*/
<< | มิถุนายน 2014 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 |
การชุมนุมต่อต้านรัฐประหาร (คสช.) ดูเหมือนจะเป็นคลื่นใต้น้ำที่ทำกันอย่างเงียบๆ มีการส่งข่าวสารถึงกันทางโซเชียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊ค ไลน์ อินสตาแกรม แล้วก็นัดหมายกันออกไปปรากฏตัวตามจุดต่างๆ ว่ากันว่าเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์โดยสงบเมื่อเสร็จภารกิจแล้วต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันกลับออกไปจากพื้นที่นัดหมาย เช่น การชุมนุมต่อต้านรัฐประหาร ที่ห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2557 ผ่านมา การชุมนุมแบบที่รวมตัวและสลายฝูงชนอย่างรวดเร็ว หรือ "ม็อบมาเร็วเคลมเร็ว" นี้ มีศัพท์เรียกว่าเป็น "พวกแฟลชม็อบ” (flashmob)
ข้อมูลจาก วิกิพีเดียระบุว่า แฟลชม็อบ (อังกฤษ: flash mob หรือ flashmob) คือการรวมตัวของกลุ่มคนในสถานที่หนึ่งอย่างฉับพลัน เพื่อแสดงสิ่งแปลกตาและดูเหมือนไม่มีจุดมุ่งหมายในช่วงระยะเวลาอันสั้น จากนั้นจึงสลายตัว มักจะทำเพื่อจุดประสงค์การบันเทิง การล้อเลียน หรือการแสดงออกทางศิลปะ แฟลชม็อบเกิดขึ้นโดยการนัดกันผ่านการสื่อสารโทรคมนาคม เครือข่ายสังคม หรืออีเมลแบบปากต่อปาก ศัพท์คำนี้เกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2546 โดยทั่วไปไม่ได้ใช้กับเหตุการณ์หรือการแสดงที่จัดขึ้นเพื่อจุดประสงค์ทางการเมือง (เช่น การประท้วง) การโฆษณาเชิงพาณิชย์ การจัดฉากโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานประชาสัมพันธ์ หรือผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการว่าจ้าง กรณีถ้ามีจุดประสงค์ที่ได้วางแผนไว้เพื่อกิจกรรมทางสังคมดังกล่าว จะเรียกว่าสมาร์ตม็อบแทนเช่น แฟลชม็อบแสดงการต่อสู้ด้วยหมอน ในดาวน์ทาวน์ของโตรอนโต(พ.ศ. 2548) เพื่อให้ผู้คนที่ผ่านไปมาประหลาดใจ
แฟลชม็อบ ในเมืองไทยเกิดขึ้นหลายครั้งหลายคราว เช่น ม็อบต้านรัฐประหารซึ่งชักชวนกันไปชู 3 นิ้วให้แก่สาธารชนเห็น การนัดหมายมายืนอ่านหนังสือในที่สาธารณะ การจุดเทียนของกลุ่มคนเสื้อแดงที่สนับสนุนรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ที่บริเวณหอศิลป์ กทม. หรือตัวอย่างของ แฟลชม็อบ เช่นเดียวกัน รวมทั้งที่เพิ่งเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ที่เป็นการชุมนุมต่อต้านรัฐประหาร (คสช.) ที่เกิดขึ้นบริเวณสี่แยกราชประสงค์หรือวันถัดๆ มาเกิดขึ้นที่ห้างเทอร์มินอล 21 เป็นต้น ล้วนเป็นการสร้างจุดเด่นหรือความประหลาดใจแก่ผู้คนที่พบเห็นและต้องการให้ภาพสื่อออกไปยังสื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดีย เพื่อสร้างความสนใจแก่ผู้รับรู้ข่าวสารนี้ ..เสร็จแล้วก็เลิกลากันไป มีเรี่ยวแรง(จากการยั่วยุ)ก็ออกมาแสดงพลังกันใหม่ เป็น "พฤติกรรมฝูงชน"... แฟลชม็อบ
