ความสุขเล็กๆสีเขียว

ตั้งแต่ลาออกจากงาน มาเป็นแม่บ้าน(ชั่วคราวระหว่างหางานใหม่) ดิฉันค้นพบสังคมเกษตรบนอินเตอร์เนตที่น่าสนใจเข้าแห่งหนึ่ง จึงได้ตัดสินใจเข้าเป็นสมาชิกเพื่อจะได้อ่านงานการเกษตรเพื่อหาความรู้ เพราะแอบฝันไว้ว่าอยากมีไร่นาสวนผสมแบบพอเพีิยงเล็กๆไว้ทำอยู่ทำกินในยามที่หมดความกระตือรือร้นในงานด้านอื่นแล้ว ดิฉันเข้าไปอ่านและดำดิ่งกับเนื้อหาที่สมาชิกแต่ละท่านได้แบ่งปันจากประสบการณ์การลงมือทำจริง เรียกได้ว่าติดงอมแงม แปลกแต่จริงที่แค่เพียงอ่านก็ทำให้ดิฉันมีใจที่เป็นสุขไปด้วย บางท่านก็ล้มลุกคลุกคลาน เพราะการเกษตรก็ขึ้นอยู่กับดินฟ้า แต่คนในสังคมนี้ก็จะปลอบประโลม ให้กำลังใจ และพลอยยินดีต่อกันเสมอ มันเหมือนสังคมในฝัน ว่าไหมคะ

เมื่ออ่านมากๆเข้า ก็เกิดอาการอดรนทนไม่ได้ ดิฉันลุกขึ้นมาชำ เพาะ ปลูก ต้นไม้ กะว่าจะทำสวนระเบียงกับเค้าบ้าง เริ่มจากมินต์ (สะระแหน่ฝรั่ง) ที่ซื้อมาในราคาค่อนข้างแพงสำหรับ ๔ - ๕ กิ่ง ใช้ใบทำอาหารเสร็จ ก็จัดการตัดแบ่งกิ่งเป็นท่อนๆ ให้แต่ละท่อนมี ๑ ข้อใบ (เด็ดใบไปแระ) เอาเจ้าท่อนเล็กๆนี้ไปเสียบชำลงในดิน หลังจากนั้น ๓ - ๔ อาทิตย์ก็จะได้ต้นเล็กๆ แบบนี้ 

ผักชีฝรั่งก็ใช้วิธีเดียวกัน รอดมาได้ ๒ ต้น

ส่วนนี่คือที่สุดของความภูมิใจ ต้นมะขามที่เพาะจากเมล็ดเดียวที่ได้จากมะขามเปียกที่ซื้อมาทำอาหาร เอาเมล็ดมาขูดผิวให้เป็นรอยเล็กน้อย เพื่อให้นำ้ซึมเข้าง่ายๆ แช่นำ้ไว้ ๒ - ๓ วัน พอเมล็ดบวม ก็ย้ายลงดิน ตอนนี้ต้นมะขามน้อยงอกพ้นดินมาได้ ๒ วันแล้ว ฝันมานานแล้วค่ะว่าอยากมีต้นมะขามไว้ในห้องรับแขก เพราะทรงต้นและใบเค้าน่ารักดี

หอมใหญ่ กระเทียม ที่ซื้อมากินไม่ทัน งอกใบออกมาก่อน ก็จับลงดิน สำหรับพวกหอมกระเทียมหรือพืชหัวอื่นๆนี่ให้ระวังกันหน่อยนะคะ หากว่ามันมีสัญญานการงอก อย่ารับประทานเป็นอันขาด เพราะเคยอ่านเจอว่ามันมีสารพิษที่เกิดจากกระบวนการงอก

นอกจากพืชผักเหลือใช้ ก็มีพวกเมล็ดผักที่มีวางขายโดยเฉพาะช่วงนี้ ที่ฤดูใบไม้ผลิกำลังจะมา ซื้อมาหลายอย่างค่ะ เริ่มเพาะวอเตอร์เครส ที่แค่ ๒ วันก็งอกได้ขนาดนี้แล้ว พวกหอมป้อม (ผักชี) โหระพา และแมงลัก ก็เพาะไล่ตามกันไป 

การทำสวน ถึงแม้จะเล็กจิ๋วขนาดนี้ก็ทำให้ดิฉันมีความสุข สุขที่ได้รดนำ้และเฝ้าดูการเติบโตอย่างเงียบๆของพวกเขา หากใครที่กำลังมีเรื่องเครียดๆอยู่ ลองหาอะไรมาปลูกสิคะ พวกผักสวนครัวนี่ก็ได้ มีประโยชน์ดี บางทีท่านอาจค้นพบความสุขเล็กๆสีเขียวบ้างก็ได้