วันนี้เป็นวันดำน้ำวันสุดท้ายของทริปละ อยากไปดูหัวค้อนที่ Kemod Shoal มาก ๆ แต่ไม่มีใครไปกะเราเลย ร้านบอกต้องมีนักดำน้ำ 4 คนขึ้นไปถึงจะออกเรือไป แต่เรามีกันแค่ 2 อะ จุดอ่อนของการไปเที่ยวแบบเชิงเดี่ยวสินะ (- -') สุดท้ายเลยไป Monad Shoal อีกก็ได้ สภาพน้ำวันนี้ขุ่นกว่าเมื่อวานแต่ใสกว่าวันก่อน อาจจะเพราะสว่างแล้ว แดดลง ยังคงเจอฉลามหางยาวว่ายวน เนื่องจากเมื่อวานถ่ายรูปไปเยอะแล้ว วันนี้บางจังหวะเลยถือโอกาสแค่ชื่นชมลีลาการว่ายของฉลามหางยาวแบบตาเปล่าบ้าง ซึ่งก่อนจบไดฟ์นี่เจอว่ายมาซะใกล้เชียว

ออกเรือสายกว่าเมื่อวานนิดหน่อย

ใกล้แถมมีเหล่มองอีก...

ไดฟ์สองและสาม เนื่องจากสองคนอยากเจอ Blue-ringed octopus ให้ได้ ไดฟ์ลีดเดอร์เลยพาไป North Point มีฝรั่งอีกสองคนมาร่วมเรือด้วย อยากเจอ Blue-ringed octopus เหมือนกัน ซึ่งสุดท้ายก็ไม่เจอหรอก แต่ไดฟ์สองนี่มี Giant frogfish กับ Painted frogfish ก็เลยโอเคระดับนึง

ไดฟ์สอง

พักน้ำระหว่างรอลงดำไดฟ์สามกันแถวนี้

ไดฟ์นี้สั้นนิดเดียว เพราะเวลาหมดก่อน

วันนี้ดำแค่ 3 ไดฟ์ ไม่สามารถดำ sunset dive ได้ เพราะพรุ่งนี้ต้องขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพ ตามกฎความปลอดภัยต้องพักน้ำก่อนขึ้นเครื่องอย่างน้อย 24 ชั่วโมง (จริง ๆ เมื่อก่อนไม่ถึง แต่เดี๋ยวนี้ไดฟ์คอมพิวเตอร์ตั้งไว้ประมาณนี้ ถ้าขึ้นก่อนครบเวลา ไดฟ์คอมจะด่าและระเบิดตัวเอง hahaha) กลับเข้าเรื่อง ๆ หลังจากจบไดฟ์ก็ล้างอุปกรณ์ ตากให้เรียบร้อย อาบน้ำแล้วออกมาสั่งอาหารรองท้อง ก่อนออกไปตระเวนรอบเกาะ หาจุดชมพระอาทิตย์ตกถ่ายรูป

แค่รองท้องจริง ๆ นะ

สองคนตัดสินใจเช่ามอเตอร์ไซค์แทนการใช้บริการวิน เพราะวันก่อนกรุ๊ปดำน้ำอีกกรุ๊ปโดนพี่วินทิ้งที่ประภาคารซะงั้น นัดไปรับแล้วไม่ไป จนเขาต้องเดินกลับ แต่โชคดีที่มาเจอสต๊าฟร้านดำน้ำที่หมู่บ้าน เขาเลยมาส่งแทน สำหรับคนที่สนใจจะเช่ามอเตอร์ไซค์ก็แจ้งไดฟ์ลีดไปเลย เดี๋ยวเขาติดต่อให้ ราคาก็ 200 เปโซ/ชั่วโมง ถึงเวลาก็เดินไปแจ้ง รปภ. รีสอร์ท เขาก็จะพาไปที่ร้านเช่าด้านหลังรีสอร์ทนั่นแหละ ไม่ยุ่งยากอะไร

พร้อมแล้วก็ลุยกันเลย

จุดหมายแรกที่เราไปคือประภาคารประจำเกาะนั่นเอง เอาจริง ๆ หาทางขึ้นไม่เจอ แต่เจอเด็กนักเรียนแถวนั้นเลยสอบถาม เด็กน้อยก็ขี่จักรยานนำไปถึงจุดทางขึ้น เราเลยให้สินน้ำใจเล็กน้อยไปคนละ 20 เปโซ จากตอนแรกจะกลับอยู่แล้ว เด็กน้อยเลยทิ้งจักรยานแล้วนำทางไปจนถึงประภาคารพร้อม

ทางเข้ามีป้ายแค่นี้ ต้องจอดรถไว้ที่พงหญ้าแล้วเดินผ่านบ้านชาวเกาะเข้าไปอีก ไอ้เราก็นึกว่ามีทางให้รถขึ้นไปถึง

ตะกายขึ้นไปค่ะ

ทางเดินเหมือนไม่ได้ตั้งใจจะให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปสักเท่าไหร่

มีรั้วกั้นพร้อม

ในที่สุดเราก็มาถึงจนได้

แต่เราว่าที่ประภาคารจะถ่ายรูปพระอาทิตย์ไม่สวย เลยย้ายจุด ก็ลองขี่ไปเรื่อย ๆ ลงไปดูตามหาดนั้นหาดนี้ สุดท้ายมาจบที่หาดของหมู่บ้านชาวประมงด้านล่างประภาคารนั่นแหละ ซึ่งก็ไม่ผิดหวังนะ มีฉากหน้าเป็นเรือให้พร้อม และคิดว่าตัดสินใจไม่ผิดที่เช่ามอเตอร์ไซค์ เพราะพอหลังพระอาทิตย์ตกน่าจะเดินกลับลำบาก

เดินฝ่าหมู่บ้านไปจะมีตรอกให้เดินไปอีกหาดนึง

จริง ๆ หาดนี้ก็ถ่ายรูปได้ แต่ยังไม่ถูกใจเลยเดินกลับ

โชคดีที่เดินกลับมาทันเวลาแสงกำลังสวยเลย

ระหว่างทางขากลับ ชาวเกาะเริ่มออกมาทำกิจกรรมก็เลยได้เก็บภาพอีกนิดหน่อย สรุปเราเช่ามอเตอร์ไซค์ไป 3 ชั่วโมง 600 เปโซ

ไลน์บุฟเฟ่ต์ตอนเช้า ซึ่งรวมอยู่ในราคาค่าห้อง และโซนนั่งรับประทานอาหาร ภาพนี้ถ่ายวันเดินทางกลับ

ปิดท้ายบล็อคเที่ยวด้วยภาพนี้ ขากลับเราไปเวียมะนิลาด้วย กลับถึงกรุงเทพ ฯ โดยสวัสดิภาพ ประมาณ 22.00 น. พร้อมกับตัดสินใจว่าชั้นจะกลับไปอีกเร็ว ๆ นี้ :)