กลาง เดือนกันยายน 2559 นี้ ข่าวน้ำหลากจากภาคเหนือมุ่งหน้าสู่พื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย เป็นข่าวใหญ่ข่าวหนึ่งที่ผู้คนทั้งประเทศต่างติดตามและเฝ้ามองว่า จะท่วมหรือไม่..

เพราะ ในเดือนสิงหาคมปีเดียวกันก็มีน้ำหลากลงมาในลักษณะนี้ แต่ทางจังหวัดก็สามารถป้องกันน้ำท่วมเอาไว้ได้ จนนายกรัฐมนตรีออกปากชมผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัยว่าเตรียมการดี

แต่ คราวนี้จังหวัดสุโขทัยเตรียมการไม่ดีหรือเปล่าไม่ทราบ น้ำจึงเล็ดลอดเข้าไปตามร่องและรูที่อุดเอาไว้ จนท่วมบ้านเรือนที่อยู่ริมแม่น้ำยม จนชาวบ้านแอบนินทาผู้ว่าราชการจังหวัดว่าไร้ฝีมือ…

ระหว่าง นั้น ผมได้เขียนบทความบอกถึงสาเหตุที่ทำให้น้ำท่วมอำเภอเมือง สุโขทัย และวิธีป้องกันหรือการแก้ไขเอาไว้ 2-3 เรื่อง หากท่านที่ยังไม่เคยอ่านกรุณาคลิกมาดูที่สำนักข่าวเจ้าพระยาได้

แล้วหลังจากนั้น ผมก็จะส่งบทความทั้งหมดใส่ซองส่งถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช., พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรฯ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย

เพื่อ ให้แต่ละท่านที่มีหน่วยงานในสังกัดได้เร่งรัดการป้องกันน้ำท่วมในคราวต่อไป ด้วยการขุดลอกลำคลองที่มีอยู่เพื่อเป็นทางน้ำไหล โดยผมเน้นไปที่การดึงน้ำจากแม่น้ำยมไปเข้าแก้มลิงทุ่งทะเลหลวงเป็นสำคัญ

ปรากฏว่า วันอังคารที่ 20 ก.ย.59 พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรฯ ให้ข่าวว่าได้เรียกประชุม 4 หน่วยงาน คือ กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

โดย ให้ทั้ง 4 หน่วยงานบูรณาการการแก้ปัญหาดังกล่าว ด้วยการขุดคลองเชื่อมแม่น้ำยมกับ 3 บึงที่อยู่ในอำเภอบางระกำจังหวัดพิษณุโลกนั่นคือ บึงระมาณ บึงขี้แร้ง และบึงตะเคร็ง เพื่อทำแก้มลิงเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง

การ เก็บน้ำใน 3 บึงนั้นจะเป็นเหมือนอ่างพวง เก็บน้ำได้ประมาณ 35 ล้านลูกบาศ์กเมตร โดยจะให้กระทรวงมหาดไทยไปเจรจากับชาวบ้านเจ้าของที่ดิน เมื่อได้รับการยินยอมก็จะให้กรมชลประทานลงมือขุดคลองทันที

พล.อ.ฉัตร ชัยบอกว่า ได้สั่งให้กรมชลประทาน เกลี่ยเงินงบประมาณปี 2560 จำนวน 772 ล้านบาทมาใช้ในการนี้ เพื่อเชื่อว่าหากทำสำเร็จจะสามารถ “ตัดน้ำมาจากแม่น้ำยม” ไม่ให้ไหลไปยังตัวเมืองจังหวัดสุโขทัยได้…

หลังจากทราบข่าวนี้ ผมก็ได้แต่ยกมือท่วมหัวโมทนาสาธุกับการทำงานของ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตร และรีบนำเรื่องนี้มาบอกเล่าให้ชาวสุโขทัยและพิษณุโลกรับทราบทันที

จริง อยู่หลายท่านอาจจะกังขาว่า เหตุใดท่านรัฐมนตรีเกษตร ไม่สั่งการขุดคลองส่งน้ำมายังแก้มลิงทุ่งทะเลหลวงโดยตรงตามที่ผมเขียนบทความ เรียกร้องไป แต่กลับสั่งขุดคลองส่งน้ำไปที่บางระกำ

…ตรง นี้แหละครับ ที่ผมแสดงความชื่นชมท่าน ว่าเป็นการวางแผนแก้ภัยแล้งและน้ำท่วมสุโขทัยอย่างสุขุมคัมภีรภาพ ทั้งที่รู้ว่า คนสุโขทัยต้องการให้ท่านทำอะไร

เพราะ ถ้าท่านบู่มบ่าม ขุดคลองเข้าทุ่งทะเลหลวงตามที่คนสุโขทัยต้องการ ก็อาจมีปัญหาตามมาได้ เพราะอย่างที่รู้กันอยู่ว่า ทุ่งทะเลหลวงเกิดขึ้นมาได้โดยใคร และเพราะอะไร

ดังนั้นการแตะทุ่งทะเลหลวงจึงเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและอ่อนไหวอย่างยิ่ง ท่านรัฐมนตรีจึงต้องใช้เวลาในการศึกษาถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นอย่าง รอบคอบก่อน

ซึ่ง ผมก็เห็นด้วยที่ท่านรัฐมนตรีจะเป็นผู้ตัดสินใจสั่งการแต่เพียงผู้เดียว รอให้นายกรัฐมนตรีกลับจากสหรัฐอเมริกา แล้วนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.) น่าจะเหมาะสมกว่า

จึง ขอฝากมายังญาติพี่น้องในจังหวัดสุโขทัยที่ไม่เข้าใจการตัดสินใจของท่าน และรู้สึกน้อยใจท่านรัฐมนตรี กรุณาเข้าใจอย่างที่ผมเข้าใจด้วยนะครับ เพราะผมเชื่อมั่นว่าเมื่อเรื่องถึง ครม.แล้ว

การ แก้ปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งอย่างยั่งยืนของจังหวัดสุโขทัยจะต้องเกิดขึ้น อย่างแน่นอน ก็ขนาดบึงระมาณ บึงขี้แรง และบึงตะเคร้ง ที่เคยมีโครงการทำแก้มลิงแล้วถูกทิ้งขวางเอาไว้ ท่านยังยื่นมือเข้าไปสานต่อ

ซึ่งผมเข้าใจว่า ท่านคงศึกษาดีแล้วว่า หากสามารถขุดคลองส่งน้ำจากแม่ยมไปเก็บใน 3 บึงจนเป็น “แก้มลิงบางระกำ” สำเร็จ

ต่อไปน้ำก็คงจะไม่ท่วม ทั้งสุโขทัยและพิษณุโลกในบางพื้นที่เลยนี่ครับ แล้วทำไมกับ ทุ่งทะเลหลวง ที่แสนจะโด่งดัง ทำไมท่านจึงจะไม่รู้

ใน ฐานะคนเขียนหนังสือที่เคยเรียกร้องให้ทุกรัฐบาล ทุกรัฐมนตรีเกษตร จนมาถึงท่านรัฐมนตรี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ วางแผนแก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งมาเป็นเวลายาวนาน

และในฐานะคนสุโขทัยคนหนึ่ง ผมขอกราบขอบพระคุณท่าน พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ มา ณ โอกาสนี้ครับ !