*/
<< | เมษายน 2018 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 |
ตอนเรียนจบใหม่ๆ เทรนด์อาหารมื้อเช้าของคนวัยทำงานในช่วงเวลานั้น มักเป็นปาท่องโก๋กับกาแฟ ดิฉันก็อินเทรนด์กับเค้าด้วยค่ะ ก็ทานอย่างนั้นเรื่อยมา จนมาเจอโฆษณาในนิตยสารฉบับหนึ่ง มีรูปอาหารเช้าที่ดิฉันทานอยู่ และอักษรที่ว่า “เพียงเท่านี้หรือ อาหารเช้าของคนเงินเดือนหมื่น” และมีคำอธิบายตามมาว่า ทำไมไม่ให้สิ่งดีๆ ให้สารอาหารแก่ตนเองตั้งแต่การเริ่มต้นของวัน อ่านแล้วจึงคิดได้ จึงได้เปลี่ยนมาทานอาหารเช้าแบบที่ให้สารอาหารมากกว่าแป้งและไขมันจากปาท่องโก๋ กับน้ำตาลและนมจากกาแฟ แต่ก็ยังได้รับสารอาหารไม่พอต่อความต้องการร่างกายอยู่ดีค่ะ เพราะกลัวอ้วน เลยทานแต่น้อย จึงทำให้ไม่ใคร่แจ่มใส ป่วยง่าย ปวดหัวตัวร้อนโดยไม่ทราบสาเหตุ ความคิดเชื่องช้า ยิ่งต่อมาเข่าเสื่อม ต้องคุมน้ำหนักไม่ให้เกินกว่าที่เข่าจะรับไหวเพราะไม่อย่างนั้นจะปวดเข่าเวลาเดิน จึงยิ่งคุมอาหารให้น้อยลงไปอีก ทีนี้เลยไม่ได้เสื่อมแค่เข่าค่ะ แต่เสื่อมไปทั้งตัวเลย หลายปีต่อมา จึงได้เปลี่ยนแปลงตัวเอง ทั้งในด้านอาหารและการออกกำลังกาย จากที่เคยทานมื้อเล็กๆเพียง 2 มื้อ ก็กลายเป็นทานมื้อกลางๆ 5 - 6 มื้อ ร่างกายจึงแข็งแรงขึ้น เป็นอยู่ดีขึ้น ผลเลือดและผิวพรรณภายนอกก็ดูดีขึ้น อาหารเช้าหรือ Breakfast นั้น มาจากคำว่า Break-the-fast ซึ่งแปลว่า "หยุดการอดอาหาร" ค่ะ เพราะท้องว่างมาตั้งแต่มื้อเย็น ซึ่งอาจนานถึง 12 ชั่วโมง เราอาหารเช้าไม่ควรทานเกิน 10.00น. และพลังงานที่รับควรได้รับประมาณ 20-35 เปอร์เซ็นต์ของพลังงานที่ร่างกายต้องการทั้งหมดในแต่ละวัน เหตุที่มื้อเช้าสำคัญ เพราะการทานอาหารเช้าจะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เนื่องจากหลังการอดอาหารมาตลอดคืนทำให้ระดับฮอร์โมนเกรลิน (ฮอร์โมนแห่งความหิว) สูง อินซูลินต่ำ ถ้าเราไม่ทานมื้อเช้า ระดับน้ำตาลในเลือดก็จะต่ำมากจนทำให้เราอยากทานอาหารที่มีไขมันสูง อาหารที่ให้พลังงานสูงในมื้อเที่ยงมากเกินไป อันเป็นเหตุให้อ้วนได้ง่ายขึ้น การไม่ทานมื้อเช้ายังส่งผลให้ความไวของอินซูลินลดลง เกิดภาวะดื้ออินซูลินตามมาซึ่งเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน พบว่าผู้ไม่ทานอาหารเช้า เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 เพิ่มขึ้น 15 - 21 เปอร์เซ็นต์ เมื่อไม่ทานมื้อเช้าเป็นนิสัย จนทำให้เป็นโรคอ้วนและเบาหวาน ปริมาณโคเลสเตอรอลจะสูงขึ้น จึงมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มขึ้น จากงานวิจัยของญี่ปุ่นพบว่า คนที่ไม่ทานมื้อเช้า เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดสูงถึง 42 เปอร์เซ็นต์ การวิจัยของภาควิชาทางเดินอาหาร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยโตเกียว พบว่าโรคกรดไหลย้อนมีความสัมพันธ์กับการทานอาหารที่ไม่เหมาะสม 4 อย่าง คือ ทานอาหารในช่วง 2 - 3 ชั้่วโมงก่อนเข้านอน การทานของหวานช่วงค่ำ การทานอาหารเร็วเกินไป และการไม่ทานมื้อเช้า นอกจากนั้น คนที่ไม่ทานมื้อเช้า แต่หันไปทานชา กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง เป็นการกระตุ้นให้น้ำย่อยหลั่งออกมามากขึ้น ทำให้อาการกรดไหลย้อนเป็นมากขึ้น การไม่ทานอาหารเช้ายังสัมพันธ์กับหลอดเลือดในสมองแตก กลไกที่อธิบายได้คือ การไม่ทานอาหารเช้าส่งผลให้แกนสมองส่วนไฮโปทาลามัส ต่อมใต้สมอง และต่อมหมวกไต ทำงานมากเกินไป (Overactivity in the Hypothalamic-Pituitary-Adrenal Axis) ส่งผลให้ความดันโลหิตสูงในช่วงเช้า ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของเส้นเลือดในสมองแตก เมื่อทราบความสำคัญของสารอาหารหลักแล้ว ถ้ามื้อเช้าของคุณเป็นเพียงปาท่องโก๋กับกาแฟ ลองคิดดูนะคะ ว่าคุณทำร้ายตัวเองมากขนาดไหน นอกจากนี้อาหารเช้าควรมีคุณค่าทางอาหารอย่างเพียงพอต่อความต้องการร่างกาย มื้อเช้าควรมีสารอาหารหลักคือ คาร์โบไฮเดรท ไขมัน และ โปรตีน อย่างครบถ้วนและเพียงพอ ทั้งในแง่ปริมาณพลังงานและสารอาหาร มาดูกันนะคะ ว่าสารอาหารหลักทั้ง 3 สำคัญต่อเราอย่างไร คาร์โบไฮเดรท เป็นแหล่งพลังงานหลักของร่างกาย ในกรณีที่เราต้องการใช้พลังงานอย่างรวดเร็ว หรือใช้พลังงานอย่างหนัก คาร์โบไฮเดรทที่ถูกสะสมในรูปของไกลโคเจนในเซลล์กล้ามเนื้อและตับ จะแตกตัวให้พลังงานอย่างรวดเร็วแก่เรา โดยที่กล้ามเนื้อสามารถให้พลังงานได้สูงสุดถึง 2,000 แคลอรี่ ตับสามารถให้ได้ 300 แคลอรี่ และเพราะคาร์โบไฮเดรทเป็นโครงสร้างของพืชทุกชนิด คาร์โบไฮเดรทจึงให้ใยอาหารที่ช่วยในการขับถ่าย การทานผักจึงเป็นการรับคาร์โบไฮเดรทเข้าสู่ร่างกายนั่นเองค่ะ (ขอบคุณภาพจาก สถานีวิจัยเพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการด้านเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว) โปรตีน ช่วยให้ส่วนที่สึกหรอของร่างกายได้รับการซ่อมแซม ทั่วร่างกายเราล้วนประกอบขึ้นด้วยโปรตีนค่ะไม่ว่าจะเป็น สมอง หัวใจ หลอดเลือด ทางเดินอาหาร ลำไส้ ผิวหนัง เส้นผม (แต่พอพูดถึงโปรตีน เรามักมองไปที่กล้ามเนื้อเพียงอย่างเดียวนะคะ) โปรตีนยังเป็นส่วนประกอบของเอนไซม์ที่ช่วยเร่งปฏิกิริยาเคมีต่างๆในร่างกายให้เร็วขึ้น ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ทำให้กับร่างกายต่อสู้เชื้อโรคได้ ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อ อันทำให้รักษาอัตราการเผาผลาญเอาไว้ได้ เราจึงอ้วนขึ้นได้ยาก การทานโปรตีนที่เพิ่มขึ้นจึงเพิ่มการหมุนเวียนโปรตีน ทำให้มีการสร้างกล้ามเนื้อใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าขึ้นทดแทนกล้ามเนื้อเก่า ในมื้อเช้า โปรตีนจะขาดไม่ได้เลยค่ะ เพราะหลังการนอนหลับมาทั้งคืน ความเข้มข้นของกรดอะมิโนในกระแสเลือดจะลงต่ำลง และจะต่ำไปจนกว่าเราจะได้อาหารที่มีโปรตีนสูงในมื้อเช้าและกลางวัน การที่กรดอะมิโนในกระแสเลือดต่ำ จะส่งผลให้เซลล์และกล้ามเนื้อถูกทำลายค่ะ และหากมีการออกกำลังกายร่วมด้วย ก็จะทำให้การซ่อมแซมร่างกายทำได้ไม่เต็มที่ การพัฒนาสมรรถภาพของร่างกายเป็นได้โดยยาก (เนื่องจากกล้ามเนื้อในร่างกายจะถูกพัฒนาให้ใหญ่ขึ้นได้ ต้องได้สารอาหารเพื่อไปซ่อมแซม ไปสร้างเส้นใยโปรตีนที่ใหญ่ขึ้น แข็งแรงขึ้น เพิ่มจำนวนเส้นใยให้มากขึ้น) โปรตีนคุณภาพไม่จำเป็นต้องมาจากสัตว์ค่ะ โปรตีนจากพืชบางชนิด แม้จะมีกรดอะมิโนจำเป็นไม่ครบถ้วน แต่ถ้าทานร่วมกันหลายๆชนิดก็ได้โปรตีนคุณภาพไม่แพ้โปรตีนจากเนื้อสัตว์ และยังมีการพบว่าถั่วเหลืองเป็นพืชชนิดเดียวที่มีกรดอะมิโนครบถ้วน ซึ่งนอกจากจะให้โปรตีนแล้วยังช่วยลดโอกาสเกิดมะเร็งหรือเกิดซ้ำของมะเร็งได้(มีรายละเอียดอยู่ที่นี่ค่ะ https://www.cancercenter.com/…/nutrition…/all-about-protein/ ) โดยปกติ เราต้องการโปรตีนประมาณ 0.8 – 2 กรัม/น.น.ตัว 1 ก.ก.ถ้าเราเป็นผู้สูงวัย (ในแง่สุขภาพหมายถึงอายุ 55 ปีขึ้นไปนะคะ ไม่ใช่ 60 อย่างในแง่ประชากร)หรือเด็กในวัยเจริญเติบโต ต้องการโปรตีน 1.25 กรัม สำหรับนักกีฬามักต้องการที่ 1.5 – 2 กรัม อกไก่ 5 กรัม ให้โปรตีนประมาณ 1 กรัม ลองคำนวณดูนะคะว่าคุณน้ำหนักเท่าไหร่ แล้วต้องการโปรตีนเท่าไรต่อวัน จากอัตราส่วนที่เหมาะสมนี้ เมื่อคำนวณดูแล้วมักพบว่า เรามักได้รับโปรตีนไม่พอต่อการใช้ของร่างกายกันค่ะ พอโปรตีนไม่พอ กล้ามเนื้อก็ถูกทำลายลงเรื่อยๆ อัตราการเผาผลาญเราจึงต่ำลงเรื่อย เราจึงอ้วนขึ้นเรื่อยๆ ความแข็งแรงลดถอยลงเรื่อยๆ สำหรับไขมัน เป็นแหล่งพลังงานสะสมในร่างกาย เป็นสารอาหารที่เรามักกลัวกันมากที่สุดนะคะ อย่างไรก็ตาม ไขมันมีความจำเป็นต่อร่างกายมาก เราจึงต้องควบคุมประเภทและปริมาณที่รับให้พอเหมาะแก่ความต้องการของร่างกาย เพราะไขมันนอกจากจะให้พลังงานแล้ว ยังช่วยปกป้องอวัยวะภายใน เป็นส่วนประกอบของโครงสร้างเซลล์ ช่วยเพิ่มความเร็วในการส่งสัญญาณประสาท ช่วยในการดูดซึมวิตามิน เป็นตัวผลิตฮอร์โมน สร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย อีกทั้งกรดไขมันจำเป็นคือ โอเมก้า-3 ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ อาหารเช้าจึงขาดไม่ได้ และไม่ใช่ทานอะไรก็ได้แค่ขอให้ได้ชื่อว่าทานมื้อเช้า แต่ควรเป็นอาหารที่ดี เพื่อการเริ่มต้นวันใหม่ที่ดีทั้งในแง่สุขภาพและสมรรถภาพในการปฏิบัติงานในหน้าที่ วันต่อๆไปนี้ คุณวางแผนทานอาหารเช้า รวมไปถึงมื้ออื่นๆ ไว้อย่างไรบ้างคะ
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |