หนังจอเล็ก:  The Space Between Us ที่ว่างระหว่างดาว คือรักเราระหว่างใจ

การ์ดเนอร์  ทารกที่เกิดขึ้นในครรภ์ของซาราห์ หัวหน้าทีมนักบินอวกาศ ในระหว่างภารกิจเดินทางจากโลกสู่ดาวอังคาร 

และในที่สุด การ์ดเนอร์ก็ถือกำเนิดบนดาวอังคาร

ในวันที่เขาเกิด ก็คือวันที่ซาราห์ต้องจากเช่นกัน

การ์ดเนอร์จึงต้องใช้ชีวิตอยู่บนอาณานิคมดาวอังคาร

โดยมี เคนดรา นักบินอวกาศหญิงอีกคนที่ทำหน้าที่ประดุจแม่คอยดูแลการ์ดเนอร์

กระทั่งสิบหกปีผ่านไป  การ์ดเนอร์ที่ถวิลหาโลกมนุษย์ และอยากพบหน้าพ่อของเขาสักครั้ง

ข้อจำกัดที่สำคัญยิ่ง  นี่คือเด็กที่เกิดในสภาวระไร้แรงโน้มถ่วง และใช้ชิวิตแต่เกิดบนดาวอังคารที่แรงโน้มถ่วงเบาบางกว่า

ในที่สุด ความฝันของการ์ดเนอร์ก็เป็นจริง 

ภายใต้เทคโนโลยีทางการแพทย์ช่วยปรับให้การ์ดเนอร์สามารถอาศัยอยู่บนโลกมนุษย์ได้ 

แต่มันจะเป็นเช่นนั้นจริงหรือ?

การ์ดเนอร์มีเพื่อนทางโซเชียลเพียงหนึ่งเดียว

ทัลซา คือชื่อของเธอ  เด็กสาวกำพร้าที่เหมือนเป็นศัตรูกับคนทั้งโลก

แต่คนเดียวที่เธอคุยด้วยก็คือ การ์ดเนอร์  โดยไม่เคยรู้ว่า เพื่อนที่คุยด้วยคือหนุ่มดาวอังคาร

ทันทีที่การ์ดเนอร์ได้กลับสู่โลก  สองสิ่งที่เขาอยากทำมากที่สุด

หนึ่ง...ไปพบทัลซา เพื่อนสาวและมนุษย์โลกคนเดียวที่เขารู้จัก

อีกหนึ่ง...ตามหาพ่อของเขา  สักครั้งที่จะได้พบและเอ่ยทักทาย

นั่นเป็นเหตุเป็นผลมากพอที่จะทำให้การ์ดเนอร์ยอมเสี่ยงออกผจญภัยบนดาวโลกที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน

ความเสี่ยงเพื่อให้ได้บางสิ่ง ที่ต้องแลกกับสิ่งสำคัญในชีวิต

สำหรับการ์เนอร์...มันคุ้มค่ามากพอไหม?

The Space Between Us เป็นหนังลูกผสมที่มีทั้งโรแมนติก ไซไฟ แฟนตาซี และโรดมูฟวี่  แน่นอนว่าหน้าหนังหลักก็คงต้องเป็นงานโรแมนติก แต่ในขณะเดียวกันผู้กำกับ ปีเตอร์ เชลซอม ก็จงใจอ้างอิงหนังเยอรมันอีกเรื่องหนึ่ง Wings of Desire ของผู้กำกับ วิม เวนเดอร์ส  (เคยถูกนำไปดัดแปลงเป็น City of Angels ที่ นิโคลัส เคจ เป็นเทวทูตที่ยอมตกสวรรค์เพื่อรู้จักและรักเป็นกับหมอสาว เม็ก ไรอัน)  ด้วยความที่ชะตากรรมของตัวละครมีความคล้ายคลึงกัน

การ์ดเนอร์ คือทารกที่เกิดบนดาวอังคาร และไม่เคยรู้จักโลกมาก่อน  ชีวิตเขาจึงไม่ต่างจากเทวทูตที่อยู่บนสวรรค์ในWings of Desire  ที่ท้ายสุดทั้งสองก็ต้องใช้ชีวิตบนโลกมนุษย์ เพื่อแลกกับการต้องสูญเสียสิ่งสำคัญไปในชีวิต และคำถามว่า เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งนั้น...มันคุ้มไหม?

แต่ความที่การนำเสนอแบบโลกสวยเกินไป ทำให้สถานการณ์ทุกอย่างดูง่าย ทื่อ และเป็นใจให้แก่ตัวละครทั้งสองที่ต้องออกเดินทางเกือบทั่วอเมริกา ด้วยวิธีการขโมยรถ ขโมยใช้มือถือไปเรื่อย ๆ โดยไม่เจออุปสรรคใด ๆ เลย เมื่อคิดว่านี่คือเด็กวัยรุ่นสองคนที่เดินทางตามลำพังนะ  จนระหว่างดูก็เกิดคำถามกับสิ่งที่ตัวละครทำ และผลที่ตามมา  แต่เอาเถอะหากพยายามลืม ๆ โลกความจริงไป ก็คงจะติดตามหนังไปได้อย่างตลอดรอดฝั่ง

แต่ด้วยความที่หนังไม่สามารถเลือกได้ว่าจะเป็นหนังอะไร ทำให้สิ่งที่หนังอยากเล่าทั้งหมด กระจัดกระจาย จนไม่สามารถเกาะกุมเป็นเนื้อเดียวกันได้  ส่งผลให้หนังไม่ประสบความสำเร็จ

ในขณะที่ภาพรวมของหนังไม่ได้ แต่บทสนทนากลับเป็นส่วนที่เก็บรายละเอียดได้ดีกว่า  ไม่ว่าจะเป็นการย้ำอยูกับคำถาม

“สิ่งที่คุณชอบที่สุดบนโลกคืออะไร?”  คือคำถามที่การ์ดเนอร์ถามทุกคนที่เขาได้พบ

หรือ การที่การ์ดเนอร์พยายามกลับมาโลก แต่สุดท้ายโลกกลับปฏิเสธที่จะให้เขาอยู่ที่นี่

สิ่งเดียวที่ดีสำหรับหนัง และน่าจะนำไปปรับใช้คือ วิธีมองโลก มองผู้คนของการ์ดเนอร์ 

มุมมองที่แตกต่างจากคนบนโลก ทำให้เขาพบแง่มุมที่แตกต่าง

ก็คงไม่ต่างจากการที่เรามองชีวิตด้วยแง่มุมที่แตกต่างจากเดิม เราอาจเห็นความสวยงามของชีวิต

หนุ่มดาวอังคาร การ์ดเนอร์ รับบทโดย เอซา บัตเตอร์ฟิลด์   ผู้ที่เสียบท ปีเตอร์ ปาร์กเกอร์ ให้แก่ ทอม ฮอลแลนด์ ไป บัตเตอร์ฟิลด์ยังต้องพยายามต่อไปในการหาทางแจ้งเกิดที่ปังมากกว่านี้

บริทท์ โรบินสัน เป็น ทัลซา  ที่มักผูกขาดเด็กสาวสู้ชีวิต แกร่ง และกล้าเกินวัย

ร่วมด้วย แกรี่ โอลด์แมน เป็น นาธาเนียล  หัวหน้าทีมโครงการเจเนซิส นิคมดาวอังคาร  นาธาเนียล เป็นตัวละครที่มีวาระซ่อนเร้นบางอย่าง, คาร์ลา กูจิโน เป็น เคนดรา นักบินอวกาศหญิงที่เป็นเสมือนแม่ของการ์ดเนอร์  และ บีดี หว่อง เป็น  ทอม ผู้อำนวยการโครงการ   คนดูจะได้พบกับ หว่อง อีกครั้งกับบทนักวิทยาศาสตร์ชีวะที่ชั่วร้าย ใน Jurassic World 2:  Fallen Kingdom

สุดท้ายแล้ว เมื่อเราออกตามหาบางสิ่ง  มันคุ้มค่าสำหรับการแลกเปลี่ยนสิ่งสำคัญในชีวิตมากพอหรือไม่?

และถ้าคุณตกหลุมรัก การตกหลุมรักใครสักคน ไม่เกี่ยวกับ ‘แรงโน้มถ่วง’ แต่เป็นเรื่องของ ‘แรงโน้มเธอ’

The Space Between Us (2018)  Directed:  Peter Chelsom/Starring:  Asa Butterfield, Britt Robertson,  Gary Oldman, Carla Gugino/Screenplay:  Allan Loeb/Story:  Stewart Schill, Richard Barton Lewis, Allan Loeb/Music:  Andrew Lockington/Director of Photography:  Barry Peterson /Edited:  David Moritz/Distributed:  STXfilms/Running time:  121  Mins./Rated:  PG-13

Trailer:  https://youtu.be/hPGEzN60I6g  by Mongkol Major Mongkol Cinema

Critics คะแนนวิจารณ์:   IMDb:  6.4/10  https://www.imdb.com/title/tt3922818/

Rotten Tomatoes:  4.3/10  https://www.rottentomatoes.com/m/the_space_between_us/

ขอบคุณที่มาข้อมูล:  IMDb, Wikipedia, Youtube, Rotten Tomatoes,

ขอบคุณที่มาภาพประกอบ:  Every Movie Has a Lesson, The Movie Mensch, Vulture,  Hypable, LSU Science Blog, wonderoam.com, Den of Geek, The Denver Post, cinemamontreal.com, Nerdist, The Mercury News, joesmoviestuff.blogspot.com, selectspecs.com, Rolling Stone, theyoungfolks.com, Escapist Magazine, IndieWire