ที่ผ่านมา.. เจ้าหน้าที่บ้านเมืองของเราได้มีการรับมือกับม็อบ เช่นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิมีภาพข่าวการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหาร เป็นภาพข่าวที่ถูกเผยแพร่ออกไปทั่วโลก เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารจึงได้มีการปรับแผนการรับมือ โดยแจ้งข้อหากับผู้ชุมนุมว่า การชุมนุมต่อต้านรัฐประหารเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เพราะขัดต่อประกาศ คสช. ฉบับที่ 7 เรื่อง ห้ามชุมนุมทางการเมืองที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป นอกจากนี้อาจผิดกฎหมายที่ทำให้เสียทรัพย์อีกด้วย เช่น ได้มีชายคนหนึ่งเข้าไปปล่อยลมยางรถยนต์ฮัมวี่ของทางทหารที่จอดอยู่ รวมทั้งที่มีหญิงสาวเป็นข้าราชการกระทรวงหนึ่งใส่สีสเปรย์พ่นใส่รถทหาร ทั้งหมดเป็นการทำลายทรัพย์สินของทางราชการ
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. ได้ให้ข้อมูลผ่านรายการทีวีช่องหนึ่งถึงวิธีการที่ คสช.ใช้รับมือ "แฟลชม็อบ" กลุ่มคนต่อต้านการทำรัฐประหาร โดยสรุปว่า เจ้าหน้าที่ได้ใช้วิธีการถ่ายภาพเพื่อระบุตัวบุคคลผู้กระทำความผิดและพฤติกรรมอย่างชัดเจน โดยมีตำรวจนอกเครื่องแบบแฝงเข้าไปในกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อมาร์ก(mark)ตัวผู้กระทำผิด แล้วส่งข้อมูลให้แก่ทหาร (คสช.) เพื่อพิจารณาคัดกรองอีกชั้นหนึ่ง และหากมีการจับตัวผู้กระทำความผิดซึ่งกระทำอย่างเปิดเผยได้แล้ว ก็จะนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและเพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติ “แม้ดูเหมือนว่าพฤติกรรมจะไม่รุนแรง แต่คำสั่งคสช.ก็เปรียบได้กับกฎหมาย หากฝ่าฝืนก็ต้องมีความผิดต้องติดตามจับกุมดำเนินคดี ซึ่งข้อหาดังกล่าวต้องนำตัวผู้ต้องหาไปขึ้นศาลทหารให้มีการตัดสิน โดยมีอัตราโทษสูงสุดคือจำคุก 3 ปี” (เช่น กรณีของนายสมบัติ ซึ่งมีพฤติการณ์ปล่อยลมรถฮัมวี่ริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา)
ผู้เขียนมองว่า ท่ามกลางบรรยากาศที่กำลังจะไปกันด้วยดี คสช. ได้พยายามนำการเปลี่ยนแปลงประเทศไปในทางที่ดีขึ้น ภายใต้แคมเปญ "คสช. คืนความสุขให้แก่ประชาชนไทย" แม้จะต้องปกครองด้วยกฎระเบียบวินัยอย่างเข้มงวดแบบทหารชั่วขณะเวลาหนึ่ง แต่ก็ให้ประชาชนมีเสรีภาพในระดับหนึ่ง และถ้าหากประชาชนคนไทยเข้าใจ ให้ความร่วมมือกัน เราก็สามารถออกไปสู่ระบอบประชาธิปไตยฯ ที่คนไทยรอคอยกันได้ในเวลาไม่นาน และอาจจะดีกว่าที่จะมาเสียเวลาร่างกติกาด้วยวิธีการของ สส.ในสภา เนื่องจากมีตัวอย่างให้เห็นแล้วว่า “ช้าและเสียเวลา” วิธีการดังกล่าวคนไทยไม่คุ้นกับวิธีการตามแบบประชาธิปไตยนัก แล้วประชาชนยังถูกใช้เป็นเครื่องมือของนักการเมืองอีกด้วย !!!
แฟลชม็อบ ในการชุมนุมต่อต้านรัฐประหาร (คสช.) จะไม่เป็นวัฒนธรรมแห่งสังคมวิทยาที่เกิดขึ้นในหมู่นักวิชาการ นักเรียน นักศึกษา ที่ขยายวงกว้างออกไปจนเป็นอุปสรรคต่อบรรยากาศการพัฒนาประเทศ โดยไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนและไม่มีการใช้กำลังปราบปรามดังเช่นที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารได้ใช้ความพยายามที่ผ่านมา รวมทั้งการกดดันและเชิญตัวบุคคลสำคัญที่เป็นแกนนำหรือผู้ที่อยู่เบื้องหลังเข้ารายงานตัว เข้าปรับทัศนคติกับชุดปฏิบัติการจิตวิทยา แฟลชม็อบส่วนหนึ่งน่าจะมีการชักจูง ชักนำ หรือว่าจ้างโดยแกนนำบางคน
"แฟลชม็อบ" จึงน่าจะเป็นวัฒนธรรมฝูงชนที่เกิดขึ้นในห้วงสั้นๆ และบ้านเมืองจะเข้าสู่ความสงบสุขได้โดยเร็ว
...................................
|
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |