เมื่อวันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม 2559 คุณสิทธิชัย หยุ่น เขียนบทความในคอลัมน์กาแฟดำ หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ เรื่อง ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง : ของขวัญจากไทยแด่โลกอันไม่ยั่งยืน ถูกใจผม จนอดที่จะนำมาถ่ายทอดต่อไม่ได้

คุณสุทธิชัย เขียนว่า “สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้รับหนังสือที่ทรงคุณค่าสองเล่ม จากมูลนิธิมั่นพัฒนา เนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษ วิเคราะห์และเล่าขานถึง “ศาสตร์พระราชา.. เศรษฐกิจพอเพียง” ไปยังสังคมโลก

หนังสือเล่มนี้มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า Sufficiency ThinkinG มีคำขยายว่า Thailand s gift to an unsustainable world ซึ่งคุณสุทธิชัยแปลว่า “ความคิดคำนึงเรื่องความพอเพียง.. ของขวัญประเทศไทยแด่โลกอันไม่ยั่งยืน”

คุณสุทธิชัย บอกว่าหนังสือนี้ได้อาจารย์ระดับโลกอย่าง ดร.เอเวอรี นักบุกเบิกในแวดวงวิชาการด้านภาวะผู้นำแบบพอเพียงเป็นที่ยอมรับทั้งในเอเซีย ยุโรป อเมริกาเหนือและออสเตรีย เป็น บรรณาธิการ

ในหนังสือนั้น ดร.เอเวอรี เขียนว่า ประเทศไทยได้สร้างความน่าประทับใจเพราะประสบความสำเร็จในการทำเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้ง ๆ ที่ไทยเราเป็นประเทศเล็ก

ระบบเศรษฐกิจก็เล็ก คนข้างนอกไม่คิดว่าประเทศนี้จะคิดอะไรลึกซั้งแบบเศรษฐกิจพอเพียงและนำมาปฏิบัติในภาคส่วนต่าง ๆ ทั่วประเทศจนเรียกได้ว่าเป็นผู้นำทางด้านนี้ของโลก

ดร.เอเวอรี บอกว่า ประเทศไทยเป็น “แม่แบบที่เหนือความคาดหมาย” ในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงเพราะประเทศส่วนใหญ่ในโลกกำลังเผชิญกับปัญหาแนวทางเศรษฐกิจที่คิดแต่ระยะสั้น เพราะติดกับระบบทุนนิยมไร้ขีดจำกัดและขาดคุณธรรม

จึงมีปัญหาว่าจะไม่ยั่งยืน ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาประเทศที่รังแต่จะพบทางตัน ทรัพยากรธรรมชาติร่อยหรอ ภาวะโลกร้อน ความเหลื่อล้ำต่ำสูง และการขาดผู้นำที่มีคุณธรรม

แล้วคุณสุทธิชัย เกิดเปิดหนังสืออีกเล่มหนึ่งเป็นคู่มือที่ให้ข้อมูลและแนวคิดรวมไปถึงเรื่องราวที่เกี่ยวกับ “การพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศ” ที่รวบรวมทุกประเด็นเกี่ยวกับปรัชญาและแนวทางแห่งเศรษฐกิจพอเพียงที่ค้นหาง่าย อ่านง่าย..

คุณสุทธิชัยแสดงความเห็นผ่านบทความของท่านว่า คนไทยเองอาจจะแปลกใจว่าต่างชาติเห็นว่าไทยเราเป็น “แม่แบบ” ของเรื่อง “การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ผ่าน “เศรษฐกิจพอเพียง” ได้อย่างไร

แต่สำหรับนักวิชาการและนักวิจัยที่ลงไปค้นคว้าศึกษาอย่างนักวิชาการทั้งไทยและต่างประเทศอย่างที่เขียนวิเคราะห์ไว้ในหนังสือสองเล่มนี้ สิ่งที่ประเทศไทยได้ตามแนวทางนี้มีผลงานเด่นชัดที่วัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรมอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ

คุณสุทธิชัย เขียนถึง รองเลขาธิการพระราชวัง ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ คือ ดร.จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิมั่นพัฒนา ซึ่งตั้งเมื่อ 25 กรกฎาคม 2557 ด้วยว่ามูลนิธิฯนี้

ตั้งขึ้นมาเพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืนในประเทศไทยในมิติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม ได้นำหลัก “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาประยุกต์ใช้ในวงกว้าง

และคุณสุทธิชัย ยังได้นำบทสัมภาษณ์ที่หนังสือพิมพ์มติชน ขอสัมภาษณ์ ดร.จิรายุ มาตีพิมพ์เผยแพร่อย่างละเอียดจึงค่อนข้างยาว ผมจึงขอยกยอดไปนำเสนอต่อในวันพรุ่งนี้นะครับ !