สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห่างหายจากโอเคไปนาน ไม่ทราบว่าเพื่อนๆยังโอเคกันอยู่หรือเปล่าคะ? เรื่องของเรื่องคืองานยุ่งมากๆค่ะ ปีนี้เดินทางมากขึ้น แต่ก็เป็นอะไรที่ดีได้เปิดหูเปิดตา ปลายเดือนนี้มีโปรแกรมไปอินเดียแล้วก็จะได้แวะกลับบ้าน รอด้วยใจจดจ่อค่ะ ^_^

เคยเกริ่นๆไว้เรื่องไวน์จากลุ่มนำ้ลัวร์ถิ่นเก่าที่อยู่มาสามปีกว่า วันนี้ได้ฤกษ์แล้วค่ะ ขอเปิดตัวด้วยตัวโปรด vouvray ก็แล้วกันนะคะ 

vouvray เป็นไวน์ขาวจากลุ่มนำ้ลัวแถบ Anjou - Saumur - Touraine ทำจากองุ่นสายพันธุ์ chenin blanc ซึ่งเป็นสายพันธุ์เก่าแก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ ๔ ท่ีปรับตัวได้ดีกับสภาพดินเหนียว และดินปูนสีออกครีมๆที่นี่ หากใครเคยได้มาเที่ยวปราสาทแถบลุ่มนำ้ลัวร์ก็จะเห็นว่าเป็นหินและดินที่ใช้สร้างปราสาทนั่นเอง 

ที่มีชื่อเสียงมีอยู่สองชนิดคือ ไวน์หวาน (dessert wine) และไวน์ที่มีฟอง (vouvray pétillant)​ ไวน์ของหวานนั้นมีวิธีการทำที่ออกจะพิศดารหน่อย คือเขาจะปล่อยให้ไวน์สุกคาต้นแล้วทิ้งค้างไว้ให้ราขึ้น (noble rot)จากนั้นจะเก็บไวน์ในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง จากที่เคยชิมกลิ่นจะหอมและรสหวานกลมกล่อม ออกรสนำ้ผึ้งหน่อยๆ 

เจ้า vouvray péttillant  นี่จะมีวิธีการทำแบบเดียวกับแชมเปญแต่ไม่สามารถเรียกว่าแชมเปญได้เพราะแชมเปญได้จดลิกขสิทธิ์ให้เรียกได้เฉพาะไวน์ที่ผลิตในแคว้นแชมเปญเท่านั้น ลักษณะเด่นคือ มีอโรม่าที่ดี รสชาติเป็นลักษณะฟรุ๊ตตี้ ดื่มแล้วสดชื่น ส่วนตัวแล้วชอบมากกว่าไวน์หวาน

ไวน์สองชนิดนี้หากมาจากปีดีๆ ดิฉันว่าแข่งกับไวน์ตัวใหญ่ๆได้ค่ะ ปัญหาของไวน์แถบนี้คือวินยอร์ป (vineyard) มีขนาดเล็ก ผู้ผลิตผลิตได้ปีละไม่มาก และส่วนมากแค่ขายในท้องถิ่นก็แทบจะไม่พอแล้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจหากว่าจะหา vouvray ที่ไหนไม่ได้ และที่ติดชื่อว่า vouvray ก็ไม่ใช่ว่าจะรสดีเสมอไป ดิฉันได้ชิม vouvray ดีๆจากการแนะนำของเพื่อนร่วมงานที่เป็นคนท้องถิ่นซึ่งรู้จักไวน์ดีๆค่ะ 

นี่คือสามขวดที่มีเหลือติดบ้านค่ะ สองขวดแรกเป็นไวน์นิ่งที่ปะชื่อ moelleux รสชาติก็จะออกหวานๆ แชให้เย็นประมาณ ๑๐ องศาแล้วเสิร์ฟเป็น apéritif หรือไม่ก็ฟัวกราส์ (ขอต่อต้านการทานฟัวการส์นะคะ ทรมานสัตว์เพื่อความอร่อย ไม่ดีเลย) ทาร์ตผลไม้ชนิดหวาน หรือชีสที่ออกรสเครื่องเทศค่ะ ส่วนตัวดิฉันชอบเสิร์ฟกับลูกอินทผาลัมแห้งยัดไส้ชีสนมแพะ

ขวดสุดท้ายเป็น vouvray péttillant ใช้เสิร์ฟกับออร์เดิร์ฟ เคยลองเสิร์ฟกับม้าห้อตอนเพื่อนมาทานข้าวที่บ้าน ก็เป็นที่ติดใจ เจ้าขวดนี้เป็น bio หรือ organic wine ค่ะ รสชาติพอใช้ได้ ไม่ใช้ตัวที่ดิฉันชอบที่สุดซึ่งหมดโหลไปนานแล้ว 

หากเพื่อนๆได้มาเที่ยวแถบนี้ ขอแนะนำให้ไปเลือกซื้อไวน์ตามถ้ำไวน์นะคะ เขาจะคัดไวน์ดีๆจากท้องถิ่นมาขาย รากคาประมาณ 15 ยูโรขึ้นไปรับประกันความอร่อยสำหรับ sparkling wine ค่ะ ส่วนแบบหวานจะแพงกว่านั้นหน่อย หากใครจะไปเที่ยวเมืองตูร์ (Tours) โดยเฉพาะก็ให้หลังไมค์มานะคะ จะกระซิบให้ว่าแถวๆในเมืองหาไวน์ดีๆได้ที่ไหน

ว่าเรื่องไวน์พอหอมปากหอมคอนะคะ ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เนต และขออภัยหากเพื่อนๆจะเวียนหัวกับไทยคำฝรั่งคำนะคะ

พักผ่อนให้มีความสุขวันหยุดค่ะ