*/
Only love pics | ||
![]() |
||
View point |
||
View All ![]() |
<< | มีนาคม 2016 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | ||
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
ณ เ ว ล า ห นึ่ ง @ วัดภูพร้าว
เสียงพี่ชาย..ดังมาจากมาด้านหน้าของรถตู้ ที่ he กับสารถีของ he ขับมารับสามสาวจากตัวเมืองอุบลฯ กลับจากปากเซ ที่ด่านช่องเม็ก..(ดี๊ดี) แต่บอกว่า..เดี๋ยวจะพาไปวัดวัดหนึ่ง ระหว่างที่รถวิ่งกลับจากด่านฯ เพราะเป็นส้นทางขากลับที่เราจะผ่านอยู่แล้ว โห เราฟังดังนั้น..โอ้ย..ขี้เกียจจะแย่..อยากจะให้ถึงที่พักไวๆ กลับช้าไปกันใหญ่ ต้องถึงค่ำมากแน่ๆ แต่พี่ยังย้ำอีกว่า.. หากมาอุบลฯ แล้ว ไม่แวะวัดนี้ถือว่า..มาไม่ถึงนะ ..อ้าว..เหรอ..ไม่ทันได้ฟังคำตอบจากพวกเราเลยว่า..อยากแวะหรือไม่..พี่ชายสั่งให้สารถีเลี้ยวป๊าดขับขึ้นเขาไปทันใด
ณ เ ว ล า ห นึ่ ง @ วัดภูพร้าว
กลับจากป า ก เ ซ..ออกจากด่านช่องเม็ก ก้อค่อนข้างเย็นมาก และจะต้องเดินทางไปในตัวเมืองอุบลนั้น เส้นทางก้ออีกยาวไกล หรือประมาณอีก ชั่วโมงกว่าๆ เห็นจะได้ แต่หลังจากเที่ยวสามน้ำตกในปากเซ ไม่เหนื่อยมากนัก แต่ก้ออยากรับกลับที่พัก เพื่อการพักผ่อน ด้วยเสื้อผ้าหลังจากเปียกฝนในน้ำตกตาดเยืองในปากเซมาเมื่อตอนขากลับ ทำให้ยิ่งอยากจะให้ถึงที่พักให้ไวที่สุด ..แต่ตามที่บอกค่ะ..พี่ชายต้องพาแวะไหว้พระ..ยามเย็นอีกหนึ่งวัดก่อนเข้าเมือง..ก้อ..ต า ม นั้ น ..ค่ะ
สัก 2 กม. ไม่ไกลนักแต่เส้นทางที่ขับรถขึ้นไปนั้นกำลังทำถนน ทำให้รถสวนกันออกจะยากสักหน่อย ทำให้กว่าที่พวกเราจะขึ้นไปถึง แสงยามเย็นก้อเริ่มอ่อนล้าลงเรื่อยๆ ทำให้เราต้องรีบ..เดินเร็วๆ แต่ทันใดนั้น เมื่อเห็นโบสถ์อันงดงามปะทะกับแสงระเรื่อๆ เรืองรองเป็นสีชมพูอมส้มในยามเย็นนั้น ทำให้พวกเราต้องอึ้งกับภาพที่เห็น...
เนื่องจากวัดตั้งอยู่บนเขาสูง จะมองเห็นทัศนียภาพและเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดทุกทมุมมอง เพราะจะมองเห็นวิว 360 องศา บริเวณด้านหลังพระอุโบสถจะเห็นแม่น้ำโขงและวิวทิวทัศน์ของทางฝั่งลาว ด่านช่องเม็ก รวมทั้งอ่างเก็บน้ำที่ อยู่บริเวณเชิงเขาคล้ายกับทะเลสาป และในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน เราสามารถเห็นพระอาทิตย์ดวงโต แต่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งที่อาทิตย์ได้ตกไปสะก่อนที่เราไปถึง อีกทั้งได้เห็นแสงสวยๆ น้ำจรดฟ้าจากเขื่อนสิริธรได้อย่างงดงามมากๆ เป็นความสวยงามทุกมุมมอง..เลยล่ะค่ะ
ณ เ ว ล า ห นึ่ ง @ วัดภูพร้าว
..เราได้ขึ้นไปกราบพระ องค์พระสวยมาก พอดีกับเวลาใกล้ค่ำ ไฟได้ส่องสว่างจากองค์พระออกมาอย่างสวยงามมากๆ ค่ะ และเรา..ยังพอมีเวลาเดินกินลมชมวิวได้อีกสักเล็กน้อย กับทุกๆ ภาพ..ที่ได้เห็น..สุดยอดจริงๆ ค่ะ..ทั้งวัด ทั้งโบสถ์ และวิว 360 งดงาม..ตามท้องเรื่องที่พี่ชายบอกไว้..ว่า ถ้าได้เห็น..แล้วจะบอกว่า..เสียดายถ้าไม่ได้มา
และอีกหนึ่งความมหัศจรรย์ของวัดนี้คือ พระอุโบสถเรืองแสง หรือ ต้นกัลปพฤกษ์เรืองแสงหลังโบสถ์ หากเราได้มาถ่ายภาพในเวลา เย็นถึงค่ำหน่อยๆ จะได้เห็นความงดงามของต้นไม้เรืองแสง แต่เป็นที่น่าเสียดายอีกนั่นล่ะ ว่าเราใช้เวลาอยู่ที่นี่ได้เพียงน้อยนิดเกินไป ไม่สามารถเก็บภาพตอนโบสถ์เรืองแสงให้ชมเองได้ เลยต้องขออนุญาตนำภาพสวยจากเว็บไซต์ด้านล่างมาเผื่อแผ่ชาวโอเคกันค่ะ http://www.iloveubon.com/index.php/en/varieties/47-unseen-thailand
เรืองแสงได้อย่างไร... (ข้อมูล: จากอินเตอร์เน็ต) การออกแบบโบสถ์นี้เป็นฝีมือการออกแบบของช่างคุณากร ปริญญาปุณโณ ผู้ลงมือติดโมเสกแต่ละชิ้นด้วยตัวเอง โดยมีแรงบันดาลใจมาจากต้นไม้แห่งชีวิต ในภาพยนตร์เรื่องอวตาร โดยใช้สารเรืองแสง หรือ สารฟลูออเรสเซนต์รอบต้น คุณสมบัติของสารฟลูออเรสเซนต์จะรับแสงพระอาทิตย์ ในตอนกลางวัน พร้อมกับที่ศิลปกรรมชิ้นนี้ ได้หันหน้าไปทางทิศตะวันออก หรือหันข้างไปทางทิศตะวันตก ก็เลยเหมือนเป็นฉากกั้น พลังงาน ในช่วงเวลาตอนกลางวัน แล้วจะฉายแสงออกมาในตอนกลางคืน คือเป็นการคายพลังงานออกมา ตัวอุโบสถมีต้นแบบมาจาก วัดเชียงทอง ประเทศลาว เสาแต่ละต้นลงลวดลายด้วยมือ โดยรอบนอกเป็นลายดอกบัวและสัตว์ทั้งหลายตามคติบัว 4 เหล่า ทางเข้าเป็นต้นสาละ
หัวใจหลักของการทำพุทธศิลป์ คือ การนำเสนอ งานศิลปะที่เกิดจากความสงบ ความเพียร ความอดทน และวิสัยทัศน์ งานแต่ละชิ้นต้องคิดจากความคิดอันวิจิตรและขบคิดมาก่อนทั้งสิ้น อย่างแนวคิดการจำลองให้วัดเป็นเขาพระสุเมรุ ตรงกลางของพระอุโบสถ เป็นที่ตั้งของพระประธาน แต่เดิมที่คล้ายกับพระพุทธชินราช ในจังหวัดพิษณุโลก แต่มีการนำเพียงส่วนรัศมีออกไป เพื่อให้แลดูกลมกลืนกันยิ่งขึ้น พร้อมกับได้ทำฉากหลังเป็นต้นโพธิ์ โดยเบื้องบนติดด้วยแผ่นพระทอง
ขอบอกเลยว่า..ประทับใจมากมาก แม๋.. ถ้าหากว่าเราไม่ได้ไปกราบพระ และชมความงดงามของโบสถ์และวิวทิวทัศน์ของวัดแห่งนี้แล้วละก้อ คง..ต้องบ่นว่า...เสียดายเอามากๆ หากใครเดินทางไปท่องเที่ยวเมืองอุบล ..อย่าลืมแวะไปชมความงดงามของวัดนี้ให้ได้นะคะ หากไม่ได้ไป ถือว่าไปไม่ถึง..อุบลราชธานี..นะ จะบอกให้.. ^__^
การเดินทาง ตัววัดอยู่ห่างจากตัวจังหวัดอุบลราชธานีราว 70 กม. หากเดินทางจากจุดเริ่มต้นที่ตัวจังหวัด ให้ตรงไปยังเส้นทางไป อ.พิบูลมังสาหาร เมื่อถึง อ.พิบูลมังสาหารแล้วจะมีสามแยกไฟแดง ให้เลี้ยวซ้ายไปทาง อ.สิรินธร ขับตรงไปยังเส้นนั้นซึ่งสามารถไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวอย่างพัทยาน้อย ทะเลน้ำจืดคนอุบล หรือเขื่อนสิรินธร ซึ่งอยู่ระหว่างทางได้ วัดจะอยู่ก่อนถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองช่องเม็ก ราว 3 กม. ทางซ้ายมือ จะมีป้ายบอกทางเข้าวัดที่ถนนใหญ่เลย โดยเลี้ยวซ้ายเข้าไปอีกราว 2 กม. |