การเดินทางภายในเมืองเวนิสนั้นทำได้ 2 อย่างคือ โดยสารทางเรือ และใช้เท้าทั้งสองข้าง และยิ่งต้องเดินไปยังที่พักละก้อ กระเป๋าเดินทางที่มีล้อลากนั้นก็สำคัญมากๆ จึงต้องมีการเตรียมการไว้บ้างในการเดินทาง

จากจุดนี้ มองย้อนกลับไปอีกด้าน จะมองเห็นโบสถ์และท้องฟ้ายามเย็น ซึ่งเริ่มจะมืดลงแล้ว

ไม่นานนัก เราก็มาถึงบ้านพักแบบอพาร์ทเมนต์ชื่อ "La Madoneta" ที่อยู่ในชั้น 4 ของตัวตึก แบ่งออกเป็นห้องโถง, ห้องนอน 3 ห้อง, ห้องน้ำ 2 ห้อง และยังมีห้องครัวอีก 1 ห้อง ก็เพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตในเมืองเวนิสตลอด 3 คืน ในราคา 675.- ยูโร

เมื่อเตรียมตัวพร้อม ก็ออกเดินทางไปยังร้านอาหารแบบอิตาเลียนที่เพื่อนเคยไปทานมาแล้วหลายครั้ง และนำทางต้องเดินไปไกลพอสมควรจากที่พัก ซึ่งระหว่างทางที่จะไปถึงร้านอาหารก็ได้เจอบรรยากาศต่างๆ ตั้งแต่ ร้านขายพิซซ่า

ร้านขายหน้ากาก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสินค้าที่ระลึกจากเมืองนี้

รวมไปถึงของรกบ้าน ... ขออภัย! คิดอะไรออกไป ... ของแต่งบ้าน

เดินข้ามสะพานผ่านคลอง ซึ่งถ้าไม่มีเรือกอนโดล่าผ่านมา น้ำจะนิ่งสงบแบบที่เห็น

เดินผ่านโบสถ์ ได้เห็นสถาปัตยกรรมสวยงาม แต่ตอนนี้กำลังหิว ยังมีเวลาอีก 3 วันเต็ม จะค่อยๆ บันทึกภาพและบรรยายในตอนต่อๆ ไปอีกหลายตอน

ชอบที่มีร้านค้าขายผลงานศิลปะตลอดทางเดิน เหมือนกำลังเดินอยู่ใน Art Gallery

แม้แต่ "ตุ๊กตาสุนัข" ที่ดูเหมือนจริงมากๆ

หรือจะเป็น "หน้ากากสามอารมณ์" ... ดูน่ากลัวจัง

รวมทั้งของที่ระลึก สามารถนำไปประดับในบ้าน บ่งบอกถึงเมืองเวนิสแห่งนี้

ระหว่างเส้นทางได้ผ่านโบสถ์ซานมาร์โก้ (Basilica San Marco) ไว้จะนำเสนอแบบละเอียดยิบในตอนต่อๆ ไป สำหรับตอนนี้ขอผ่านก่อน

มีร้านหลุยส์ฯ และร้านแบรนด์เนมหลายๆ ร้าน ก็มาตั้งอยู่แถวใกล้ๆ ซานมาร์โก้

ไม่เอาแล้ว ขอหยุดถ่ายภาพร้านค้าก่อนสำหรับเย็นวันนี้

เราเดินออกมาถึงบริเวณสะพานรีอัลโต้ (Rialto Bridge) ซึ่งข้ามบริเวณทางด่วน (Grand Canal) ทำให้มีเรือกอนโดล่าพลุกพล่านบริเวณนี้

ใครผ่านมาแถวนี้ต้องหาโอกาสมาบันทึกภาพจาก "สะพานรีอัลโต้" (Rialto Bridge) ในช่วงเวลาแบบนี้ ลองกดที่นี่เพื่อดูภาพแบบขยายในมุมนี้ ภาพที่ 1 และ ภาพที่ 2 แล้วก็ ภาพที่ 3 ไม่เปิดดู ... ไม่ได้แล้ว

บริเวณย่านนี้ เป็นมุมที่สวยที่สุดมุมหนึ่งของเมืองเวนิส

ไม่นานนัก เราก็มาถึงร้านรสเด็ดกันแล้ว

เริ่มจากดื่มไวน์ เพื่อเรียกน้ำย่อยกันก่อน แต่ความจริงไม่ต้องเรียกแล้ว เพราะเดินมาไกลขนาดนี้ ทานหมดทุกอย่างที่ขวางหน้า

มีผัก ถั่ว แครอท และพาม่าแฮม (Pama Ham) ที่มาถึงอิตาลีแล้ว ห้ามพลาด!

ด้วยความที่ชอบอาหารอิตาเลียน ประเภทแป้งและเส้นมากเป็นพิเศษ เลยถูกใจจริงๆ

และที่เด็ดมากๆ คือ "สปาเก็ตตี้หมึกดำ" และ "ซุปปลา" รสกลมกล่อม พร้อมจิบไวน์ขาว ต้องขออภัยที่ชวนหิวสำหรับเอนทรีนี้ ไว้เอนทรีต่อไป จะพาไปเดินย่อยกันต่อและมาติดตาม "หนีตามกอนโดล่า" ในภาคต่อๆ ไป