10 หนังชนโรงน่าผิดหวังปี 2560 ในมุมมองของคนคอหนัง

หลังจากที่ผู้เขียนได้คัดเลือก 10 หนังชนโรงยอดเยี่ยมปี 2560 ในมุมมองของคนคอหนังไปแล้ว เพื่อให้สมดุลกัน ผู้เขียนขออนุญาตคัดเลือก 10 หนังชนโรงน่าผิดหวังปี 2560 ในมุมมองของคนคอหนัง  ซึ่งไม่แน่ว่ามันอาจเป็นหนังยอดเยี่ยมในสายตาของท่านผู้อ่านก็เป็นได้  ถือว่าเป็นการอ่านฆ่าเวลา หรือจะเป็นการแลกเปลี่ยนมุมมองกัน   และเพื่อไม่ให้เสียเวลาเราไปดูกันเลยมีเรื่องไหนผ่านตาท่านผู้อ่านไปบ้าง แล้วคิดเหมือนหรือเห็นต่างกันเช่นไร

The Great Wall

Directed:  Zhang Yimou

หนังกำลังภายในที่มีจอมยุทธขมังธนูที่ได้ แม็ทท์ เดมอน มาสวมบทที่ต้องต่อกรกับสัตว์ประหลาดในตำนาน โดยมีฉากหลังเป็นกำแพงเมืองจีน ภายใต้การกำกับของ จางอวี้โหมว   แค่นี้ก็ไม่ควรพลาดแล้ว หากแต่มันกลายเป็นหนังโชว์พาวของจางอวี้โหมว ที่เล่นใหญ่กว่ารัชดาลัย  แต่ไม่สามารถสอดแทรกความลุ่มลึกแฝงปรัชญาเซนแบบใน Hero งานที่ถือเป็นจุดพีคของอวี้โหมว  ผลที่ได้คือ พี่แม็ทท์ก็เจ็บตัว เฮียหลิวเตอะหัวก็เจ็บตัว  หนังก็มั่วไปหมด มีทั้งฉากกองทัพห้าสีเหมือนขบวนการห้าสี  มีสัตว์ประหลาด  มีซีนสวย ๆ โชว์ลีลาแอ็คชั่น  รวม ๆ ก็คือสนุกแบบมั่ว ๆ  ถ้าไม่คิดอะไรมาก นี่คือหนังที่ตอบสนองความบันเทิง  ก็จริงอยู่ที่ว่าผู้เขียนเคยบอกว่า สนุกมากกว่า  Assasin’s Creed เสียอีก (เรื่องนี้มีหลับ) แต่เมื่อพิจารณาว่ามันคืองานของจางอวี้โหมว  บอกเลยว่าต่ำกว่ามาตรฐานครับ

xXx:  Return of Xander Cage

Directed:  D. J. Caruso

หนังของพี่วิน ดีเซล ก็ติดโผมากับเขาด้วย  งานภาคต่อและปลุกผีสายลับพันธุ์เอ็กซ์ แซนเดอร์ เคจ  ที่ได้ทั้งยิปมัน-ดอนนี่ เยน, พี่จา โทนี่จา ที่ได้บทพูดกับเขามากกว่า 2 ประโยค!และไม่ต้องถามหาช้าง , มีนักฟุตบอลที่แฟนบอลทั่วโลกรู้จัก เนมาร์  แถมพ่วงด้วย น้าแซมมวล แอล แจ็กสัน และพี่ไอซ์คูป ที่เคยแสดงนำในภาค 2  ซุปตาร์ของบอลลีวู้ด  ดีปิกา ปาทุโกณ  ซูเปอร์โมเดล รูบี โรส  แต่ดู ๆ ไป ดันนึกว่าดู Fast ตอนใหม่ซะงั้น  ต่างกันเพียงไม่มีรถซิ่ง แต่แอ็คชั่นไร้แรงโน้มถ่วงโลกยังคงมีให้ดูเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือท่ายิงแบบในหนัง จอห์น วู (ที่ยุคนี้มัน out ไปแล้ว)  แต่ก็เอาเถอะเหมือนซ้อมไว้ก่อนดูของจริง Fast 8 ของพี่วินในช่วงซัมเมอร์ส

Guardians

Directed:  Sarik Andreasyan

หนังซูเปอร์ฮีโร่สัญชาติรัสเซีย ที่ดูหนังตัวอย่างแล้วน่าดูมาก ก่อนที่จะพบบทเรียนที่ว่า อย่าหลงเชื่อหนังตัวอย่าง  หนังออกมาอย่าง ‘ง่อย’ มาก  ให้อารมณ์แบบเข้าไปดูหนังร่างทรงซูเปอร์ฮีโร่หลาย ๆ เรื่อง  บรรดาตัวฮีโร่ทั้งหลายก็เหมือนจับเรื่องโน้นเรื่องนี้มาผสมกัน  ไล่กันตั้งแต่ เอ็กซ์เมน, ฮัลค์, วินเธอร์โซลเยอร์, มิสทีก, แบล็กวินโดว์, ควิกซิลเวอร์ ฯลฯ แถมช่วงท้ายดันมีการส่งพลังให้ความหวังเดียวแบบที่เห็นใน ดราก้อนบอล, เซนต์เซย์ย่าอีก  ตกลงเลยไม่รู้ว่าพี่เขาจะสร้างหนังฮีโร่รัสเซีย หรือรวมมิตรหนังฮีโร่ทั่วโลกกันแน่   อย่างเดียวที่เข้าตาคืองานด้านภาพแบบแปลก ๆ ตา ประเภทอะไรที่ไม่น่าอยู่รวมกันได้แล้วมาอยู่ด้วยกันน่ะ   ใครชอบของแปลก (ไม่จริง) ก็ลองหามาดูได้ครับ

Ghost in the Shell

Directed:  Rupert Sanders

เสียง ‘ยี้’ ดังขึ้นทันทีที่ประกาศชื่อ สกาเล็ตต์ โจแฮนสัน มารับบทเป็น ผู้พัน ใน Ghost in the Shell งานที่สร้างจากมังงะ/แอนิเมชั่นของญี่ปุ่น  ไม่ใช่ว่าโจแฮนสันจะแสดงไม่ดี She ก็ทำอย่างดีที่สุดตามมาตรฐานของเธอ แต่เธอเป็นอเมริกันในหนังที่ตัวละครหลักเป็นสัญชาติญี่ปุ่น  เพื่อผลทางการตลาดทั่วโลก  หากแต่ปัญหามาจากบทหนังที่พยายามแทรกประเด็นต่าง ๆ เยอะจนย้วย ชวนง่วงนอน  ยังไม่นับการที่ระหว่างดูแล้วพาลนึกถึงหนังหลายต่อหลายเรื่อง The Matrix, RoboCop, A.I., I Robot   แถมผู้เขียนยังตกใจทุกครั้งที่เห็นโจแฮนสันในร่างผิวแอนดรอยด์สีนวล นึกว่าเธอล่อนจ้อนทุกทีสิ ตกใจหมดเลย

Alien:  Covenant

Directed:  Ridley Scott

อ่านไม่ผิดครับ หลังจากกลับมาสานต่อเรื่องราวของผู้สร้างที่ปูไว้ใน Prometheus ปู่ริดลีย์ สก็อตต์ เหมือนพยายามทำ Alien งานต้นฉบับแจ้งเกิดของปู่ใหม่อีกรอบในวันที่เทคนิคมันไปไกลมาก แต่พล็อตยังคงเดิมเหมือนดูหนังต้นฉบับซ้ำ  ลูกเรือที่หลงออกนอกเส้นทาง ลงบนดาวที่มีตัวเอเลียน  ดรอยด์ที่พยายามหักหลังมนุษย์  และผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ต้องหันมาต่อกรกับเอเลียน  มีอะไรใหม่จากที่เคยดูไหม?   ทั้ง ๆ ที่ปู่ก็หันไปเล่นประเด็นคนสร้างเอเลียนแล้วแต่ไหงปู่เดินกลับมาทำซ้ำอีกก็ไม่รู้ (คงหลงทาง)  เป็นงานที่ผู้เขียนตั้งความหวังไว้สูงมาก แต่ก็ผิดหวังมากเช่นเดียวกัน  แต่ก็นะ ถ้าปู่ยังจะสร้างอีกภาค ผู้เขียนก็คงต้องตามดูอยู่ดี

