อาชีพอิสระที่ทางธนาคารตีความหมายนั้น คือ อาชีพที่ไม่เป็นหลักเป็นแหล่ง ไม่มีการขึ้นทะเบียน ไม่มีการจดทะเบียนพาณิชย์ ที่สำคัญคือไม่มีหลักฐานทางการเงินที่แน่ชัด ซึ่งวิธีทําบัตรเครดิตนั้นจะมีเอกสารประกอบที่สำคัญคือ “สลิปเงินเดือน” ความลำบากจึงตกอยู่กับอาชีพพ่อค้าแม่ค้า เพราะไม่ได้มีสลิปเงินเดือน

จากการตีความหมายข้างต้นอาชีพอิสระที่เรามักจะเห็นได้ทั่วไปคือ พ่อค้าแม่ค้าทั้งหลาย ทั้งตามตลาดนัด แผงลอย รวมทั้งทางออนไลน์ด้วยนะคะ ยังมีอาชีพิสระอื่นๆอีกมากมายแต่วันนี้จะขอพูดถึงอาชีพพ่อค้าแม่ค้านะคะ สำหรับใครที่มีอาชีพอิสระและอยากทำบัตรเครดิตแล้วล่ะก็ บทความต่อไปนี้จะช่วยคุณได้ค่ะ

เอกสารที่ใช้แทนสลิปเงินเดือน

วิธีทําบัตรเครดิตหลายธนาคารเปิดให้ทำบัตรเครดิตได้โดยการใช้ “บัญชีเงินฝากประจำ” มาค้ำประกันแทนสลิปเงินเดือน การเปิดบัญชีเงินฝากประจำแตกต่างจากบัญชีออมทรัพย์ตรงที่ เจ้าของบัญชีจะไม่สามารถถอนเงินได้จนกว่าจะครบกำหนด เพื่อใช้เงินจำนวนนั้นเป็นหลักค้ำประกันการทำบัตร ซึ่งเราจะได้รับวงเงินบัตรเครดิตตามจำนวนของเงินฝากโดยแจ้งกับเจ้าหน้าที่เลยว่าต้องการสมัครบัตรเครดิตแบบใช้เงินฝากค้ำประกัน  แล้วเค้าจะดำเนินการต่อให้เอง ส่วนเอกสารอื่นๆ นั้นก็ไม่แตกต่างจากการขอสินเชื่อทั่วไป ได้แก่ สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, สมุดบัญชีเล่มที่ใช้ค้ำประกัน

จะได้วงเงินบัตรเครดิตเท่าไหร่ ?

ส่วนมากจะได้ 90-100% ของวงเงินที่ฝากไว้ กล่าวคือ หากเรามียอดเงินในบัญชีเงินฝากค้ำประกันไว้ ห้าหมื่น ก็มีวงเงินบัตรห้าหมื่น แต่บางธนาคารอาจจะให้ไม่เต็ม เดาว่าคงเหลือไว้สำหรับค่าดำเนินการ

ถ้าอยากจะขอเพิ่มวงเงินก็ทำได้เช่นกัน โดยการเพิ่มวงเงินฝากประจำ คือเข้าไปติดต่อพนักงานที่ธนาคารได้เลย แจ้งความประสงค์ว่าจะขอเพิ่มวงเงินฝากประจำเพื่อ เพิ่มวงเงินในบัตรเครดิต ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาในการปรับยอดสักระยะ

คุณสมบัติของบัตรเครดิตจะแตกต่างกันหรือไม่ คุณสมบัติจะเหมือนกันกับบัตรเครดิตทั่วไปค่ะ คือสามารถรูดซื้อสินค้าและสะสมแต้มได้

                พ่อค้าแม่ค้าหรือท่านที่มีอาชีพอิสระหลายๆท่านที่ อยากทำบัตรเครดิตคงสบายใจขึ้นแล้วนะคะที่การทำบัตรเครดิตไม่ได้ยากอย่างที่คิด ถ้าใครมีบัญชีฝากประจำอยู่แล้วก็สามารถไปดำเนินการที่ธนาคารได้เลยค่ะ ถ้ายังไปมีก็แค่ไปเปิดบัญชีฝากประจำให้เรียบร้อยแค่นั้นเอง ถึงแม้ไม่ได้ประกอบอาชีพประจำก็ตาม แต่ต้องรู้จักใช้อย่างมีวินัยนะคะ ถ้าใช้เกินตัวอาจจะกลายเป็นหนี้ก้อนโตแทนไม่รู้ด้วยนะ