
ความจริงวันนี้ ความจริงจะค่อยๆ เปิดเผย เปิดตัวตนให้รู้ ที่ว่าไม่เกี่ยวข้อง มันจะปฎิเสธ อย่างหน้าด้าน ว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง ไม่ได้สนับสนุน อยากรู้นัก แกนนำทั้งหลายประกอบสัมมาอาชีพอะไร?........ จึงมีเงินใช้ โดยที่ทุกวันไม่ได้ไปทำงานเลย แปลกใจนะ เมื่อเกิดการถกเถียงในสังคม คนที่มีความรู้ ความสามารถที่จะใฝ่หาความรู้ ศึกษาข้อมูลได้มากมาย จึงไม่เข้าใจว่าทำไม ชื่นชม ทักษิณ ทำไมจึงมองข้าม ข้อเสียของทักษิณ ทำไมจึงคิดว่า เงินที่ได้มาจากโอกาสที่เข้ามาบริหารบ้านเมือง และใช้อำนาจเงินที่มีเอาเปรียบ การลงทุนของผู้อื่น....(เหมือนเป็นมาเฟีย) อาศัยอำนาจ จากการบริหารบ้านเมือง ใช้เงินซื้อทุกอย่างเพื่อประโยชน์ส่วนตน และนำมาแจกจ่ายให้กับคนที่ได้ประโยชน์ (ไม่อยากใช้คำว่า "เห็นดี เห็นงาม") เหมือนเพลงที่ว่า "เห็นนก พี่บอกว่าไม้ น้องก็ว่าไม้ ไปตามวาจา" ไม่ตะขิดตะขวงใจ ในบาปบุญคุณโทษ
 แล้วที่ตะโกน ว่าตั้งใจจะ สั่งเก็บนั้น เป้านิ่งตรงนี้ ยิงได้สบาย แต่ รัฐไม่จัดการหรอก?............ แค่แกนนำเป็นลม ยังตะโกนว่าถูกยิงเลย ไก่ตื่นจริงๆ ................ 


http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000052599 "เอสซีปาร์ค"รังโจรแดง ตระกูลชินวัตรต้องรับผิด |
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ | 16 เมษายน 2553 23:50 น. |
 |
 | คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น |
|
|
|  | รายงานการเมือง/กรงเล็บ ความสลดหดหู่เข้ามาครอบงำหัวใจคนไทยอีกครั้ง หลังปฏิบัติการของหน่วยเฉพาะกิจที่เข้าบุกจับกุม แกนนำก่อการร้ายแดง ทั้ง ไอ้กี้ แรมบ้า และ เจ๋ง ดอกจิก ประสบกับความล้มเหลว แถม รอง ผบช.น.ยังถูกจับเป็นตัวประกัน ถือเป็นการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างยิ่ง เพราะในฐานะผู้รักษากฎหมาย นอกจากไม่สามารถจับกุมผู้ร้ายได้แล้วกลับถูกโจรจับเป็นตัวประกัน อะไรกำลังเกิดขึ้นกับบ้านเมือง! เศร้าใจ จริง ๆ สังคมไทย แต่เราไม่มีเวลาสำหรับน้ำตา ความหดหู่ หรือ การตะโกนด่าทอ ต้องรวบรวมสติมองสถานการณ์ให้รอบแล้วช่วยกันเพื่อนำบ้านเมืองผ่านพ้นสภาวการณ์นี้ให้ได้ สิ่งที่ยังทำให้รัฐบาลที่มี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยืนหยัดอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ คือแรงสนับสนุนจากพี่น้องประชาชน ภาพความล้มเหลวที่เกิดขึ้นหลายครั้งติด ๆ กัน อาจทำให้พลังนี้ท้อแท้ ซึ่งนั่นก็เท่ากับเพิ่มความอ่อนล้าให้กับ อภิสิทธิ์ ที่กำลังพยายามอย่างเต็มที่ในการใช้กลไกรัฐซึ่งเป็นอัมพฤกษ์ขับเคลื่อนแก้ปัญหาชาติ ปฏิบัติการล้อมจับแกนนำที่ โรงแรมเอสซีปาร์ค มีความน่ายินดีให้เห็นอย่างหนึ่งว่า ในภาวะที่กลไกรัฐขยับไม่ค่อยออก อย่างน้อยมีนายตำรวจที่เห็นแก่บ้านเมืองชุดหนึ่งที่ปฏิบัติภารกิจของตัวเองอย่างเต็มที่ เพื่อรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย พวกเขาถือเป็นนายตำรวจมือดีชุดหนึ่งในทีมของ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และทำงานหนักในการสะกดรอยหัวโจกก่อการร้ายแดงเพื่อตะครุบตัว กระทั่งชัดเจนว่าแก๊งโจรก่อการร้ายซุกซ่อนตัวอยู่ที่ ร.ร.เอสซีปาร์ค ทีมชุดเฉพาะกิจแฝงตัวในโรงแรมเพื่อดักจับกุมตั้งแต่ตีสอง ซุ่มรอกระทั่งโจรเข้าที่พัก แต่ยังไม่สามารถรวบตัวได้ เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายเนื่องจากมีการ์ดชุดดำคอยให้ความคุ้มครอง ประกอบกับต้องการเสาะหาหลักฐานจากแหล่งกบดานนี้ให้ได้มากที่สุด ทีมเฉพาะกิจจึงตลบหลังปฏิบัติการอย่างเงียบเชียบนำรหลักฐานสำคัญหลายอย่างออกมาได้ โดยที่กลุ่มผู้ก่อการร้ายยังไม่ทันไหวตัว กระทั่งถึงยุทธการล้อมจับซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่ย่ำรุ่ง คือช่วงประมาณหกโมงเช้า หน่วยเฉพะกิจได้เรียกกำลังเสริมจากนครบาล เนื่องจากภายในโรงแรมมีกำลังของกลุ่มก่อการร้ายแดงอยู่ไม่น้อย แต่ปรากฏว่ากว่ากำลังเสริมจะมาใช้เวลากว่าสองชั่วโมง มาถึงก็ยังเก้ ๆ กัง ๆ ไม่ยอมเข้าสนธิกำลัง ปฏิบัติหน้าที่ ระหว่างนั้นข่าวการล้อมจับแกนนำก็แพร่สะพัดออกไป จนเสื้อแดงเริ่มระดมพลไปที่โรงแรมเอสซีปาร์ค พูดอย่างให้ความเป็นธรรมก็คือ ข่าวรั่วออกไปก่อนที่ สุเทพ เทือกสุบรรณ จะแถลงต่อสื่อ ถ้าใครรับเอสเอ็มเอสจากสื่อสำนักต่าง ๆ จะทราบดีในข้อมูลนี้ ที่น่าอายที่สุดสำหรับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คือ เสื้อแดงระดมพลไม่ถึงชั่วโมง คนก็มาเกือบพัน ส่วนตำรวจนครบาลกว่าจะย้ายก้นไปร่วมสนธิกำลังใช้เวลากว่าสองชั่วโมง ระดมตำรวจได้ไม่ถึงร้อยคน แล้วพ่อเจ้าประคุณทูลหัวตำรวจไทยจะไปจับคนร้ายที่ไหนได้! ปัญหาที่เกิดขึ้นจนนำมาสู่ความล้มเหลว ตอกย้ำให้สังคมไทยได้เห็นชัดเจนอีกครั้งว่า ประเทศชาติกำลังจะล่มสลาย เพราะแต่ละฝ่ายไม่ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเข้มแข็งเต็มกำลัง เมื่อมีการขอกำลังเสริม นครบาลกลับเพิกเฉยไม่ดำเนินการ สะท้อนให้เห็นว่า พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น.ล้มเหลวในการบังคับบัญชาอย่างสิ้นเชิง ไม่น่าเชื่อว่าตำรวจไทยจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยกับสภาพบ้านเมืองที่กฎหมายมีค่าเพียงแค่กระดาษรอวันถูกฉีกทิ้ง ไม่น่าเชื่อว่าตำรวจไทยที่เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ มีหน้าที่รักษากฎหมาย จะยอมรับสภาพอันธพาลครองเมือง โดยไม่รู้สึกเจ็บปวดกับสถานการณ์นี้ ไม่น่าเชื่อว่า ตำรวจไทย ซึ่งเป็นกลไกหลักของบ้านเมือง จะขาดจิตสำนึกจนยอมตนเป็นส่วนหนึ่งในการเข้าด้วยช่วยเหลือนำไปสู่ความล่มสลายของสังคม ยังมีความไม่น่าเชื่ออีกเยอะ แต่มันก็เกิดขึ้นเป็นจริงในสังคมของเราแล้ว สิ่งหนึ่งที่เป็นข้อดีจากสถานการณ์นี้ คือ ปรากฏหลักฐานชัดเจนอีกครั้งว่า ตระกูลชินวัตรให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย ทำลายความสงบสุขของผืนแผ่นดินไทย โรงแรมเอสซี ปาร์ค เดิมชื่อ โรงแรมเดอวิว เป็นของ พีระพงศ์ ถนอมพงศ์พันธุ์ อดีนตรมช.คมนาคม สมัยพรรคพลังธรรมร่วมเป็นรัฐบาล ในปี 2541 บ.เอสซีแอสเสทที่มีตระกูลชินวัตรเป็นเจ้าของ ได้ทำการขยายธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ และซื้อโรงแรมเดอวิวต่อจาก พีระพงศ์ ทำให้ตระกูลชินวัตรเป็นเจ้าของโรงแรมนี้ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา โรงแรมเอซี ปาร์ค ถูกใช้ในการจัดกิจกรรมทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการจัดสัมมนา การพบปะของบุคคลสำคัญระดับแกนนำ ยกตัวอย่างเช่น การจัดสัมมนา ทางรอด วิกฤตเอ็มเอมอีไทย ที่มี วิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาคกทม.พรรคเพื่อไทย เป็นประธานเปิดงานสัมมนา เมื่อวันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม 2552 การประชุม ส.ส. และงานเลี้ยงสังสรรค์สวัสดีปีใหม่ 2553 ของพรรคเพื่อไทย ที่เกิดเรื่องฉาวให้เงินสื่อไปอาบน้ำก็เกิดขึ้นที่ รร.เอสซีปาร์ค เหตุการณ์สำคัญทางการเมืองที่กลายเป็นข้อเท็จจริงสำคัญ ทำให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งตัดสินยุบพรรคเพื่อไทยก็มี โรงแรมเอสซีปาร์คเป็นสถานที่ถ่ายทำ โดยในครั้งนั้น ศาลฯมีคำสั่งให้ ยุทธตู้เย็น หรือ ยงยุทธ ติยะไพรัช ต้องยุติบทบาททางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ด้วยการทุจริตการเลือกตั้งด้วยการแจกเงินให้กับกลุ่มกำนัน อ.แม่จัน จ.เชียงราย ซึ่งเป็นหัวคะแนนของ ยุทธตู้เย็น คดีนี้ศาลได้ไต่สวนพยานทั้งสองฝ่าย โดย กกต. ผู้ร้อง นำพยานเข้าไต่สวนรวม 3 ปาก ซึ่งเป็นกำนัน อ.แม่จัน นำโดย นายชัยวัฒน์ ฉางข้าวคำ กำนัน ต.จันจว้า ให้การว่าได้รับเงินจำนวน 20,000 บาท จากนายบรรจง ยางยืน นายกเทศมนตรี ต.จันจว้า คนสนิทนายยงยุทธ ที่ รร.เอส.ซี.ปาร์ค ยังมีอีกฉากหนึ่งที่เกิดขึ้นในโรงแรมเอสซีปาร์ค เช่นเดียวกัน คือ กระแสข่าวมีข้าราชการระดับสูงในดีเอสไอ ไปพบกับ สมชาย ชายกระโปรง ที่ โรงแรมเอสซีปาร์ค ก่อนข้อมูลเรื่องเงินบริจาค 258 ล้านบาท จะถูกพรรคเพื่อไทยนำมาเปิดเผย มาคราวนี้ข้อเท็จจริงปรากฏชัดต่อสังคมไทยว่า โรงแรมเอสซีปาร์ค ที่ตระกูลชินวัตรเป็นเจ้าของ ให้ที่พำนักแหล่งกบดานกับกลุ่มก่อการร้ายแดง แถมยังแปรสภาพจากโรงแรมเป็นคลังอาวุธให้กับกองกำลังแดงอีกด้วย คนในตระกูลชินวัตรต้องรับผิดชอบ ต่อเหตุก่อการร้ายครั้งนี้ ในขณะที่อำนาจรัฐยังทำงานแบบติด ๆ ดับ ๆ เราคนไทยจะถอดใจไม่ได้ รัฐบาลต้องพยายามบังคับใช้กฎหมายต่อไป ถ้ายังจัดการกับกลุ่มนอกกฎหมายไม่ได้ในทันที ก็ต้องจัดการกับกลุ่มนักธุรกิจรวมทั้งคนในตระกูลชินวัตรที่นั่งห้องแอร์ดูไพร่เสียสละต่อสู้ ให้ได้ลิ้มรสข้าวแดงแทนไข่ปลาคาร์เวีย เข้าใจดีว่าสังคมไทยกำลังท้อแท้ สิ้นหวัง แต่เราต้องรวบรวมพลังใจสร้างพลังทางสังคมต่อ อย่าปล่อยให้กบฏแดงมายึดเมืองไทย บนสถานการณ์ที่เมืองไทยสุ่มเสี่ยงอยู่บนหุบเหวแห่งหายนะ เราคนไทยมีหน้าที่ช่วยเป็นพลังฟื้นอำนาจรัฐให้มีความเข้มแข็ง ต่อลมหายใจให้กับประเทศ ไม่ใช่ละทิ้งหรือใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล จนกลายเป็นส่วนหนึ่งที่ผลักบ้านเมืองไปสู่ความหายนะ เรายังต้องสร้างเสริมกำลังใจให้กับตำรวจดี ทหารดี ที่เขาพร้อมทำหน้าที่นำชาติกลับสู่ความสงบเรียบร้อย อย่าทิ้งให้เจ้าหน้าที่รัฐต้องปฏิบัติภารกิจอย่างเดียวดาย พลังความดีแห่งสังคมไทยต้องแปรสภาพจากพลังเงียบมาเป็นเครื่องอ๊อกซิเย่นต่อลมหายใจให้กับประเทศนี้ อย่าหยุดการแสดงพลังต่อต้านการกระทำนอกกฎหมาย แต่เราต้องร่วมกันทำต่อเนื่องให้เกิดเป็นลูกคลื่นซัดกบฏแดงให้หลุดพ้นวงโคจรในการทำร้ายบ้านเมือง
|
|
|
|
|
|
|