เย็นวานนี้ ๓๑ ก.ค.๕๙  ขณะเดินทางกลับจากการสังเกตการณ์การอบรมผู้นำแห่งยุคฯ  ของมูลนิธิบุคคลพอเพียง ที่ ชมรมคนรักในหลวงพื้นที่ภาคใต้ จัดขึ้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ปรากฏว่า มีมิตรรักแฟนเพจผู้ใช้นามว่า Maliwan Kot จากจังหวัดเชียงใหม่ฝากคำถามเอาไว้ว่า ขอให้คุณภาณุมาศช่วยอ่านและศึกษามาตรา 195 ด่วนด้วยค่ะ อุทธรณ์ได้ช่วยใครหรือเปล่า

เช้าวันนี้จึงต้องกางร่างรัฐธรรมนูญที่ กกต.จ้างหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ พิมพ์เผยแพร่เมื่อวันที่ ๒๗ ก.ค.๒๕๕๙ ขึ้นมาดู ปรากฏว่า มาตรา ๑๙๕ นี้อยู่ในส่วนที่ ๒ ศาลยุติธรรม ครับ

ผมอ่านดูแล้ว ในร่างฯ กำหนดวิธีพิจารณาคดีของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ถูกกล่าวว่าจะต้องทำ อย่างไรบ้าง ซึ่งก็เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกระบวนการยุติธรรม

แต่ที่ผู้ใช้นามว่า Maliwan Kot วิตกกังวล น่าจะมาจากข้อความในวรรคสามของมาตรา ๑๙๕ ที่ระบุว่า

“คำ พิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้อุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาได้ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษา” นะครับ

เพราะที่ผ่านมาก่อนที่ คสช.จะยึดอำนาจ เป็นที่ทราบกันดีว่า หากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินใครว่ามีความผิดจริงแล้ว จะอุทธรณ์ไม่ได้

ผู้ใช้ นามว่า Maliwan Kot จึงสงสัยว่าเขียนไว้เพื่อ “ช่วยใครหรือเปล่า” และขอให้ผมอ่านและศึกษามาตรา ๑๙๕ เป็นการด่วน – หลังจากอ่านมาตรา ๑๙๕ จนครบถ้วนแล้ว ผมเข้าใจว่า

มาตรา ๑๙๕ ในร่างรัฐธรรมนูญนี้ คงไม่เอื้อประโยชน์ให้ใครกระมังครับ เพราะในวรรคท้ายได้ระบุเงือนไขเอาไว้ด้วยว่า

“หลัก เกณฑ์และวิธีการอุทธรณ์ตามวรรคสี่ และการพิจารณาวินิจฉัยตามวรรคห้า ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” ครับ

เท่ากับว่าข้อความใน มาตรา ๑๙๕ ยังไม่มีข้อยุติ ต้องรอพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรง ตำแหน่งทางการเมือง หรือที่เรียกกันว่า “กฎหมายลูก” นั่นแหละ เสียก่อน

ซึ่งหากร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ผ่านประชามติแล้ว  ในบทเฉพาะกาล มาตรา ๒๖๗ กำหนดให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญชุดนี้ จะต้องอยู่ร่างกฎหมายลูกที่เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญอีก ๑๐ ฉบับครับ

ในกฎหมายลูกทั้ง ๑๐ ฉบับนั้น มีข้อความใน (๖) ว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่ง ทางการเมือง – ซึ่งก็คงจะยึดโยงกับมาตรา ๑๙๕ นั่นแหละ

ดังนั้นจึงขอเรียนผู้ใช้นามว่า Maliwan Kot ได้กรุณาอ่านมาตรา ๒๖๗ ในร่างรัฐธรรมนูญและทำความเข้าใจอีกครั้งนะครับ หรือหากใครที่แตกฉานในเรื่องนี้จะกรุณาให้ความกระจ่างเพิ่มเติมก็ช่วยด้วย ครับ

นับจากวันนี้เหลือเวลาอีก ๖ วันก็จะถึงวันลงประชามติแล้ว จึงไม่ควรให้มีอะไรค้างคาอยู่ในใจครับ ผมเองก็พยายามอ่านและทำความเข้าใจไปแล้ว ๒ รอบ รอบแรกอ่านผ่านตา รอบสองเจาะเป็นเรื่อง ๆ ไป

ในฐานะ ประชาชนคนหนึ่งขอเรียนท่านผู้มีเกียรติว่า ผม “รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้” แต่ไม่ได้ชี้นำใครว่าควรรับหรือไม่ควรรับนะครับ

แหมก็ขนาดนักการเมืองดัง  ๆ เขายังบอกได้เลยนี่ครับว่า รับ หรือ ไม่รับ !