คอหนังนั่งเล่า:  MCU จักรวาลพันล้านสู่หมื่นล้าน

MCU หรือ Marvel Cinematic Universe คือ จักรวาลหนังซูเปอร์ฮีโร่ของมาร์เวลสตูดิโอ

ในขณะที่กระแสแห่ง Avengers:  Endgame กำลังแผ่รังสี (ยิ่งกว่ารังสีแกมม่า) ไปยังคนดูทั่วโลก ชนิดไม่ดูไม่ได้แล้ว แต่ใครเลยจะคาดคิดว่า สำนักพิมพ์คอมิกส์ที่ครั้งหนึ่งเคยประสบปัญหาขาดทุนจนแทบล้มละลาย ถึงขั้นประกาศขายลิขสิทธิ์แคแร็กเตอร์ของตนเองให้แก่สตูดิโอผู้สร้าง นั่นคือเหตุผลทำไมจักรวาล X-Men และ Fantastic 4 ถึงอยู่กับสตูดิโอฟ็อกซ์ หรือ Spider-Man ถึงเป็นของโซนี่พิคเจอร์ส และ Hulk ทีมียูนิเวอร์แซลสตูดิโอเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์การสร้าง

แต่มาร์เวลคอมิกส์ ก็ค่อย ๆ เดินสู่เส้นทางด้วยการสร้าง Marvel Cinematic Universe แผนกที่รับผิดชอบสร้างหนังซูเปอร์ฮีโร่โดยเฉพาะขึ้นมา โดยใช้สินทรัพย์เท่าที่เหลืออยู่เดิมพันการสร้างที่เริ่มต้นเมื่อปี 2008 โดยมี Iron Man  ที่คนดูส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะรู้จักมาเป็นหนังนำร่อง  ถือเป็นการเปิดตัวที่สวยงามของมาร์เวลสตูดิโอ และการกลับมาแจ้งเกิดให้แก่ โรเบิร์ตส ดาวนีย์ จูเนียร์ ที่ในเวลานั้นเป็นนักแสดงที่มีแต่คนร้อง 'ยี้' และไม่เป็นที่ต้องการของคนทำหนัง

มาร์เวลสตูดิโอสร้างรูปแบบหนังของตนเอง จากเรื่องหนึ่งไปสู่อีกเรื่องหนึ่ง  โดยตอนท้าย End Credit จะต้องมีแนะนำเหตุการณ์ที่นำไปสู่หนังอีกเรื่องของตนเอง เท่ากับเป็นการบังคับให้คนดูต้องนั่งดูตัวหนังสือเครดิตทีมงานกว่าจะจบ  แต่ใครจะคิดว่ามันกลายเป็นเอกลักษณ์ที่สตูดิโออื่น ๆ พร้อมใจจะเลียนแบบ

มาร์เวลสตูดิโอเชื่อมโยงหนังเรื่องหนึ่งไปสู่อีกเรื่องหนึ่ง โดยทิ้งเบาะแสไว้ในหนังให้คนตาดีต้องคอยสังเกตกันเอาเอง และแต่ละเบาะแสถูกนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับหนังเรื่องก่อนหรือถัดมาของมาร์เวลเสมอ  นั่นคือความสนุกของสาวกมาร์เวลที่ได้ติดตามทุกเรื่อง

มาถึงวันนี้ 1 ทศวรรษ + 1 ปี มาร์เวลสตูดิโอเดินทางมาไกลมาก โดยมีสินทรัพย์คือ หนังของตนเองอยู่ในมือที่สร้างมูลค่ารายได้ให้แก่ตนเองสูงถึงเกือบ 20,000 ล้านดอลลาร์ และคงไม่หยุดอยู่แค่นี้แน่

เราลองไปดูผลงานหนังซูเปอร์ฮีโร่ภายใต้ชายคาบ้านมาร์เวล มีกี่เรื่อง แต่ละเรื่องทำรายได้เท่าไร และเปรียบเทียบกับทุนสร้างแล้วกำไรมากน้อยแค่ไหน

มาร์เวลมีหนังทำรายได้ระดับพันล้านอยู่ในมือมากถึง 7 เรื่อง ได้แก่  Avengers ภาค 1-3, Iron Man 3, Captain America:  Civil War, Black Panther และCaptain Marvel 

ส่วนหนังที่ทำเงินน้อยที่สุดในกลุ่มคือ The Incredible Hulk 263 ล้านเหรียญ (ที่ลิขสิทธิ์ตัวละครยังเป็นของ ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ นั่นทำให้มาร์เวลไม่สามารถสร้างหนังเดี่ยวของ Hulk ได้) แต่ก็ยังถือว่าไม่ขาดทุนเมื่อเทียบกับงบสร้าง

ต้นทุนสร้างหนังแต่ละเรื่องของมาร์เวลอยู่ที่ประมาณ 200 ล้าน บวกลบนิดหน่อย แต่หลังจาก Black Panther เป็นต้นมา มาร์เวลไม่เปิดเผยงบสร้างหนังที่แท้จริงให้รับรู้  ตัวเลขที่เห็นเป็นเพียงประมาณการ  ซึ่งว่ากันว่า Avengers:  Infinity War และ Endgame น่าจะมีงบสร้างใกล้เคียงกัน ประมาณ 500 ล้านเหรียญต่อเรื่อง

แต่เมื่อนับรวมหนังทั้งหมดที่สร้างมา 22 เรื่อง มาร์เวลใช้งบสร้างหนังไปถึง 4.6 พันล้านเหรียญ  แต่สามารถเก็บรายได้รวมจากคนดูทั่วโลกมากถึงเกือบสองหมื่นล้านเหรียญ!  (19,217 ล้านดอลลาร์) ต้องไม่ลืมว่านี่รายได้จากการฉายหนังเท่านั้น  ยังไม่นับลิขสิทธิ์ในรูปแบบอื่น ๆ  ซึ่งเมื่อพิจารณาจากตัวเลขเหล่านี้ สำหรับนักลงทุนหรือเจ้าของสตูดิโอคงตาลุกวาวกับกำไรอันมหาศาลที่เกิดขึ้น

อย่าลืมว่าความสำเร็จเกือบสองหมื่นล้านนี้มาจากการเดินทางที่ยาวไกลถึงสิบปี มาร์เวลค่อย ๆ สะสมความเชื่อมั่นทั้งกับตนเอง และคนดู โดยไม่หลงลืมที่จะเก็บคนดูกลุ่มเดิมที่เติบโตไปพร้อมกับมาร์เวล และเชื้อเชิญคนดูกลุ่มใหม่ให้มาร่วมเป็นครอบครัวมาร์เวลด้วย

ทั้งหมดทั้งมวลที่นำมาเล่าสู่กันฟังเพื่อให้เห็นภาพธุรกิจที่สร้างรายได้มหาศาลจากบริษัทที่ครั้งหนึ่งเคยเกือบจนล้มละลายไปแล้วด้วยซ้ำ

'อุปสรรค' หรือ 'โอกาส' อยู่ที่คุณจะเลือกมองในมุมไหน เช่นเดียวกับชีวิตของเรา ที่เราสามารถเปลี่ยน 'อุปสรรค' นั้น ให้กลายเป็น 'โอกาส' ได้ในที่สุด

ขอบคุณที่มาข้อมูล:  IMDb, Wikipedia, Rotten Tomatoes, Boxoffice Mojo