เมื่อช่วงวันหยุดยาวของวันวิสาขบูชาต่อด้วยเสาร์อาทิตย์และวันพืชมงคล ผมได้กลับไปบ้านที่บ้านห้วยส้ม ตำบลสันกลาง อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ บ้านเพื่อสู่วิถีพอเพียงแห่งชีวิต ผมไปปลูกบ้านและหวังไปใช้ชีวิตอยู่กับชาวบ้านแถวนั้น ซึ่งยังคงมีสภาพเป็นชนบทมาก ลัดเลาะไปตามถนนเลียบคลองชลประทานซึ่งทอดผ่านมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ออกไปประมาณ ๑๕ กิโลเมตร เลยแหล่งที่จัดงานพืชสวนโลกไปนิดเดียว รอบข้างเป็นละแวกบ้าน สวนลำใย นาข้าว และแหล่งเพาะชำกล้าไม้ดอก ไม้ยืนต้น เพื่อใช้จัดสวน เช้าเย็นมีชาวบ้านนำฝูงวัวควายออกมาเล็มหญ้ากลางทุ่ง สงบเงียบจนได้ยินเสียงสายลมกรีดใบไม้ มีเสียงนก จักจั่น และหรีดหริ่ง เคล้าบรรยากาศทั้งกลางวันและคืน มีเสียงหอกระจายข่าวเป็นภาษาท้องถิ่น บางครั้งประกาศแจ้งข่าวแก่ชุมชน บางครั้งนำข่าวสารความรู้มาเผยแพร่แก่ชาวบ้าน บ้างบอกงานบุญและงานเอาแรงกันของชาวบ้านในชุมชน ให้ความเป็นชีวิตชนบทและบ้านทุ่ง ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร ทำนา ทำสวน ทำไร่ และเป็นแรงงานรับจ้าง มีแหล่งบ่มสร้างและพัฒนาชีวิตสาธารณะของชุมชนคือ วัดห้วยส้ม โรงเรียนบ้านห้วยส้ม และสถานีอนามัยบ้านห้วยส้ม วัดกับสถานีอนามัยอยู่ติดกัน และไกลจากบ้านผมเพียงเดินถึงเท่านั้น ภรรยาผมออกแบบบ้านด้วยตนเอง ผม ภรรยา และพ่อแม่ของภรรยา ช่วยกันทำบ้านโดยค่อยๆซื้อไม้จากบ้านเก่าที่ชาวบ้านมักรื้อออกเพื่อปลูกสร้างบ้านแบบสมัยใหม่ด้วยคอนกรีต เราขออาศัยฝีมือของช่างชาวบ้านแถวท้องถิ่นนั่นเอง บ้านและการจัดพื้นที่ทั้งหมดทำตามแนวพอเพียงอย่างที่เราทำได้ ค่อยเป็นค่อยไป ตัวบ้านใช้พลังงาน ลม และแสงสว่างจากธรรมชาติอย่างสูงสุด ฝาผนังบ้านทำเป็นเฟี้ยมพับเก็บและกางออก ปรับพื้นที่การใช้สอยได้อย่างเอนกประสงค์มากขึ้น หน้าร้อนก็เปิดโล่งรับลมเย็น หน้าหนาวก็ปิดโดยรอบกลายเป็นผนังบ้านปิดทึบ ยามลมโกรก ก็ได้ความร่มเย็นและร่มรื่นทั้งกายใจ ด้านข้างทำสวนผลไม้ มีกล้วยหลากชนิด ลำไย มะม่วง ฝรั่ง ชมพู่ และพืชผักที่เป็นอาหาร เช่น ต้นเภกาหรือมะลิ้นฟ้า กอไผ่หวานซึ่งให้หน่อมาทำเป็นอาหารมิได้ขาด ตามร่องน้ำก็เลื้อยคลุมไปด้วยผักบุ้งนาและผักบุ้งจีน รวมทั้งผักกระเฉด งอกงามจนกินไม่ทัน จนชาวบ้านที่เป็นเพื่อนบ้านสามารถเก็บเกี่ยวไปให้วัวควายและทำเป็นอาหารเลี้ยงหมูไม่หวาดไม่ไหว ด้านหน้าเป็นสระบัว ปล่อยปลานิลและปลาทับทิมลงไปจนเติบโตเต็มสระหลายรุ่น แต่ก็นำมาทำกินเป็นอาหารไม่ลงเพราะให้อาหารเลี้ยงมากับมือจนเติบโต ต้องยกให้ชาวบ้านและหมู่ญาติพี่น้องมาจับเอาไปทำอาหารกิน รอบข้าง พ่อตาและแม่ยายผมปลูกถั่วฝักยาว ผักกาด พริก หอม ตะไคร้ และไม้ดอก มีเพียงข้าวสารเท่านั้น เราก็สามารถทำอยู่ทำกินอยู่ในบ้าน โดยไม่ต้องออกไปซื้ออะไรเลยก็ได้ โดยการเตรียมพื้นฐานอย่างนี้ การเป็นอยู่ของเราก็จะใช้ทรัพยากรและพลังงานน้อยมาก