คอหนังนั่งเล่า:  ล่า 3 ยุค อาชญากรรมไม่เคยเปลี่ยน!

การกลับมาของ ‘ล่า’ ละครดรามา-อาชญากรรม ที่กำลังถูกกล่าวขานกันในแง่ของความ ‘โหดสัส’ ที่ทวีคูณหนักขึ้นตามยุคสมัยที่เรื่องรุนแรงดูจะเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน

ก่อนจะไปต่อ มาทวนเรื่องราวกันก่อน  ‘ล่า’ เป็นเรื่องราวของแม่บ้านที่ชื่อ มธุสร ที่ถูกสามีผู้ติดพนันทำร้ายร่างกาย รีดไถเงิน จนเธอตัดสินใจหย่าและพาลูกผึ้ง มธุกร ย้ายออกมาอยู่ลำพัง  แต่ก็มิวายถูก 7 ทรชนรุมโทรมทั้งตนเอง และลูกสาว  เหตุการณ์ร้ายส่งผลให้ผึ้งเสียสติ  มธุสรก็เจ็บปางตาย แม้ตำรวจจะตามจับ 7 ทรชนได้ แต่ก็ด้วยช่องโหว่ของกฎหมายทำให้พวกมันลอยนวล  มธุสรได้แต่เก็บกดความโกรธจนกระทั่งเธอได้พบกับสตรีลึกลับชาวญี่ปุ่นที่สอนเธอว่า “ความพยาบาทคือของหวาน”  มธุสรได้เปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่ง ‘รุ้ง’ หญิงสาวลึกลับที่ทวงแค้นฝังหุ่นจากบรรดาเหล่าทรชนทั้งเจ็ดอย่างสาหัสสากรรจ์

ยอมรับว่าเมื่อไรที่จะมีการรีเมก ‘ล่า’ อีกครั้ง  หากย้อนกลับไปเมื่อปี 2537  ละครเรื่อง ‘ล่า’ เคยถูกสร้างมาแล้วถึง 2 ครั้ง!

ย้อนรอยล่า

ครั้งแรกในรูปแบบภาพยนตร์  ออกฉายในปี 2520 กำกับการแสดงโดย ไพรัช กสิวัฒน์   โดยมธุสรได้ อรัญญา นามวงศ์ มาสวมบท และ ลลนา สุลาวัลย์ เป็น ผึ้ง  ส่วนสามีตัวร้ายตกเป็นของ อนันต์ สัมมาทรัพย์  

ส่วนชมรมคนรักมธุสร ฟากลนายตำรวจตกเป็นของ ลักษณ์ อภิชาติ และ กุลชาติ เป็นของพระเอกตลอดกาล สมบัติ เมทะนี   สุดท้ายที่ขาดไม่ได้คือบท หัวหน้าเจ็ดทรชน ไอ้แป๊ว ตกเป็นของ สมภพ  เบญจาธิกุล  ซึ่งบทไอ้แป๊วได้ชื่อว่าเป็นบทไอ้ชั่วที่สุดตลอดกาลของหนังไทยคนหนึ่งเลยทีเดียว

ล่า กลับมาอีกครั้งในปี 2537 ในรูปแบบละครทีวีภายใต้การกำกับของ สุพล  วิเชียรฉาย  คนที่มารับบทมธุสรก็คือมือวางอันดับหนึ่งนักแสดงหญิงล่ารางวัล สินจัย เปล่งพานิช  ส่วนบทผึ้งได้ ทราย เจริญปุระ มารับบทดังกล่าว และเป็นการแสดงครั้งแรกของทราย   บทสามีเก่าตกเป็นของนักแสดงเจ้าบทบาท  นพพล โกมารชุน  ส่วนชมรมคนรักมธุสรในยุคถัดมาได้ จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์ เป็นนายตำรวจ  และ กุลชาติ ได้ เล็ก ไอศูรย์ มารับบท  ส่วนตัวการสำคัญ ไอ้แป๊ว ตกเป็นของ วิทิต แลต  ซึ่งก็ถูกกล่าวขานในความเลวระยับไม่แพ้ต้นฉบับ

จนมาถึงปี 2560 ล่าก็ถูกนำมากลับมารีเมกใหม่อีกครั้ง  เคยนึกอยู่เหมือนกันว่าถ้ารีเมกแล้วจะมีนักแสดงหญิงคนใดที่มาสวมบทมธุสร เพราะพี่นกสินจัยเธอแสดงได้ขั้นเทพจนกลายเป็นภาพจำของคนดู   กระทั่งเมื่อทราบว่า ผู้กำกับ สันต์ ศรีแก้วหล่อ เลือก หมิว ลลิตา ปัญโญภาส จะมาสวมบทดังกล่าว ก็สามารถการันตีความสามารถได้เป็นอย่างดี  สำหรับบทผึ้ง ตกเป็นของ เซียงเซียง พรสรวง รวยรื่น  ที่เคยผ่านเวทีมิวสิคัลรัชดาลัยมาแล้ว   หันมาที่บทสามีตัวเลวในยุคนี้ได้อดีตนักแสดงตัวร้าย ศตวรรษ ดุลยวิจิตร มาสวมบทได้อย่างน่าถีบ  ชมรมคนรักมธุสรยุคไลน์เป็นของ พี่แท่ง ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง ในบทนายตำรวจ  และบทกุลชาติ เป็นของ กรุณพล  เทียนสุวรรณ  รายหลังมักได้บทชายหนุ่มแสนดีที่มีแต่กินแห้วเป็นประจำ   และบทไอ้แป๊วสุดชั่วในยุคนี้ได้ลูกผู้ชายตัวจริง สมชาย เข็มกลัด มาสวมบทชนิดอินเนอร์มาเต็ม  เห้ได้ใจเหลือเกิน 

ตัวละครผู้กองนายตำรวจที่แอบรักมธุสร  ปี 2520 คือ ลักษณ์  อภิชาต, ปี 2537 เป็นของ จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์ และปี 2560 พี่แท่ง ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง รับหน้าที่นี้  แม้จะในเรื่องจะมีชื่อแตกต่างกัน แต่นักแสดงทั้งสามท่านล้วนแต่เคยแสดงบทตำรวจมาหลายต่อหลายเรื่องจนแทบจะหลับตาแสดงกันได้เลยทีเดียว

อธิวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เป็นนักแสดงชายคนเดียวที่แสดงในล่าปี 2537 ในบท ชัย หนึ่งในทรชน ส่วนปี 2560 เลื่อนขั้นในบท นายใหญ่ ที่หนุนหลังแก๊ง 7 ทรชน  ส่วนนักแสดงฝ่ายหญิง นภาพร หงสกุล เป็นอีกคนหนึ่งที่เคยแสดงในบทตัวประกอบมาแล้วทั้งสองเวอร์ชั่น

ที่จะต้องพูดถึงคือ ฉาก 7 ทรชนรุมโทรมสองแม่ลูก  ที่หดหู่ และทำร้ายความรู้สึกของคนดูในแง่ที่สะท้อนให้เห็นความเลวร้ายของมนุษย์ที่กระทำต่อกันโดยขาดซึ่งศีลธรรม  แน่นอนความรุนแรงในด้านการนำเสนอถูกทวีคูณมากขึ้นตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป  ชนิดที่ว่าเมื่อย้อนกลับไปดูเวอร์ชั่นหนังโรงปี 2537 เปรียบเทียบกับล่าสุด 2560  ต้องเรียกได้ว่า มาไกลมากในแง่ความรุนแรง  นักแสดงแต่ละคนก็ถ่ายทอดได้โรคจิตสุด ๆ  ขนาดที่ว่านักแสดงที่คนดูติดภาพจำในความตลกอย่าง แจ๊กแฟนฉัน, เผือก คนกอง หรือกระทั่งหน้าตี๋ละอ่อนอย่างซีดีเดอะสตาร์ ก็ล้วนแต่พลิกบทบาทได้ชั่วสุดใจ

นอกจากฉากรุมโทรมที่ทรมานจิตใจคนดูแล้ว  ฉากเอาคืนของมธุสรในเวอร์ชั่น 2560 ก็เป็นที่วิพากษ์ถึงความรุนแรงชนิดต้องใช้คำว่า โหดสัส สำหรับละครทีวี จนผู้เขียน และคนดูอีกจำนวนไม่น้อยเกิดอาการเครียด  บางทีผู้สร้างอาจได้รับอิทธิพลมาจากบรรดาหนังแนวทรมานบันเทิง (หนังตระกูล Saw เป็นต้น) ก็เป็นได้    จริงอยู่ที่ว่า ก่อนหน้านี้ละครได้ถ่ายทอดความเลวร้ายของ 7 ทรชนให้คนดูเห็น และเมื่อถึงเวลาก็ควรจะได้รับการชดใช้อย่างสาสม (รึเปล่า?)  นั่นเปรียบเสมือนเผือกร้อนที่ผู้สร้างโยนใส่คนดูถึงเส้นศีลธรรมในใจของคนดูที่มีต่อการกระทำของมธุสรกับเหล่าทรชน

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม  ล่า ที่สร้างจากบทประพันธ์ของ ทมยันตี  ซึ่งผู้เขียนต้องออกตัวก่อนเลยว่าไม่เคยอ่านนวนิยายเรื่องนี้เลย แต่เชื่อว่าผู้สร้างทั้งสามยุคน่าจะพยายามเดินตามรอยบทประพันธ์พอสมควร และมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยนั้น ๆ  

แม้กาลเวลาจะผ่านไปนับจากเวอร์ชั่นแรกปี 2520 ถึง ปัจจุบันปี 2560 นับได้ 40 ปีพอดี  สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงก็คือ  เรา ๆ ท่าน ๆ ยังคงได้เห็นข่าวรุมโทรมข่มขืนโดยไม่มีทีท่าว่าจะลดลง หนำซ้ำยังหนักข้อขึ้นกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำไป  คงไม่ใช่เรื่องสบอารมณ์นักเมื่อกาลเวลาไม่สามารถบั่นทอนความเลวร้ายของคนลงได้   จึงเป็นกรณีศึกษาว่า สังคมที่เปลี่ยนไป แต่อาชญากรรมยังคงอยู่  เป็นเพราะกฎหมาย ผู้รักษากฎหมาย หรืออะไรก็ตามที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้

บทความชิ้นนี้จึงทำหน้าที่ได้เพียงแค่เล่าสู่กันฟัง โดยยังคงหวังว่า สักวันมันจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นกับสังคมที่เราอาศัยอยู่  คงต้องฝากไว้กับลุงตู่เสียแล้วกระมัง?

ขอบคุณที่มาข้อมูล:  Wikipedia, Youtube, One

ขอบคุณที่มาภาพประกอบ: THAI FILM FOUNDATION , Manager Online, YouTube,  LINE TV, THE STANDARD, Dek-D.com, mheesara.com