ปมร้าว ปชป.”เด็กฝาก-เด็กเส้น” เขี่ย “เด็กเก่า” ขึ้นปาร์ตี้ลิสต์  

เข้าสู่ช่วงนับถอยของการยุบสภา ทำให้วันนี้ทุกพรรคต่างเร่งเฟ้นหาผู้สมัครให้ลงตัว โดยเฉพาะพรรคใหญ่อย่างประชาธิปัตย์ ที่มีแรงกระเพื่อมเกิดขึ้น หลังจากจัดผู้สมัครทั้งแบบเขต และบัญชีรายชื่อไม่ลงตัว เมื่อปรากฎชื่อทายาททางการเมือง และกลุ่มทุนหนุนหลังพรรค เข้ามาเบียดแทรกที่นั่งเดิมของส.ส.หน้าเก่า จนเกิดศึกฟาดฟันกันเองภายใน

วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ ต้องปวดหัวอย่างหนักกับการจัดบัญชีผู้สมัครรับเลือกตั้ง  ในระบบเขตหลังจากเหลือเพียง 375  คน โดยเฉพาะในพื้นกรุงเทพ  เป้าหมายหลักของประชาธิปัตย์ จากเดิมมี 36 คน เหลือเพียง 33 คน จึงทำให้ผู้สมัครทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ต้องวิ่งเต้นหาที่ลงเพื่อปักธงให้ได้ ในขณะที่ระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1-50 ได้กันพื้นที่สำหรับอดีตรัฐมนตรี กลุ่มทุน และกลุ่มขั้วอำนาจในพรรค แม้จะมีการประเมินว่าลำดับ 55 เป็นโซนที่ปลอดภัยก็ตาม

จนเกิดปรากฎการณ์ เด็กเส้น เด็กฝากสายใกล้ชิดผู้มีอำนาจ และกลุ่มทุนเข้ามาแทนที ส.ส.หน้าเก่า  ทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งภายในพรรค หลังจากเลขาธิการพรรค สุเทพ เทือกสุบรรณ เข้ากุมอำนาจภายในได้อย่างเบ็ดเสร็ดเด็ดขาด และเป็นคนชี้ขาดว่าใครจะเหมาะสมลงเลือกตั้ง ในฐานะแม่บ้านพรรค และจัดเตรียมกระสุนดินดำ  จนเกิดความขัดแย้งกับแกนนำระดับอาวุโสในพรรคหลายคน

ปมความขัดแย้งที่เกิดขึ้น มาจากความไม่พอใจของเหล่าบรรดาแกนนำ และพรรค ส.ส.พรรค ที่ สุเทพ เทือกสุบรรณ กันพื้นที่เป้าหมายสำคัญให้กับกลุ่มทุน และทายาททางการเมือง และผลักดัน ส.ส.เก่าขึ้น ระบบบัญชีรายชื่อ ในลำดับที่มีความเสี่ยงต่อการสอบตก จนทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น ในการเลือกตั้งเที่ยวนี้

ศึกเที่ยวนี้ประชาธิปัตย์ถือโอกาสเปิดพื้นที่ให้ส.ส.หน้าใหม่แจ้งเกิด แต่เมื่อพลิกดูรายชื่อกลับพบว่าล้วนเป็นทายาททางการเมืองของผู้มีบารมีภายในพรรค ไล่จาก เอกณัฏ พร้อมพันธุ์ ลูกบุญธรรมของ สุเทพ ที่ถูกวางตัวในเขต 29 ทวีวัฒนา-หนองแขม แทน วัชระ เพชรทอง จนเกิดรายการแฉเรื่องเด้กเส้น  ส่วนเขต  4 คลองเตย -วัฒนา ก็มีการวางตัว ณัฐ บรรทัดฐาน บุตรชาย บัญญัติ บรรทัดฐาน ลงสมัครด้วย

ในขณะที่ทายาทเบียร์สิงห์ จิตภัสร์ ภิรมย์ภักดี ก็ถูกวางตัวลงเขตดุสิต -ราชเทวี ส่วนเขตปทุวันต้องออกแรงสู้ระหว่าง อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ กับ  ม.ล.อภิมงคล โสณกุล โดยวางตัว อรอนงค์ ขึ้นปาร์ตี้ลิสต์ จนทำให้เธอไม่พอใจ ยื่นเงื่อนไขพร้อมลาออกจากพรรค รวมไปถึงกรณีทายาทบิ๊ก คมช. สกลธี ภัททิยกุล ที่หวังปักธงใน เขตพญาไท เบียดโควตา บุญยอด สุขถิ่นไทย ที่ถูกส่งขึ้นบัญชีรายชื่อแทน และยังไม่รู้ชะตากรรม

แน่นอนว่าศึกภายในพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ มีทั้งผู้สมหวัง และผิดหวัง แต่ปมปัญหาทีเกิดขึ้นจะกลายเป็นบาดแผลลึก ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อเป้าหมายทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสถาบันทางการเมือง และสุดท้ายแล้วก็พิสูจน์ให้เห็นว่าพรรคที่เก่าแก่ที่สุดก็ไม่สามารถหนีพ้นการครอบงำจากกลุ่มทุนทางการเมือง.

-------------//--------------