The Mummy

Directed:  Alex Kurtzmane

หนังที่ยูนิเวอร์แซลตั้งใจใช้เปิดจักรวาลมืด (Dark Universe) แต่กลับแป้กจนผู้เกี่ยวข้องเสียหน้า  ว่ากันว่าที่หนังเจ๊งยับไปไม่เป็นเพราะ พี่ทอม ครูซ คนดีของเราเข้าไปทำหน้าที่ผู้กำกับเงาในฐานะที่ข้าใหญ่ เอ๊ย...มีประสบการณ์เพียบ มากกว่าผู้กำกับตัวจริงอย่าง อเล็กซ์ เคิร์ทซแมน (ใครเหรอ?) ก็แล้วกัน   การที่มีทั้งมัมมี่ (ที่เปลี่ยนเป็นเพศหญิงหุ่นเป๊ะ) และยังมีมิสเตอร์ไฮด์อีก ก็เหมือนมาแย่งซีนกัน  บรรยากาศความสะพรึงหายไป กลายเป็นหนังแอ็คชั่นซูเปอร์ฮีโร่ที่ต้องต่อสู้กับผีร้ายแทน  หนังเล่าทุกอย่างแบบเดาได้ทั้งเรื่องแล้วจะเหลืออะไรที่เรียกว่า ‘สนุก’  ความดีงามอย่างเดียวของหนังเรื่องนี้คือทำให้จักรวาลมืดได้มืดจริง ๆ (อนาคตมืด)

Transformers:  The Last Kinght

Directed:  Michael Bay

ป๋าเบย์ ไมเคิล เบย์ ยังคงกลืนน้ำลายกลับมากำกับหนังหุ่นยนต์แปลงร่างเป็นภาคที่ 5 แล้ว  และก็เหมือนภาคก่อน ๆ หนังยังคงแถประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติเกี่ยวโยงกับพวกออโตบอทเหมือนทุกภาคนั่นล่ะ  คราวนี้เป็นเรื่อง กษัตริย์อาเธอร์  และก็ตามกระแส นี่คือหนังที่จะเปิดจักรวาลทรานฟอร์เมอร์ส (ว่าเข้าไปนั่น)  แต่บอกตามตรงนะ ภาคนี้มันสนุกน้อยที่สุด หรือพูดกันตรง ๆ ก็คือ ไม่สนุกเลย!   ใครที่เป็นแฟนของออพติมัสไพร์มส กว่าจะได้เห็นเขาก็ปาเข้าไปค่อนเรื่อง  คราวนี้ชูให้บับเบิลบีเด่นเป็นพิเศษ ซึ่งก็ไม่ใช่อะไรมาก เพราะปีหน้า (2018) เราจะได้ดูงานแยกวงฉายเดี่ยวของบับเบิลบี  

Valerian and the City of a Thousand Planets

Directed:  Luc Besson

หลังจากที่เคยมีไอเดียล้ำ ๆ ใน The Fifth Element ผลงานตั้งแต่ปีมะโว้โน่น  ลุค แบซง ขอทำตามฝันของตัวเองด้วยการนำเอา Valerian มาขึ้นจอ โดยเลือกตอนที่ชื่อ Valerian and the City of a Thousand Planets มาขึ้นจอในยุคที่เทคโนโลยีรองรับจินตนาของแบซงได้แล้ว  ทุกอย่างน่าจะดีงาม แต่ในเมื่อคนดูผ่านตาทั้ง Star Wars ไม่รู้กี่ภาค และตื่นตากับโลกของชาวเนวีใน Avatar ไปแล้ว  Valerian เลยจ๋อยสนิท เป็นงานที่ดูจบแล้วก็แล้วกัน  ไม่มีอะไรใหม่  สิ่งเดียวที่ดีงามในหนังที่นึกออกคือใบหน้าของ คารา เดอลาวีญ  ที่โดดเด้งออกมาชนิดวัวตายควายล้มกันเลย

Geostorm

Directed:  Dean Devlin

หนังหายนะภัยพิบัติจาก ดีน เดฟลิน คู่หูของ โรแลนด์ เอมเมอริช  เจ้าพ่อหนังภัยพิบัติ  ทุกอย่างมาในแบบที่ทั้งคู่เคยทำมาแล้วไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง  จะเปลี่ยนก็แค่ลักษณะของภัยพิบัติเท่านั้น  เหตุผลเดียวที่คุณควรดูคือ คราวนี้ Landmark อะไรที่จะโดนถล่มบ้าง และที่สำคัญคือต้องอย่ามีคำถามใด ๆ ผุดขึ้นในหัวระหว่างดู ไม่ว่าจะเป็นตรรกทางวิทยาศตร์ ความน่าเชื่อในบทที่นักแสดงได้รับ  ก็จะมีใครคิดบ้างว่า วิศวกรผู้คิดค้นระบบควบคุมธรรมชาติสั่งได้จะเป็นนักแสดงแบบ เจอราด บัตเลอร์  เจ้าของซิกแพ็คที่เคยถอดเสื้อทั้งเรื่องและตะคอกใส่กล้อง “ ข้าคือ สปาร์ตัน”  จากหนัง 300  เป็นอันจบ เล่ามาถึงตรงนี้คุณยังจะเชื่อไหมว่าพี่เจอราดแกเป็นอัจฉริยะที่สามารถสร้างอะไรล้ำ ๆ ได้

Justice League

Driected:  Zack Snyder

ปิดท้ายด้วยงานรวมพลคนดีซี  ที่พากันกอดคอตายบน Box Office ไม่พอ ยังถูกคู่แข่งอย่างมาร์เวลล้อไปอีกนานหลายปี  ก็จะไม่ให้เป็นเช่นนั้นได้ไงในเมื่อ  ระดับตัวท็อปอย่าง แบทแมน, ซูเปอร์แมน, วันเดอร์วูแมน, เดอะแฟลช, อควาร์แมน และตัวแถม ไซบอร์ก มารวมตัวกันในหนัง Justice League แต่ผลที่ได้มันไม่ใช่ชุดใหญ่ไฟกระพริบ แบบที่คนดูรู้สึกตอนที่ได้ดู Avengers ภาคแรก ไม่มีอะไรที่อลังแบบนั้นเลย   หนังอาจสนุกกว่า BvS แต่การที่มีผู้กำกับสองคน แซ็ค ซไนเดอร์ ทำไปค่อนเรื่อง แล้วให้ จอช วีดอน มาทำต่อ (หรือแก้ไข) ไม่รู้ว่ามันจะดีกว่าเดิม หรือแย่กว่าเดิม  ก็จริงอยู่ที่ว่าหนังต้องพึ่งพาเสน่ห์ของวันเดอร์วูแมน  และการขึ้นจอขอเดอะแฟลช และอควาร์แมน มันจะได้เสียงบวกจากคนดูและนักวิจารณ์ แต่ด้วยรายรับที่ต่ำกว่าประมาณการจนน่าใจหาย  มันทำให้จักรวาลดีซีสั่นสะเทือนจ นต้องรื้อกันใหม่ทั้งหมด  แต่ในฐานะที่เป็นแฟนดีซี (และมาร์เวล...ใครจะว่าคนสองใจก็ช่าง) ก็ต้องเอาใจช่วยกันต่อไป ให้เจอแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

ใน 10 เรื่อง เป็นหนังบล็อกบัสเตอร์ไปแล้วเกินครึ่ง ก็ไม่รู้ว่ามาตรฐานผู้เขียนสูงเกินไป หรือหนังมันน่าผิดหวังจริง ๆ อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน   แฟนคลับบรรดาหนังเหล่านี้ก็อย่าเพิ่งดรามาใส่ผู้เขียนนะครับ ถือว่าอ่านกันขำ ๆ ก็แล้วกัน

ปี 2561 ค่อยเริ่มต้นนับหนึ่งกันใหม่อีกครั้งสำหรับ ‘หนังชนโรง’

ขอให้ความรัก ความหวัง และกำลังใจ คงอยู่กับทุก ๆ ท่าน

ขอให้ความสุข ความปรารถนา เป็นจริงในทุกสิ่งที่หวังครับ

สวัสดีปีใหม่ 2561