วานนี้ 15 สิงหาคม 2559 ผมนำได้เสนอบทความเรื่อง ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง : ของขวัญจากไทยแด่โลกอันไม่ยั่งยืน ซึ่งเขียนโดยคุณสุทธิชัย หยุ่น ว่าได้รับหนังสือสองเล่มจากมูลนิธิมั่นพัฒนา ที่เขียนนักวิชาการชาวต่างชาติไปแล้ว

และบอกว่าวันนี้จะนำเสนอบทสัมภาษณ์ที่หนังสือพิมพ์มติชนสัมภาษณ์ ดร.จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ในฐานะ ประธานมูลนิธิมั่นพัฒนา ต่ออีกหนึ่งวัน – ก็ขอเชิญอ่านต่อเลยครับ

คุณสุทธิชัย เริ่มว่า คุณจิรายุให้สัมภาษณ์ “มติชน” เล่าถึงที่มาของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงว่า…

“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รับสั่งถึงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงครั้งแรกเมื่อปี 2517 คนไทยให้ความสนใจมากคือเมื่อปี 2540 เมื่อเกิดวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง

ก่อนเกิดต้นยำกุ้งพระองค์ทรงเคยรับสั่งว่า เราอย่าเป็นเสือกันเลย ไปพัฒนาเศรษฐกิจให้ทุกคนยกระดับขึ้นมา กระทั่ง 2540 เศรษฐกิจล่มสลาย

พระองค์รับสั่งแนะว่า อย่าไปทำแบบไม่ยั่งยืน มาสร้างพื้นฐานให้คนทั่ว ๆ ไป ได้มีความอยู่ดีกินดีตามอัตภาพเสียก่อน แล้วค่อยสร้างบนพื้นฐานที่มันคง ประเทศจะเจริญเติบโต ไม่ล้มครืนลงมาระหว่างที่ฐานไม่ดี…”

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเปรียบเทียบ “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” เหมือน “เสาเข็ม”

“พระองค์รับสั่งว่าบ้านเรือน ถ้าจะให้มั่นคงต้องมีเสาเข็ม แต่เสาเข็มอยู่ใต้ดิน เพราะฉะนั้นจะไม่มีใครเห็น จะลืมเกี่ยวกับบทบาทของเสาเข็ม

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงก็เหมือนเสาเข็ม ที่เป็นรากฐานแห่งความมั่นคง แต่มองไม่เห็น ถ้าพื้นฐานคนไม่มีความอยู่ดีกินดีตามอัตภาพแล้ว ไปสร้างอะไรใหญ่โตบนสิ่งที่ไม่มีพื้นฐานมั่นคง จะล้มลงมาง่าย…”

คุณจิรายุเสริมว่า หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมี 3 ข้อคือ พอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน บวก 2 เงื่อนไขคือ ความรู้คู่คุณธรรม

“สิ่งที่จะมาลดความเสี่ยง ทำให้รากฐานมั่นคงไม่ล้มลงง่ายคือการมีความคิดแบบพอเพียง ไม่โลภ และมีความรู้คู่คุณธรรม…”

ความรู้แบ่งได้เป็น 3 อย่างคือ

1.ความรู้ของชาวบ้านหรือปราชญ์ชาวบ้าน

2.ความรู้จากศาสตร์พระราชา ตามโครงการพระราชดำริต่าง ๆ หรือตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

3.ความรู้ใหม่ ๆ ซึ่งเราไม่ปฏิเสธที่จะใฝ่รู้

และอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือ “ผู้นำที่มีคุณธรรม”

คุณจิรายุ ยืนยันว่า ถ้ามีครบทั้งหมดนี้ จะประสบความสำเร็จในการพัฒนาที่ยั่งยืนแน่นอน

ในตอนท้าย คุณสุทธิชัยเขียนว่า “ใครยังไม่ได้หนังสือสองเล่มนี้ ผมแนะนำให้หามาอ่าน รับรองว่าได้ความรู้ ความกระจ่างและแรงบันดาลใจอย่างเหลือล้น”

จำได้ว่า วันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม 2559 ซึ่งผมถ่ายภาพบทความของคุณสุทธิชัย หยุ่น ลงเผยแพร่ในเฟซบุ๊กภาณุมาศ ทักษณา นั้น ผมเขียนปะหน้าไว้ว่า

อยากให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์ มูลนิธิมั่นพัฒนา ส่งหนังสือ 2 เล่มนี้ให้ทีมเศรษฐกิจรัฐบาลอ่าน เพื่อที่จะได้รู้จัก ศาสตร์พระราชา กับเขาสักที !..

เพราะอะไรผมจึงเขียนอย่างนั้น พรุ่งนี้อ่านความเห็นผมนะครับ !