตุ้นยอดขายตามแผนการตลาดที่เคยทำไว้กับของเล่นตัวท็อปของบริษัท ไม่ว่าจะเป็น G.I. Joe และด้วยความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับ มาร์เวล คอมิกส์ (อีกแล้วครับท่าน) Transfomers เลยกลายเป็นคอมิกส์ที่ได้ จิม ชูเตอร์ วางคอนเซปต์ไว้ และ บ็อบ บูเดียนสกี ทำหน้าที่เขียนเส้นเรื่องหลักโดยมีฝ่ายธรรมะคือ ‘ออโตบอทส์ (Autobosts)’ และฝ่ายอธรรมคือ ‘ดิเซ็ปติคอนส์ (Dicepticons)’ ที่ต่างทำสงครามกันอย่างหนักมากบนดาวไซเบอร์ตรอน ก่อนจะลากยาวมาสู่โลกเมื่อ 4,000 ปีก่อน กระทั่งในปี 1984 ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้งโดยมี ออพติมัส ไพรม์ เป็นผู้นำฝ่ายออโตบอทส์ และ เมกาตรอน เป็นผู้นำฝ่ายดิเซปติคอนส์
ไม่เพียงเท่านั้น ฮาสโบรลงทุนร่วมกับ ซันโบว์ โปรดักชั่น และจ้าง โตเอะ ช่วยผลิตแอนิเมชั่น Transformers ออกฉายในปี 1984 พร้อม ๆ กับคอมิกส์ และการวางจำหน่ายของเล่นในชุดดังกล่าว แน่นอนว่ามันกลายเป็นการตลาดที่ยอดเยี่ยมทำให้ Transformers กลายเป็นของเล่นสุดฮิตของเด็กอเมริกันไปในทันที Transformers ถูกต่อยอดไปสู่แอนิเมชั่นหนังโรงในปี 1986 ใน Transformers the Movie ที่ทำให้แฟนบอยพากันช็อคเมื่อฮีโร่ของพวกเขา ออพติมัสไพรม์ตาย! เพื่อหลีกทางให้ โรดิมัส ไพรม์ กลายเป็นผู้นำคนใหม่ (แต่แท้จริงคือการเปิดตัวหุ่นยนต์ของเล่นตัวใหม่ฝ่ายพระเอกนั่นเอง) แม้กระทั่งเมกาตรอนก็ไม่รอดชะตากรรมถูกอัพเกรดกลายเป็น กัลเวตรอน เช่นเดียวกัน (หุ่นยนต์ของเล่นตัวใหม่ฝ่ายผู้ร้าย)
ความน่าสนใจอีกประการหนึ่งของ Transformers the Movie คือการให้เสียงพากย์โดยนักแสดงชื่อดัง (ในยุคนั้นนะ) จัดด์ เนลสัน, อีริก ไอเดิล, เลียวนาร์ด นีมอยและ ออร์สัน เวลส์ ที่ถือเป็นงานชิ้นสุดท้ายในชีวิตเจ้าของงานหนังคลาสิก Citizen Kane แต่ในที่สุด ออพติมัส ไพรม์ ถูกนำกลับมาอีกครั้งในปี 1986 ทางทีวีแอนิเมชั่นในซีซั่นที่ 3 ก่อนที่จะยุติงานสร้างในซีซั่นที่ 4 ในปี 1987 นอกเหนือไปจากนี้ คอมิกส์ Transformers ยังมีในเวอร์ชั่นญี่ปุ่น และอังกฤษ อีกด้วย ซึ่งเวอร์ชั่นอังกฤษเป็นผลงานของ ไซมอน เฟอร์แมน ที่ภายหลังจาก บ็อบ บูเดียนสกี วางมือจากคอมิกส์เวอร์ชั่นอเมริกา เฟอร์แมนก็เข้ามาทำหน้าที่เขียนมันทั้งเวอร์ชั่นอังกฤษของตนเอง และเวอร์ชั่นอเมริกาด้วยเลย จนถึงปี 1991 ที่มาร์เวลปิดจ็อบไปในที่สุด ซึ่งทำให้คอมิกส์ เวอร์ชันอเมริกามีจำนวน 80 ฉบับ และ เวอร์ชั่นอังกฤษมีจำนวน 332 ฉบับ Transformers กลับมาอีกครั้งเพราะความผูกพันของพ่อมดฮอลลีวู้ด สตีเวน สปีลเบิร์ก และโปรดิวเซอร์ ลอเรนโซ ดิ โบนาเวนทูรา ร่วมกันเจรจาของซื้อลิขสิทธิ์จากฮาสโบร แต่สปีลเบิร์กบอกผ่านไม่ขอกำกับหนังเรื่องนี้ เพราะตัวเลือกที่เหมาะสมก็คือ ไมเคิล เบย์ ที่ตอนนั้นเพิ่งปิดกล้องหนัง The Island ไปหมาด ๆ โดยที่แรก ๆ เบย์ไม่สนใจจะทำหนังหุ่นยนต์แปลงร่างเท่าไรนัก แต่หลังจากได้ไปเยี่ยมชมบริษัทฮาสโบร และได้อบรมหลักสูตร Transformers กับประวัติศาสตร์กว่า 4,000 ปี เบย์ก็เปลี่ยนใจกำกับหนังเรื่องนี้ทันที และนั่นทำให้เกิดหนัง Transformers ที่ออกฉายในปี 2007 และทำเงินถล่มทลายทั่วโลกสูงถึง 709 ล้านดอลลาร์ ก่อนจะมีตามมาอีกจนถึงปัจจุบันก็คือภาคที่ 5 และยังลากยาวต่อไปจนกลายเป็น จักรวาลทรานส์ฟอร์เมอร์ส (Transformers Universe) จากหุ่นยนต์เด็กเล่นผ่านวันเวลาจนกลายเป็นหนังทุนสร้างฟอร์มยักษ์ คงพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า Transformers เป็นมากกว่าของเล่นเด็ก และกลายเป็นหนึ่งในสิ่งที่คนทั่วโลกรู้จัก คุ้นเคย และรอคอย ปิดท้ายด้วยรายได้บน Box Office ของ Transformers Universe ซึ่งเมื่อดูรายรับรวมทุกภาค (รวมทั้งแอนิเมชั่นที่ออกฉายในปี 1986) 3,779 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยที่่ยังไม่ได้นับภาคล่าสุด The Last Kinight เห็นแบบนี้แล้วก็ไม่น่าแปลกใจที่ทำไมพาราเมาส์พยายามเหลือเกินกับการสร้างจักรวาลทรานส์ฟอร์เมอร์สให้ได้ ขอบคุณที่มาข้อมูล: IMDb, Wikipedia, Box Office Mojo ขอบคุณที่มาภาพประกอบ: 1501bc.com, bottalk.com, Microman Forever, Transformer World 2005, Seibertron.com, Wikipedia, Legends Revealed, Cult Classics AZ, Kaijumatic - Wikidot, toonzone.net, Wikipedia, io9.gizmodo.com, TFW2005, WallpaperSafari |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | มิถุนายน 2017 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | ||||
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |