II การหา url address ของคลิปจาก internet

ถ้ามีคลิปที่น่าสนใจซึ่งคุณไปพบเจอใน internet แล้วอยากจะเอามาแบ่งปันให้คนอื่นได้ชมด้วย โดยที่ไม่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ของเจ้าของคลิปหรือผู้ที่มีภาพและเสียงอยู่ในคลิปนั้น

สมมติ วันที่นายกสมัครไป อตก. แล้วนักข่าวลอบไปอัดเสียงตอนที่ท่านนั่งในห้องน้ำ หรือแอบถ่ายภาพตอนท่านเบ่ง มาเผยแพร่บน internet แล้วคุณไปเอามาลงใน blog ก็ระวังจะโดนฟ้องได้ หรือ ไปเอาภาพที่ดาราเต้าหลุดมาเผยแพร่ต่อก็เช่นกัน อีกกรณีหนึ่ง อาจเป็นไฟล์ที่ผู้โพสไว้ได้ลงทุนใช้ความสามารถส่วนตัวเก็บภาพมาได้หรือทำคลิปเพื่อการค้า แล้วเราไปเอาของเขามาใส่ blog อันนี้ก็เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์โดยปริยาย ไม่ต้องพูดถึงมิวสิควีดิโอของค่ายเพลงดังต่างๆ เป็นต้นค่ะ

เพราะฉะนั้น คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีหา url address จาก internet ในข้อนี้ ขอสงวนไว้เพื่อผู้ที่มีเจตนาในการทำโดยสุจริตและผู้ที่ไปนำของคนอื่นมาโพสใน blog ต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นเองนะคะ

สิ่งที่ blogger กังวลและเป็นห่วงมากก็คือการถูกเจ้าของลิขสิทธิ์ที่ไม่ใช้เหตุผลที่เหมาะสม มากล่าวโทษหรือเรียกร้องค่าเผยแพร่ หรือสั่งห้ามการนำคลิปของเขามาเผยแพร่ ซึ่ง blogger แต่ละท่านก็ตระหนักดีอยู่แล้ว ดังนั้น ก่อนที่จะไปเอา url address ของคลิปจาก internet มาใช้ ควรพิจารณาให้ดี ถ้าต้องขออนุญาติเป็นลายลักษณ์อักษรก็ควรทำ ยกตัวอย่างเช่น

คลิปการเกิดสุริยคราสเต็มดวงเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2551 ที่ปิรันญ่านำมาเผยแพร่นั้น ก็ได้มีการแจ้งเจ้าของเว็บไซต์ และได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ได้ 

เข้าเนื้อหาการหา url address จาก internet แบบมือใหม่หัดโพสนะคะ

ขณะที่อยู่หน้าเว็บที่มีคลิปต้องประสงค์ และสามารถนำมาเผยแพร่ต่อได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ให้ทำดังนี้

คลิก View จาก Main Menu ของ browser (ในที่นี้ใช้ Internet Explorer) แล้วเลือก Source
จเห็น Notepad ขึ้นมาหนเจอ ในนั้นประกอบไปด้วยคำสั่งที่ทำให้เว็บเพจเป็นอย่างที่ท่านเห็น รวมทั้งมี source code ของคลิปที่ท่านจะ copy อยู่ด้วย

จะรู้ได้อย่างไรว่า คำสั่งชุดไหนคือ คำสั่งที่จะ copy มาใช้?

วิธีการค้นหา

1. กดแป้น Ctrl กับ F

2. พิมพ์ key word ลงไป ตามภาพ

จะไปโผล่ตรงตำแหน่งที่มีคำ  key word นั้นปรากฎอยู่ใน Notepad

ตัวอย่างที่ 1 คำสั่ง object

โดยปกติคำสั่งที่ขึ้นต้นด้วย object และจบด้วย /object (ในวงเว็บ < >) จะใช้สำหรับการนี้ จึงให้พุ่งเป้าไป seach หาคำนี้ใน Notepad  แต่ถ้าเจอหลายชุด
เพราะอาจจะมีหลาย object ในเว็บเพจนั้น เราก็ต้องสังเกตุให้ดีว่า ก่อนและหน้า คลิป มีคำว่าอะไรปรากฎอยู่บ้าง เลือกคำเหล่านั้นมาเป็น key word ในการ search แล้วไล่ดูว่าชุดคำสั่ง object ใกล้เคียงอยู่ตรงไหน

คุณจะค้นหาด้วยคำว่า object ทีเดียวเลยก็ได้ ถ้าแน่ใจว่าจะไม่ไปโผล่ผิดที่
(สมมติมี object อื่นแทรกอยู่ในเว็บเพจนั้นโดยที่เราไม่ได้สังเกตุเห็น) ดูคำอธิบายในภาพ 3 ภาพต่อไปนี้เพื่อทำความเข้าใจค่ะ

สังเกตุ ชุดคำสั่งนี้ให้ดีนะคะ
1. จะขึ้นต้นด้วย คำสั่งใน tag เปิด  < > แล้วจบด้วย tag ปิด  </ > เสมอ จึงต้อง copy ให้ครบ
คือตั้งแต่  <object> ไปจนถึง  </object>

แต่ละ object จะมี
- id กำหนดโดยเจ้าของผู้ออกแบบ Media Player
- style ใช้กำหนดรูปแบบ ตำแหน่งที่จะวาง ขนาดความกว้าง ความสูง ฯลฯ เรากำหนดหรือแก้ไขเองได้
- classid กำหนดโดยเจ้าของผู้ออกแบบ Media Player
- parameter (เขียนย่อๆว่า param) มีค่าที่ต้องกำหนด 2 ค่า คือ param value กับ param name
เช่น param value="http.www.ขื่อเว็บ.com/ชื่อไฟล์.สกุลของไฟล์" param name="URL"
ใช้กำหนด source file หรือที่เรียกว่าurl address ของไฟล์ที่จะใช้นั่นเอง
param value="false" หรือ "true" param name=autostart" ใช้กำหนดว่าจะให้เล่นอัตโนมัติหรือไม่

2. url address ของ Media File นี้คือ http://www.oknation.net/blog/home/video_data/396/396/video/27995/27995.wmv
วิธีจะเช็คว่า url นี้ work หรือไม่ ก็ให้ copy ไปใส่ใน browser address หรือ ใน open url ของโปรแกรมเล่นเพลง / วีดิโอ Windows Media Player นะคะ

3. Media File ใน object นี้ เป็นไฟล์สกุล .wmv

ดูตัวอย่างคลิปค่ะ (เปลี่ยน width เป็น 425 height เป็น 344 ค่ะ)

ที่มา: http://www.oknation.net/blog/nanahahe/2008/08/12/entry-1

ตัวอย่างที่ 2 คำสั่ง Embed

ปัจจุบันการใช้คำสั่ง Embed กับไฟล์เพลง ทำกันเป็นเรื่องปกติแล้ว มีโครงสร้างง่ายๆเพียงเอา url address มาใส่ ก็ใช้ได้แล้ว เว้นแต่จะกำหนดอะไรเพิ่มเติม
คำสั่ง Embed นี้ไม่มี Tag ปิด คือเริ่มต้นด้วย <embed>  โดยไม่ต้องมี   </embed>

เราใช้วิธีการค้นหา เพื่อหาว่าชุดคำสั่ง embed อยู่ตรงไหนใน Notepad เช่นเดียวกับที่เราหา object ในตัวอย่างที่ 1 ค่ะ

เวลาจะ copy ควรดูให้ดีว่าคำสั่งจบลงที่ตรงไหน
ถ้าเปรียบเทียบคำสั่งแต่ละชุดเหมือนชั้นของกะหล่ำปลี คำสั่งชุดหนึ่งๆจะถูกห่อด้วยคำสั่งอีกชุดหนึ่งซ้อนๆกันไปค่ะแกะเปลือกนอกออก เอาเนื้อในมาใช้ค่ะ เช่นเดียวกับการใส่วงเล็บในโจทย์คณิตศาสตร์  ทำในวงเล็บในสุดก่อน
ในกรณีนี้ ให้มองว่าชุดคำสั่ง Media Player ที่ต้องการอยู่ระหว่างคำสั่งอะไร ก็ copy มาเฉพาะที่ "ใช่" ค่ะ

ดูองค์ประกอบสักนิด

1. Media File ในชุดนี้เป็นไฟล์ Flash ต้องใช้คู่กับ Application สำหรับอ่านโดยเฉพาะ ได้แก่ x-shockwave-flash บางครั้งคนชมจะต้องไปโหลด application นี้มาก่อนจึงจะเปิดไฟล์ชมได้ เว้นแต่ว่าจะมีอยู่ในคอมพิวเตอร์แล้ว

2. url address ของ Media File นี้ คือ http://www.youtube.com/watch?v=Y2YOGfBFAbs
วิธีทดสอบว่า url address นี้ work หรือไม่ ก็ให้ copy ไปใส่ใน browser address กด Enter ถ้า ok ก็จะได้ชมคลิปนั้น ถ้าไม่ได้ ก็ต้องเช็คว่า copy หรือไม่นะคะ

ดูคลิปตัวอย่างค่ะ

ที่มา: http://www.oknation.net/blog/nanahahe/2008/08/12/entry-1

3. ขนาดของจอภาพขณะชม กำหนดโดยคำสั่ง Width กับ Height ซึ่งควรจะใช้ตามที่ copy มา มิเช่นนั้นการแก้ไขความกว้างและความสูงแบบผิดสัดส่วนจะทำให้ภาพที่ออกมาผิดเพี้ยนไปค่ะ
แต่สามารถขยายได้โดยอัตโนมัติ ตรงที่บอกว่า allowfullscreen นั้น เป็นการกำหนดว่าจะชมจอยักษ์ได้หรือไม่ได้ ถ้าใส่ค่าเป็น "true" คือ ได้ ใส่ "false" คือไม่ได้

ข้อสำคัญในการนำ media  file จากเว็บไซต์ผู้อื่นมาใช้ "เราต้องให้เครดิตเขา" ด้วยค่ะ

หมายเหตุ
พวก attribute ที่จะกำหนดการทำงานเพิ่มเติมนี้ สามารถศึกษาได้จากเว็บที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้งานคำสั่งต่างๆ เช่น

http://msdn.microsoft.com/en-us/library/ms533033(VS.85).aspx
http://www.tizag.com/

ถ้าไม่ถนัดภาษาอังกฤษและไม่อยากเสียสตางค์ไปซื้อหาตำรามาอ่านลอง Search หาจาก Google ได้ค่ะ รับรองมีเพียบ

อ่าน 
...... ใส่สีสันให้ blog ด้วยเสียงและภาพ Step by Step
  ตอน 1 [upload media file]
โปรดติดตาม ตอนที่ 3 - 5  ในโอกาสต่อไป (ทำไปเขียนไปค่ะ)

ขอบคุณที่มาอ่าน และแสดงความคิดเห็นค่ะ
ปิรันญ่า
15 สิงหาคม 2551