หนังชนโรง:  Tomb Raider ลาร่า...ล่าสมบัติ

Tomb Raider เวอร์ชั่นรีบูท ที่ย้อนกลับไปเล่าเรื่องราวของสาวน้อยทายาทนักธุรกิจพันล้าน ลาร่า ครอฟท์  ซึ่ง ริชาร์ด พ่อของเธอได้หายสาบสูญไประหว่างตามรอย ฮิมิโกะ ราชินีปีศาจ  ลาร่าพบบันทึกลับที่พ่อของเธอทิ้งไว้ให้ ก่อนจะออกเดินทางสู่แถบทะเลมังกรปีศาจที่ได้ชื่อว่าอันตรายที่สุด  โดยทายาทกัปตันเรือ ลู เร็น ช่วยนำทาง  ทันทีที่เข้าสู่เขตแดนเรือก็ถูกทะเลคลั่งจนอัปปาง  ลาร่ารอดมาถึงเกาะลึกลับได้สำเร็จและได้พบกับกลุ่มสำรวจนำโดย แมธิอัส โวเกล ที่มุ่งมั่นจะค้นหาพลังแห่งฮิมิโกะเพื่อใช้ในการครอบครองโลก

ลาร่า ครอฟท์ ชื่อนี้สำหรับคอเกมไม่มีใครจะไม่รู้จัก  ส่วนคอหนังเมื่อเอ่ยชื่อนี้ ใบหน้าริมฝีปากอวบอิ่มของขุ่นแม่ แองเจลิน่า โจลี่ ลอยเด่นขึ้นมาทันที กับ Lara Croft:  Tomb Raider  ในปี 2001 ที่เหมือนร่างอวตารออกมาจากเกม  แต่ด้วยความล้มเหลวของหนังภาคสอง Lara Croft  Tomb Raider:  The Cradle of Life หนังเลยไม่มีภาคสามตามออกมาอีก แถมด้วยขุนแม่โจลี่ก็บ๊ายบายกับการสวมบทสาวล่าสมบัติ  แต่ถึงกระนั้นก็มีความพยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะนำ Tomb Raider กลับมาขึ้นจออีกครั้ง นักแสดงสาวที่มีชื่อติดโผในการเป็น ลาร่า ครอฟท์ คนใหม่ (เจนนิเฟอร์ เลิฟ เฮวิทท์ (ตู้มตู้ม ฉันรู้ซัมเมอร์ที่แล้วเธอทำอะไร), คายา สโคดิลาริโอ (เมซรันเนอร์), เมแกน ฟ็อกซ์ (เซ็กซี่ไปไหม?), คริสเต็น สจ๊วร์ต (หวานใจแวมไพร์ทไวไลท์), โอลิเวีย ไวด์, เดซีย์ ริดลีย์ (ไปอยู่ในสตาร์ วอร์สซะแล้ว), คาร่า เดอลาวีน (สวยแบบวัวตายควายล้ม), เอมิเลีย คลาร์ก (ซาร่าล่าคนเหล็ก) และ เชียชา โรแนน (สายดราม่าล่ารางวัล) แต่สาวเจ้าที่ถูกเลือกกลับเป็น เอลิเซีย วิกันเดอร์ ที่ได้เป็นร่างทรง ลาร่า ครอฟท์ คนล่าสุด

ลาร่า ครอฟท์ ของ  เอลิเซีย วิกันเดอร์  ไม่อาจเปรียบเทียบในด้านภาพลักษณ์กับตัวท็อปขุ่นแม่โจลี่ได้  แต่เมื่อหนังใช้วิธีกลับไปเล่าเรื่องราวของลาร่าก่อนจะกลายเป็นนักล่าสมบัติ  ทำให้ภาพลาร่า ครอฟท์ของวิกันเดอร์ เป็นเด็กสาวที่มีความเชื่อมั่นสูง เด็ดเดี่ยว หัวรั้น (แต่ไม่หัวร้อน) ประสบการณ์น้อย และลึก ๆ ถวิลหาความรักจากพ่อ  ซึ่งทำให้คนดูได้เห็นลาร่าเด็กสาวธรรมดาที่ตกอยู่ในสถานการณ์เอาเป็นเอาตาย เลยทำให้คนดูเข้าถึงง่ายกว่า และเอาใจช่วยมากกว่าเวอร์ชั่นขุ่นแม่โจลี่  สิ่งที่น่าสนใจคือ ถ้ารายได้ Box Office ไปได้สวย ลาร่า ครอฟท์  จะกลายเป็นเฟรนไชส์ติดตัวของวิกันเดอร์ไปในทันทีเลย  และก็คงน่าสนใจขึ้นในภาคต่อ ๆ ไป (หนังทิ้งเชื้อไว้ให้คนดูเห็นว่ามีภาคต่อได้เลย)

วิกันเดอร์ต้องแบกหนังทั้งเรื่องไว้ เลยทำให้นักแสดงที่เหลือซึ่งล้วนแต่เป็นเพศชายกลายเป็นได้แค่ไม้ประดับที่ไม่ได้โดดเด่นอะไรเลย ไล่กันตั้งแต่ แดเนียล วู ในบท ลู เร็น ลูกชายของกัปตันเรือที่มีปมในใจไม่ต่างกับลาร่า  พ่อของเขาพาริชาร์ดไปเกาะปีศาจแล้วหายสาบสูญเหมือนกัน  หนังเปิดประเด็นนี้แล้วก็ทิ้งไปซะงั้น   สุดท้ายบทลู เร็น ของวูจึงเป็นได้แค่ผู้ช่วยนางเอกเท่านั้น แต่เหตุผลแท้จริงคือ กลยุทธทางการตลาดในประเทศจีน ที่หนังฮอลลีวู้ดยุคนี้ต้องมีนักแสดงจีนอย่างน้อยหนึ่คนขึ้นไปเสมอ

โดมินิก เวสต์ เป็น ริชาร์ด ครอฟท์ พ่อนักล่าสมบัติของลาร่า ที่ทิ้งทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นธุรกิจหมื่นล้าน ลูกสาวตนเอง เพื่อเข้าป่าล่าเสือดำ..เอ๊ย..ผิดเรื่อง...ล่าสมบัติโบราณต่างหาก   เวสต์ นักแสดงชายระดับตัวประกอบที่ไม่เคยมีผลงานอะไรเป็นภาพจำของคนดู  ไม่ได้ทำให้คนดูรู้สึกถึงความรักลึก ๆ ที่ซ่อนอยู่ของพ่อที่ทอดทิ้งลูก   ไม่แน่ใจว่าควรโทษบทหนัง หรือพลังการแสดงของเวสต์ที่ทำให้คนดูรู้สึกเฉย ๆ

สุดท้ายตัวร้ายของเรื่อง แมธิอัส โวเกล  ที่ได้นักแสดงขาประจำตัวร้ายอย่าง วอลตัน ก๊อกกินส์  มารับบท  ก๊อกกินส์ที่เคยเด่นมาก ๆ ในหนังของเควนติน ตารันติโน่ The Hateful Eight, Django Unchained หรือที่เพิ่งผ่านตาไป Maze Runner:  The Death Cure (ล่าสุดก๊อกกินส์จะไปโผล่ในหนังมาร์เวล Ant-Man and the Wasp)  กลับไม่ได้ฉายแววชั่วได้มากพอในหนังเรื่องนี้  จนดูเป็นตัวประกอบดาด ๆ มากกว่าระดับบอส   

โรอาร์ ธัก ผู้กำกับชาวนอร์เวย์ที่มีผลงานหนังภัยพิบัติทำเงินสูงสุดของนอร์เวย์ The Wave จนไปเข้าตาผู้สร้าง และถูกเลือกมารีบูท  ธัก กับทีมเขียนบทนำพล็อตในเกมทั้งสองภาคมารวมกัน  และใช้วิธีเล่าเรื่องเริ่มต้นใหม่ของลาร่า (ซึ่งกลายเป็นพิมพ์นิยมไปแล้วของฮอลลีวู้ด  เจมส์ บอนด์ ของ แดเนียล เคร็ก ก็ใช้วิธีนี้)  ซึ่งทำให้ในแง่ความสด คนดูที่ไม่เคยเล่นเกม หรืออินกับเกมก็สามารถสนุก และเข้าถึงได้ง่าย  ในขณะเดียวกันด่านที่ต้องฝ่าแบบในเกมก็มีไว้เอาใจคอเกมด้วย  ซึ่งที่ผ่านมาหนังสร้างจากเกมมักเจอปัญหาเรื่องเอาใจคอเกมจนคนดูหนังวงกว้างไม่รู้เรื่อง  แต่สำหรับ Tomb Raider เวอร์ชั่นนี้กลับทำส่วนผสมนี้ได้อย่างลงตัวกว่า 

หนังมีการเล่นกับประเด็นเด็กที่ถูกพ่อทิ้งผ่านตัวละครอย่าง ลาร่า กับ เร็น แต่เปิดไปเท่านั้นแล้วก็ไม่ได้พูดถึงอีก เช่นเดียวกับ พ่อที่ต้องทิ้งลูก ผ่านตัวละคร ริชาร์ด พ่อที่รักแต่ทิ้งลูกเพื่อไปปกป้องโลก กับ โวเกล พ่อที่รักแต่ทิ้งลูกเพื่อไปหาทางครอบครองโลก  ก็อีก หนังเปิดประเด็นไว้แต่ก็ทิ้งไปซะงั้นอีกเหมือนเดิม  สุดท้ายแล้วก็เลยทำให้ Tomb Raider เวอร์ชั่นนี้เป็นหนังผจญภัยล่าสมบัติของสาวน้อยที่ยังไม่ชำนาญ โดยต้องฝ่าด่านต่าง ๆ ไปพร้อมกับตีปริศนา  ส่วนจะสนุกมากแค่ไหน หรือฟินไปกับหนังสร้างจากเกมรึเปล่า  คงต้องแล้วแต่ความชอบของแต่ละท่านครับ

เอาเป็นว่า หนังสนุก มีผจญภัย มีลุ้น ไม่ต้องคิดเยอะและใช่เลยสำหรับคนเล่นเกม Tomb Raider

ความรักของคนเป็นพ่อ อาจไม่ได้แสดงออกอย่างชัดเจนเหมือนที่แม่มีต่อลูก  แต่พ่อที่มีความเป็นพ่อทุกคน ล้วนแต่รัก และปรารถนาจะเห็นลูกของตนเองมีเส้นทางที่ดีในชีวิตเสมอ

Tomb Raider (2018)  Directed:  Roar Uthaug/Starring:  Alicia Vikander, Dominic West, Walton Goggins, Daniel Wu, Kristin Scott Thomas/Screenplay:  Geneva Robertson-Dworet, Alastair Siddons/Story:  Evan Daugherty, Geneva Robertson-Dworet/Based on Tomb Raider by Crystal Dynamics/Music:  Junkie XL/Director of Photography:  George Richmond/Edited:  Stuart Baird, Tom Harrison-Read/Distributed:  Warner Bros. Pictures/Running time:  118 Mins./Rated:  PG-13

Trailer:   https://youtu.be/RimH_8LN_VQ  by  Warner Bros Thailand   

Critics คะแนนวิจารณ์:   IMDb:  7.6/10  http://www.imdb.com/title/tt1365519/

Rotten Tomatoes:  Tomatoemeter Not Available https://www.rottentomatoes.com/m/tomb_raider_2018/

ย้อนหลังวันวาน หนังลาร่า ล่าสมบัติ กับ ขุ่นแม่โจลี่

ลาร่า ครอฟท์ กลายเป็นไอคอนสาวนักล่าสมบัติที่มีตัวละครไอดอลอย่าง อินเดียน่า โจนส์ เป็นต้นแบบ และเมื่อถูกสร้างเป็นภาพยนตร์  ทันทีที่มีการประกาศนักแสดงสาวที่มารับบท ลาร่า ครอฟท์ คือ แองเจลิน่า โจลี่  เท่านั้นล่ะ คอเกม และไม่เกมก็พากันปรบมือรัวให้แก่เธอทันที  และนี่คือหนัง ลาร่า ครอฟท์ ทั้งสองเรื่องของขุ่นแม่โจลี่ ไม่ว่าหนังจะดีหรือแย่แค่ไหน แต่อย่างน้อยสัก 1 ครั้งในชีวิตที่ควรหามาชม

Lara Croft:  Tomb Raider (2001)  Directed:  Simon West

ลาร่า ครอฟท์ สาวล่าสมบัติชื่อดังที่ต้องเข้าไปเกี่ยวพันกับการล่าสมบัติโบราณในตำนานขอม ซึ่งเธอต้องหาทางถอดปริศนาและหยุดยั้งแผนการร้าของทรินิตี้ที่คิดใช้พลังแห่งโบราณครอบครองโลก

ในหนังมีอะไร?   ขุ่นแม่โจลี่ตอนหน้าใส กำลังดัง ในคอสตูมเสื้อกล้ามตัวฟิต กางเกงขาสั้น ริมฝีปากอวบอิ่ม, หนังกำกับโดย ไซมอน เวสท์ จากหนังแอ็คชั่นคนคุกสุดระห่ำ Con Air  ที่น้านิกต้องฉะกับเดนคุกทั้งเครื่องบิน (จำกันได้ไหม?),  ฉากหลังภายนอกเป็นนครวัด และภายในดูก็รู้ว่าในสตูดิโอ, หนังมี แดเนียล เคร็ก สมัยยังไม่ดังในบทเจมส์ บอนด์ ด้วยนะเออ และ จอห์น วอร์ยซ์ พ่อในชีวิตจริงของขุ่นแม่โจลี่มารับบทเป็น ริชาร์ด พ่อของลาร่า 

Lara Corft:  Tomb Raider The Cradle of Life (2003) Directed:  Jan de Bont

ลาร่า ครอฟท์ ได้รับการขอร้องจาก MI6 (ไม่พึ่งเจมส์ บอนด์เหรอ?) ในการตามหากล่องแพนโดร่า ที่สาบสูญ ซึ่งใครก็ตามที่ได้กล่องแพนโดร่าไป จะมีพลังควบคุมกาลเวลาได้  และทรินีตี้ก็ต้องการครองครองเช่นเดียวกัน

ในหนังมีอะไร?  ขุ่นแม่โจลี่ เซ็กซี่ตัวท็อปในชุดแนบเนื้อสีเงิน (ภาคนี้ไม่นุ่งขาสั้นแล้วนะจ๊ะ), หนังกำกับโดย ยาน เดอ บองต์ ที่เคยผลงานดัง Speed เร็วกว่านรก ที่ทำให้พี่เคียนู รีฟส์ กลายเป็น แอ็คชั่นฮีโร่คนใหม่ (ตอนนั้นนะ) และดังยาวมาจนทุกวันนี้ กับหนังบ้านผีเฮี้ยน The Haunting ที่มีป๋าเลียม นีสัน  และคนที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ยอมรับว่า เฮี้ยนมาก ๆ ที่มีผีแต่ไม่น่ากลัวอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว, หนังมี เจอร์ราด บัตเลอร์ สมัยยังไม่ดังจาก กรูคือ สปาร์ตาร์ 300 ออร่าพี่เขายังไม่มาเลย และ จอห์น วอร์ยซ์ พ่อในชีวิตจริงของขุ่นแม่โจลี่ กลับมารับบทเป็น ริชาร์ด พ่อของลาร่า มีฉากดราม่าพ่อกับลูกเจอกันด้วย ส่วนในชีวิตจริง ภาคแรกทำให้โจลี่และวอร์ยซ์ พ่อลูกกลับมาคุยกัน หลังจากผิดใจกันไปหลายปี  ส่วนภาคสองทำให้สองพ่อลูกคู่นี้บาดหมางใจกันอีกแล้วครับท่าน!

ขอบคุณที่มาข้อมูล:  IMDb, Wikipedia, Youtube, Rotten Tomatoes, WarnerBros Thailand

ขอบคุณที่มาภาพประกอบ:  YouTube, dailydead.com, The Music of Tomb Raider, technobuffalo.com, geektyrant.com, playm.de, Collider, MetalBridges.com, lrmonline, MyMBuzz, CGMeetup, imdb.com, Subscene, tvzap.kataweb.it, por-kha.blogspot.com, Heroic Hollywood