ซึ่งก็จะทำให้สามารถทำงานที่สนใจได้มากขึ้น เวลาได้กลับบ้าน ก็จะทำให้รู้สึกเหมือนได้กลับไปชาร์จแบต ได้อยู่กับตัวเอง เยียวยาและเสริมพลังชีวิตให้แก่ตนเอง อีกด้านหนึ่งของสระบัว กำลังเตรียมทำเป็นบ้านไม้และห้องประชุมเอนกประสงค์ เป็นสตูดิโอเขียนรูป แสดงงานศิลปะ จัดกิจกรรมภาวนา เป็นที่พบปะกันของเพื่อนฝูง ญาติมิตร และคนทำงานแนวเดียวกัน รวมทั้งเป็นเวทีทำงานความคิด เสวนาทางวิชาการ และแลกเปลี่ยนแบ่งปันประสบการณ์ในหมู่คนคอเดียวกัน หากมีเพื่อนๆ น้องๆ และคนทำงานชุมชน มาให้ผมแนะนำเรื่องการทำวิทยานิพนธ์และทำงานวิจัยชุมชน ใต้ถุนบ้านก็จะเป็นเหมือนคลินิควิจัยเพื่อประชาชนและคนทำงานชุมชน แบบกลายๆ บางครั้งญาติๆ จากในเมือง ก็พากันมาเยี่ยมยามให้อุ่นใจ ก็ใช้ขอบสระบัวเป็นห้องรับแขก นั่งคุย นั่งเล่นดนตรีและร้องคาราโอเกะ อยู่กับสภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลายและมีความเป็นธรรมชาติ เหลือพื้นที่อีกจำนวนหนึ่ง เราวางแผนว่าจะทำเป็นกระท่อมเพิงพักไว้รองรับผู้ที่สัญจรผ่านทางมาเยือนเราสัก ๔-๕ หลัง เราอยากให้เป็นแหล่งใช้ชีวิตอยู่กับการทำงานกับเด็กๆ ชุมชน นักวิจัยชาวบ้าน และคนทำงานศิลปหัตถกรรม เป็นแหล่งแสดงออกและขับเคลื่อนสิ่งที่จะสามารถทำได้นานๆให้กลมกลืนกับการดำเนินชีวิต ตอนกลับเข้าบ้านเมื่อเดินทางถึง ผมได้ขอให้ภรรยาขับรถผ่านเข้าทางสถานีอนามัยและวัด เลยได้ทราบว่าชุมชนจัดงานวัดในวันวิสาขบูชาด้วย พอถึงบ้าน เลยรีบโยนข้าวของเก็บ ชวนกันขับมอเตอร์ไซคล์ออกไปเดินเที่ยวงานวัดและถือโอกาสทำบุญกับชาวบ้านไปด้วย รากเหง้าชุมชนเพื่อชีวิตที่พอเพียง วัดห้วยส้ม เป็นทั้งวัดของชาวบ้าน และเป็นมูลนิธิศูนย์วิปัสนากรรมฐานของเชียงใหม่และภาคเหนือ [๑][๒] ในส่วนที่เป็นศูนย์วิปัสนากรรมฐานนี้ มีบทบาทเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมและอบรมตนเองของกลุ่มสนใจ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนทำงาน นักธุรกิจ และคนชั้นกลาง ทั้งในเชียงใหม่และจากแหล่งใกล้เคียง ในโอกาสพิเศษก็จะมีกลุ่มผู้สนใจมาจากทั่วประเทศ มีหน่วยงานและสถาบันการศึกษาร่วมดำเนินการ โดยเฉพาะคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในวันที่ผมไปซึ่งเป็นวันวิสาขบูชาด้วยนั้น วัดห้วยส้มก็มีกิจกรรมที่สอดคล้องกับกลุ่มความสนใจสองกลุ่มดังกล่าว ทั้งกิจกรรมวิปัสสนากรรมฐานสำหรับคนทั่วไป และการจัดงานวัดของชาวบ้าน บริเวณงานวัดที่จัดขึ้นในช่วงเดียวกับวันวิสาขบูชา มองออกไปจากบริเวณภายในวัดออกไปยังประตูด้านทิศใต้ติดกับสถานีอนามัยบ้านห้วยส้มซึ่งเป็นหน่วยบริการสุขภาพชุมชน เห็นถังน้ำประปาชุมชนและบริเวณจัดกิจกรรมนอกรั้ววัด สถานีอนามัยบ้านห้วยส้มอยู่ถัดไปจากแท๊งค์น้ำประปาชุมชน ข้อมูลการพัฒนาของหมู่บ้านด้านสุขภาพและคุณภาพชีวิตจัดว่าอยู่ในขั้นดี อบต ของชุมชนเพิ่งเป็น อบต ระดับ ๕ การดูแลความเป็นส่วนรวมของชุมชนโดยส่วนใหญ่จึงต้องอาศัยวิถีชุมชนและการทำกันเองของชาวบ้าน อาคารด้านขวาที่เห็นตะคุ่มอยู่ในเงามืดนั้น เป็นอาคารเก็บข้าวของเครื่องใช้ของส่วนรวม มีไว้สำหรับชาวบ้านทุกชนชั้น เช่น เต๊นท์สำหรับจัดงาน เก้าอี้และโต้ะแบบเก็บพับได้สำหรับจัดงานเลี้ยง รถลากสำหรับบรรทุกโลงศพ รถลากสำหรับจัดขบวนงานบุญและกิจกรรมประเพณีต่างๆ รวมไปจนถึงเครื่องครัวและอุปกรณ์ใช้สอยต่างๆสำหรับจัดงานบุญ งานประเพณี และกิจกรรมทั้งของส่วนรวม และของชาวบ้านในชุมชน บทบาทด้านนี้ของวัดสำหรับชาวบ้าน จึงนับว่าเป็นแหล่งที่ชุมชนสามารถแบ่งปันการใช้สอยทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพโดยไม่แยกแบ่งฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมในชุมชน การทำนุบำรุงและดูแลรักษาสิ่งต่างๆของวัดร่วมกันทั้งวัดและชาวบ้าน จึงเหมือนกับการช่วยกันดูแลรักษาโคมไฟให้พลังชีวิตของชุมชนและต้นกัลปพฤกษ์ ที่ใครจะยากดีมีจนอย่างไร ก็มานำสิ่งของไปจัดงานทำบุญประเพณีต่างๆในชีวิตได้อย่างเสมอกัน ทำให้อยู่ด้วยกันในสังคมได้อย่างพอควรแก่อัตภาพ รูปหลวงพ่อวัดห้วยส้มองค์ก่อน เป็นภาพเขียนสีน้ำมันฝีมือดีจนสะดุดตา เลยต้องเข้าไปดูใกล้ๆ เห็นลายเซ็นคล้ายลายเซ็นของอาจารย์ท่านหนึ่งของโรงเรียนเพาะช่าง กรุงเทพ ซึ่งมีชื่อเสียงในการเขียนภาพคนเหมือน และเป็นรุ่นน้องผม วัดห้วยส้ม ถือว่าวัดของชุมชนมีพระธาตุและพระบรมสารีริกธาตุ จึงในวันวิสาขบูชา เลยถือเป็นการจัดงานเพื่อเป็นปฏิบัติบูชาต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยการจัดงานไหว้สาพระธาตุและสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุด้วย เรียกว่ามีของดีคู่วัดก็ต้องคิดทำให้เหมาะสม ตอนแรกผมก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมมีรูปแบบการจัดงานอย่างนี้ องค์พระธาตุนั้นทางวัดและชุมชนเพิ่งสร้างขึ้นเมื่อปี ๒๕๓๘ เนื่องในพระราชวโรกาส ๖๐ พรรษาแห่งการครองราชของในหลวงและวาระเฉลิมฉลอง ๒๐๐ ปีของนครเชียงใหม่ พระบรมสารีริกธาตุในพระเจดีย์แก้ว สำหรับให้ชาวบ้านได้สรงน้ำด้วยน้ำส้มป่อยที่ทางวัดและชาวบ้านจัดเตรียมไว้ให้ น้ำส้มป่อย ดอกไม้ธูปเทียนและแผ่นทองเปลวสำหรับนมัสการบูชาพระธาตุและพระบรมสารีริกธาตุ ชุดละ ๑๐ บาทหรือมากน้อยตามกำลังศรัทธา กลุ่มชาวบ้านที่ช่วยกันดูแล เป็นกลุ่มแม่บ้านเสียเป็นส่วนใหญ่ มีคนเฒ่าคนแก่และชาวบ้านชายอยู่บ้าง แต่ทั้งหมดรวมกันแล้วก็มีอยู่อย่างประปราย นั่งดูแลของทำบุญและลงมือทำงานทุกอย่าง เสร็จแล้วก็นั่งพักและรอคอยผู้คนซึ่งมาร่วมงานวัดอย่างบางตา บางตาจนอยากอยู่เป็นเพื่อนและให้กำลังใจชาวบ้านนานๆ ความพยายามจัดกิจกรรมให้คนได้ทำบุญและระดมทุนมาดูแลศาสนสถานและกิจการต่างๆ ของวัดและชุมชน ทำกันอย่างตามมีตามเกิด บางมุมก็ปั้นปูนด้วยฝีมือช่างหยาบๆเป็นรูปสัตว์ประจำปีนักษัตรย์แล้วนำมาตั้งเป็นมุมรับบริจาคสำหรับทำบุญตามอายุ บางมุมก็ทำเป็นบาตรเล็กๆสำหรับบริจาค ๒๐ บาทแล้วได้เหรียญสลึงมา ๑ ขันเล็กๆมาหยอดใส่บาตรกับพระอรหันต์ ๑๐๘ รูป ซึ่งก็สะท้อนการคิดกิจกรรมขึ้นมาบนฐานความรู้ในพระศาสนา ผสมผสานกับคติความเชื่อของคนร่วมสมัย มีการจัดมโหรสพและสิ่งบันเทิงหลายอย่าง คือการฉายหนังกลางแปลง สวนสนุกของเด็กๆ ร้านยิงปืนลมจับรางวัล และมีเวทีแสดงดนตรี ร้องค่าวซอเพลงพื้นเมืองในตอนหัวค่ำซึ่งผมชอบมาก พอมืดหน่อยก็เปลี่ยนเป็นเพลงลูกทุ่งคาราโอเกะ มีรถเข็นขายของอยู่ประปราย ซึ่งดูแล้ว หากเข็นไปขายตามตลาดนัดหรือตามท่ารถเมล์ ก็คงจะมีคนเยอะกว่า ผมและภรรยาเดินทำบุญตรงโน้นตรงนี้ แวะเวียนไปทำกิจกรรมที่มีจนครบ แล้วก็ได้นั่งคุยกับชาวบ้านแบบสบายๆเพราะไม่ค่อยมีคน เห็นกลุ่มแม่บ้าน คนเฒ่าคนแก่ และชาวบ้านจำนวนเพียงเล็กน้อย ที่ช่วยกันทำสิ่งต่างๆแล้ว ก็ต้องกำหนดในใจเพื่ออนุโมทนาต่อความเสียสละและอุทิศแรงกายแรงใจจัดงานวัดขึ้น ทั้งเพื่อสร้างความเป็นชีวิตชีวาของชุมชนให้กลมกลืนอยู่กับพระศาสนา รวมทั้งหาทางดูแลวัดในฐานะแหล่งจัดการสิ่งสาธารณะและทรัพยากรส่วนรวม ให้มีสิ่งที่จำเป็นไว้ในชุมชนเพื่อผู้คนจะได้มาใช้สอยในยามที่ต้องการ ราวกับเป็นผู้พากเพียรนั่งเฝ้าโคมไฟส่องธรรมและต้นกัลปพฤกษ์ของชุมชน คนเฝ้าโคมและต้นกัลปพฤกษ์ของชุมชน ผู้คนมากมายทั้งในและนอกชุมชน ที่ได้ใช้สอยสมบัติส่วนรวม รวมทั้งมีวัดที่สัปปายะต่อการพัฒนาทางจิตใจ และเป็นกลไกผลิตซ้ำเพื่อสร้างความมั่นคงยั่งยืนให้กับพระศาสนา ระบบภูมิปัญญา ศิลปะและวัฒนธรรม ให้กับผู้คนทุกชนชั้นหมู่เหล่า อาจจะไม่รู้ว่า ผู้นั่งเฝ้าโคมไฟและต้นกัลปพฤกษ์ของชุมชนมากมายทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นพุทธศาสนาหรือศาสนาอื่นๆที่เคยมีบทบาทต่อการบ่มสร้างโลกทัศน์และชีวทัศน์ของผู้คน ณ เวลานี้นั้น มีอยู่ไม่น้อยที่คงจะเหมือนกับสภาพของวัดห้วยส้ม คือ อยู่ในสภาพเงียบเหงา ซบเซา เหมือนไร้เพื่อนร่วมคิดร่วมทำ ไร้ความใส่ใจดูแลร่วมกันของสังคม ราวกับเป็นคนเฝ้าโคมในทุ่งแล้ง. ....................................................................................................................... ภาพถ่ายและภาพประกอบ : โดย วิรัตน์ คำศรีจันทร์ ๒๕๕๒ แหล่งข้อมูลศึกษาเพิ่มเติมด้วยตนเอง (๑) ข้อมูลพื้นฐานของบ้านห้วยส้ม ตำบลสันกลาง อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ http://www.thaitambon.com/Tambon/ttambon.asp?ID= 501202 เมื่อ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๒ เวลา ๒๔.๓๐ น. (๒) ข้อมูลมูลนิธิศูนย์วิปัสสนากรรมฐาน วัดห้วยส้ม http://www.vipassanacm.com/th/home.aspx |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | พฤษภาคม 2009 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | |||||
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 |